ไม่พัก ไม่เพียร ข้ามโอฆะได้
อบรมความเข้าใจสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏ ค่อยๆ สะสมความเข้าใจด้วยความเป็นอนัตตา ไม่พัก ไม่เพียร ไม่พักด้วยอกุศลที่เกิดในชีวิตประจำวัน ไม่เพียรด้วยความเป็นเรา หากไม่เพียรด้วยปัญญาก็ผิดหมด เพียรด้วยความเข้าใจถูกเห็นถูกคือทางสายกลาง มัชฌิมาปฏิปาทา ไม่พักด้วยการไม่ศึกษาความจริงที่ทรงตรัสรู้ ทรงแสดงสิ่งที่มีจริง มีเห็น ได้ยิน มีเสียง มีสิ่งที่ปรากฏทางตา มีโกรธ มีคิดนึก เพียรศึกษาเข้าใจสิ่งที่มีจริง ขณะที่เข้าใจขณะนั้นวิริยเจตสิกเกิดแล้ว ไม่ใช่เราเพียร ปัญญาเท่านั้นที่จะรู้ว่าชีวิตที่ผ่านมา พักมาก เพียรมากซึ่งผิด ขณะใดเพียรด้วยความเป็นเราซึ่งผิดทาง ไม่ใช่อนัตตา หนทางอบรมเจริญปัญญานั้นละเอียด ลึกซึ้งมาก ทรงไม่น้อมพระทัยที่จะแสดงธรรม เพราะเห็นความลึกซึ้งของธรรม กำลังเห็นความลึกซึ้งของธรรมซึ่งหมายถึงไม่น้อมพระทัยที่จะแสดงธรรม
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 2
โอฆตรณสูตร ว่าด้วยการข้ามโอฆะ
[๒] เทวดานั้น ยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้กราบทูลคำนี้กะพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้ไม่มีทุกข์ ข้าพระองค์ขอทูลถาม พระองค์ข้ามโอฆะได้อย่างไร.
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า ท่านผู้มีอายุ เราไม่พักอยู่ ไม่เพียรอยู่ ข้ามโอฆะได้แล้ว.
ท. ข้าแต่พระองค์ผู้ไม่มีทุกข์ ก็พระองค์ไม่พักไม่เพียร ข้ามโอฆะได้อย่างไรเล่า.
พ. ท่านผู้มีอายุ เมื่อใด เรายังพักอยู่ เมื่อนั้น เรายังจมอยู่โดยแท้ เมื่อใดเรายังเพียรอยู่ เมื่อนั้น เรายังลอยอยู่โดยแท้ ท่านผู้มีอายุ เราไม่พัก เราไม่เพียร ข้ามโอฆะได้แล้วอย่างนี้แล.
ขณะนี้คิดแล้วเข้าใจ ก็คือน้อมไปแล้วด้วยความเข้าใจ ไม่มีเราที่จะคิดแล้วน้อมไปด้วยความเป็นตัวตน เพียรผิดด้วยความเป็นเรา พระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ให้เราเพียรผิด ไม่เพียรด้วยความเป็นเรา ไม่พักอยู่ด้วยอกุศล แต่ขณะที่ปัญญาเกิด สติรู้ลักษณะสภาพธรรมที่กำลังปรากฏด้วยความเป็นอนัตตา เพราะสติเกิดแล้ว วิริยเจตสิกเกิดแล้ว กำลังค่อยๆ ข้ามห้วงน้ำใหญ่ด้วยความเพียรถูก เข้าใจถูกในหนทาง
กราบเท้า บูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพอย่างยิ่งค่ะ..
เป็นประโยชน์มากครับ
ขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของพี่เมตตาด้วยครับ