ฟังให้เข้าใจอย่างไร
ตลอดเวลาที่ฟังการบรรยายของท่านอาจารย์สุจินต์ และท่านวิทยากรทุกท่านมา ท่านจะกล่าวตลอดเวลาว่าต้องฟังให้เข้าใจพิจารณาทุกคำที่ได้ฟังมา จนเป็นความรู้ของตนเองอย่างนี้ใช่ไหมคะที่เรียกว่าความเข้าใจ เช่นฟังมาว่าท่านเศรษฐีที่ตระหนี่แล้วภายหลังท่านมาสละทรัพย์ทั้งหมดที่มีเพื่อประโยชน์สุขแก่ผู้อื่นและท่านก็เป็นพระโสดาบัน หากขาดการพิจารณาก็จะไปทำตาม ที่จริงท่านสะสมความเข้าใจมานาน จนกว่าท่านจะมาถึงเหตุที่ต้องทำให้ท่านสละทรัพย์ทั้งหมดที่ท่านมี แล้วออกบวช แล้วท่านคือใคร แล้วเราคือใคร ทำได้จริงหรือ เอาแค่นี้ก่อน ลองไปมอบทรัพย์ทั้งหมดให้การกุศลอะไรซักอย่าง ให้เพราะไม่ไตร่ตรอง ก็มามีทุกข์ทีหลังเพราะยังไม่ประจักษ์แจ้งสภาพธรรมะที่มีจริงๆ ขณะนั้น จึงต้องค่อยๆ น้อมจิตระลึกในสภาพธรรมะทั้งปวง จนกว่าถึงกาละ กุศลจิตจะทำหน้าที่ของเขาเอง ขอความกรุณาท่านอาจารย์ให้ความกระจ่างในกรณีนี้ด้วยค่ะ กราบขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ฟังพิจารณาเป็นปัญญาของตนเอง เพราะ เป็นการฟังที่แยบคาย ที่ถูกตรงตามพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง โดยไม่คิดเองนอกเหนือพระธรรม ฟังคำใด เข้าใจอย่างละเอียดในคำนั้น ไม่เผิน เมื่อเข้าใจถูกเช่นนี้ ก็จะเข้าใจไปตามลำดับ และ สนทนา สอบถาม เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้เข้าใจถูกขึ้น ครับ ซึ่งทุกอย่างก็ไม่พ้น จากการฟัง ศึกษาพระธรรมที่จะเป็นอุปการะมากกับปัญญา ครับ ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เครื่องเกื้อกูลที่ดีที่สุด คือ พระธรรม ครับ
พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ๔๕ พรรษา โดยละเอียด โดยประการทั้งปวง นั้น เป็นเครื่องกันความเห็นผิด ถ้าผู้ศึกษาเป็นผู้ที่ละเอียด รอบคอบ พิจารณาไตร่ตรอง ก็จะพ้นจากความเห็นผิดได้ และประการที่สำคัญ พระธรรมทั้งหมด เป็นไปเพื่อละตั้งแต่ต้น กล่าวคือ ละความเห็นผิด ละความไม่รู้ รวมถึงกิเลส อกุศลประการอื่นๆ ด้วย ครับ.
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ทุกอย่างมาจากเหตุปัจจัย ยิ่งมีปัญญาก็ยิ่งสละความติดข้อง สละวัตถุสิ่งของ สละกิเลส สละความยึดมั่นถือมั่นในตัวตน ฟังแล้วเข้าใจคือปัญญา และ ปัญญาก็มีหลายระดับ ค่ะ
แต่ละหนึ่งที่เกิดขึ้นเห็น ได้ยิน ต่อจากนั้นเป็นกุศล อกุศล ตามการสะสมของแต่ละคน บางท่านเห็นสิ่งเดียวกันอีกคนหนึ่งพอใจ แต่อีกคนขุ่นเคืองใจ เป็นเพราะสะสมมาต่างๆ กัน ฟังธรรมให้เข้าใจความเป็นธรรมว่าแต่ละขณะที่เกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุปัจจัย เป็นธรรม ไม่ใช่เรา
...ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ...