ธรรมสัญจร - เยอรมนี (3-4)
หลังจากที่ท่านอ.สุจินต์ ได้เดินทางไปธรรมสัญจร ที่ประเทศเยอรมนีแล้ว ก็มีกลุ่มสหายธรรมส่งภาพ และบันทึกเสียง ทยอยกลับมาอย่างต่อเนื่อง ...
27 เม.ย. 2558
ความติดข้องคือตัวโลภะในใจของแต่ละคนติดข้องใจสิ่ง ที่ปรากฎแล้วยึดถือว่าเป็นของเราตัวโลภะที่มีอยู่แล้วในใจ พร้อมที่จะติดข้องในอะไรก็ได้ ไม่ใช่เพราะสิ่งนั้นแต่เพราะตัว โลภะมี เพราะฉะนั้นผู้ที่ดับโลภะแล้วไม่หวั่นไหวเลย ...
ตราบใดที่ยังมีกิเลิสอยู่ ไม่รู้เลยว่าเมื่อไหร่จะเกิด ประมาทไม่ได้เลย แล้วก็ในลักษณะไหนด้วย ...
จะฟังอย่างไรก็ตามต้องจบลงที่ไม่ใช่เรา ไม่ใช่สัตว์ บุคคลตัวตน เป็นธาตุที่สามารถ กระทบตา จะฟังทั้งหมดจะกี่ชาติ เพื่อน้อมไปสู่ความเป็นอนัตตา ...
ข้อสำคัญก็คืออะไรก็ตามที่เกิดแล้ว ปัญญาไม่มากพอที่จะรู้ว่าเป็นธรรมะ ทุกอย่างเหมือนเดิม แต่ปัญญาค่อยๆ เจริญขึ้น จนกระทั่งเข้าใจจริงๆ ว่าเป็นธรรมะ ไม่ใช่เพียงได้ยินว่าเป็นธรรมะ
เข้าใจสิ่งที่กำลังมีทีละเล็กทีละน้อย แสดงว่าถ้าเรายังไม่สามารถรู้ว่าขณะนี้ เป็นเพียงสิ่งที่ปรากฎให้เห็นได้เราก็ฟัง มาน้อยมาก ... ธรรมะสมบัติย่อมดีกว่าเพราะเป็นปัญญา หน้าที่ทางโลกคือหน้าที่ของกิเลส
ปัญญานำไปในกิจทั้งปวงแม้ในเรื่องโลก ยุติธรรมคือธรรมะที่สมควรคือความถูกต้อง แต่ถ้าเป็นความไม่ถูกต้องถึงทำไปยังไงๆ ใน ที่สุดก็ต้องเดือดร้อน แม้แต่คิดที่จะทำในความไม่ถูกต้อง เป็นทุกข์เพราะกิเลส ...
... กราบอนุโมทนา
คำว่าอบรมความเข้าจนปัญญาค่อยๆ เจริญ นี้เป็นจริงๆ พระปัญญาของพระผู้มีพระภาคลึกล้ำ เพราะเกิดจากการบำเพ็ญความดีทั้งมวล พระธรรมที่ทรงแสดงไม่เคยสอนให้เกิดอกุศลจิตเลย ขณะเดียวกันเป็นแนวทางที่จะให้เกิดปัญญา หากพิจารณา ไตร่ตรอง มันค่อยๆ ซึมซับ เหมือนท่านอาจารย์สุจินต์บรรยาย การจับด้ามมีด สติจะค่อยทำหน้าที่ของตน เป็นความรู้ที่ผู้รู้ รู้ได้ด้วยตนเอง กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์สุจินต์เป็นอย่างสูง มาณ.ที่นี้ด้วยค่ะ