มีเพียงหลับกับตื่นที่บางส่วนของเยอรมัน ออสเตรีย สโลวีเนีย (3) เกาะ Mainau ในทะเลสาบ Konstanz
เกาะ Mainau ในทะเลสาบ Konstanz
ใช้เมือง Fussen เป็นศูนย์กลางท่องเที่ยวเยอรมันตอนใต้ หรือแคว้นบาวาเรีย วันที่สอง ของการเดินทางได้ไปชมสวนดอกไม้แสนสวยที่เกาะ Mainau (ไมเนา) ในทะเลสาบขนาด ใหญ่ Konstanz นั่งรถจากที่พักไม่นานก็ถึงท่าเรือเฟอรี่ขนาดใหญ่ ขับรถลงเรือข้าม ทะเลสาบไปที่เกาะไมเนาที่เห็นอยู่ไม่ไกลข้างหน้า พบคนเยอรมันใจดีแนะนำให้ลงจากรถ เพื่อไปชมทิวทัศน์ของทะเลสาบและเกาะแก่งต่างๆ พวกเรากลัวอากาศหนาวและลมพัดแรง จึงอยากนั่งในรถ เมื่อมีผู้ใจดีมาแนะนำจึงทำตาม และไม่ผิดหวัง ได้เข้าห้องน้ำที่แสนสะอาด ในเรือฟรี (ถ้าเข้าตามปั๊มน้ำมันหรือร้านค้า ต้องหยอดเหรียญ 50 เซ็นต์ ประมาณ 18 บาท และนำบัตรเป็นส่วนลดสำหรับซื้อของในร้านได้ หลายท่านคิดถึงอินเดียที่เข้าห้องน้ำฟรีได้ ตลอดเวลา เพียงแต่ต้องกลั้นลมหายใจบ้าง แต่ก็คงดีกว่าต้องกลั้นปัสสาวะ) และถ่ายภาพ ทิวทัศน์ทะเลสาบที่ใหญ่มากจนคิดว่าเป็นทะเล
รถขึ้นจากเรือเฟอรี่วิ่งไปอีกไม่ไกลก็ถึงเกาะไมเนา ต้องลงจากรถแล้วเดินเข้าไปในสวน ดอกไม้ พวกเราพักรับประทานอาหารกลางวันแบบปิกนิกบนเก้าอี้ไม้ริมทะเลสาบ มีเป็ดและ หงส์ว่ายอวดความงามประกอบฉาก อาหารกลางวันเป็นผัดหมี่โคราช ฝีมือแม่ครัวกิตติมศักดิ์ คุณนายแอ้น ขอบคุณที่ทำอาหารไทยอร่อยๆ ให้ได้ทานเกือบทุกมื้อค่ะ จะไปช่วยทำ ก็เกะกะ เก้งก้าง แล้วก็พักคนละที่ด้วย จึงได้แต่เชียร์ว่า คุณนายเป็นแม่บ้านที่สมบูรณ์แบบจริงๆ
สวนดอกไม้สวยสมกับเป็นสวนที่มีชื่อเสียงจริงๆ มีดอกไม้สวยหลากหลายพันธ์ จัดแต่ง ไว้อย่างเป็นระเบียบเป็นรูปร่างต่างๆ มีทั้งนกยูง เป็ด ตั้งแต่ทางเข้า พวกเราวิ่งไปถ่ายภาพ กันใหญ่ คุณนายแอ้นที่เคยไปมาแล้ว บอกว่าอย่าเพิ่งตื่นเต้น นี่เป็นแค่น้ำจิ้ม ต้องเดินเข้า ไปอีกไกล รอบๆ ทะเลสาบเป็นดงดอกแดฟโฟดิลขนาดใหญ่ หมายใจว่าก่อนกลับจะแวะชม เพราะต้องเดินเข้าไปข้างในก่อนด้วยเวลาจำกัด ไม่อยากกลับโรงแรมเย็นเกินไป ยิ่งเดินลึก เข้าไปในสวน ดอกไม้ก็ยิ่งสวย แล้วก็ถึงทางที่ต้องขึ้นบันไดไม้ประมาณไม่เกิน 20 ขั้น เพื่อ ไปชมไฮไลท์ของสวนบนเนินเขาเตี้ยๆ หลายท่านก็เปลี่ยนใจไม่ขึ้นเนิน เพราะดอกไม้ก็คง สวยเหมือนๆ กัน ท่านจึงแวะพักที่ร้านอาหารในสวน เพื่อสนทนาธรรมซึ่งจะมีประโยชน์กว่า เหลือหน่วยกล้าตาย 5 คนที่ยังยืนยันไปชมดอกไม้ที่เหลือให้ตาได้สัมผัสทุกสรรพสิ่งให้ครบ ถ้วน เพราะคิดว่าคงไม่กลับมาอีกแล้ว ถึงแม้จะกลับมาอีก ก็ไม่เหมือนเดิม ทั้งร่างกายสังขาร ของตนเองและทุกสิ่งทุกอย่าง คงเดาออกนะว่า เราเป็น 1 ใน 5 ของผู้ประมาทในการฟัง พระธรรม เพราะคิดว่าคุณแก้วตาบันทึกเสียงไว้แล้ว จะเปิดฟังอีกเมื่อไรก็ได้ แต่จนบัดนี้ก็ยัง ไม่ได้ฟัง ไม่ต้องสงสัยตนเองเลยว่า ถ้ามีบุญพอได้เกิดบนสวรรค์ คงไม่ไปฟังธรรมที่ศาลาสุ ธัมมาแน่ คงขอเที่ยวชมความงดงามของสวรรค์ให้ครบถ้วนก่อน แต่ทำอย่างไรได้เมื่อ ปัญญายังน้อยอยู่ ก็ต้องเป็นอย่างนี้ คือเป็นผู้ประมาท ไม่เห็นคุณของการเข้าใจธรรมะเพิ่ม ขึ้น แต่ถ้าพอเข้าใจบ้างว่า ทุกขณะเป็นธรรมะ ที่เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ไม่ว่าจะเดิน ชมดอกไม้ หรือนั่งฟังธรรมะ สติก็สามารถเกิดขึ้นระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมะที่กำลัง ปรากฏได้ แต่เมื่อยังไม่เข้าใจพอ อยู่ที่ไหน ทำอะไร ก็ไม่สามารถระลึกรู้เดี๋ยวนี้ได้ และยังคง ทำตามคำสั่งของนายใหญ่ (ความติดข้อง โลภะ) ที่อยากดู อยากชมสิ่งสวยๆ งามๆ และยัง คงเป็นทาสที่ซื่อสัตย์จงรักภักดีต่อนายใหญ่ไปอีกนานแสนนาน
บนเนินเขาปลูกดอกทิวลิปสีต่างๆ สวยงามมาก ถ่ายภาพกันไม่หยุด แต่ละมุม แต่ละจุด ล้วนสวยงามน่าประทับใจ จากจุดนั้นเห็นทะเลสาบ และอุโมงค์ต้นไม้ที่มีสีสันของดอก ทิวลิปที่ปลูกไว้รอบๆ โคนต้น วันนั้นมีชาวเยอรมันผู้พิการมาชมสวนกันเป็นคณะใหญ่ เดิน สวนทางกัน บางคนนั่งรถเข็น มีพี่เลี้ยงคอยดูแล บางคนก็ใช้ไม้เท้า คิดเองว่า คุณภาพชีวิต ของเขาดีนะ ที่รัฐดูแลสวัสดิการแก่ผู้ด้อยโอกาสอย่างทั่วถึง แต่ก็คงช่วยให้ติดข้องในสิ่งที่ ไม่เป็นสาระมากขึ้น เพราะไม่รู้ว่า อะไรเป็นสาระ และอะไรไม่เป็นสาระ แม้แต่เราผู้โชคดีได้ เกิดในประเทศอันสมควร ได้พบสัตบุรุษ ได้ฟังธรรมของท่าน แต่ก็ยังไม่เข้าใจพอที่จะน้อม ประพฤติปฏิบัติตามด้วยการระลึกรู้ขณะเดี๋ยวนี้ว่า เป็นธรรมะ จึงยังไม่ได้อบรมเจริญปัญญา เพื่อละความไม่รู้ ก็ยังไม่ต่างกับเขาเหล่านั้นมากนักที่จะรู้ว่า อะไรเป็นสาระ และอะไรไม่ใช่ สาระ จึงพากันมาเที่ยวเดินชมสิ่งไม่เป็นสาระ แทนที่จะนั่งฟังธรรมะเพื่อให้เข้าใจยิ่งขึ้น
บนเนินเขายังมีเรือนกระจกปลูกดอกไม้เมืองร้อน ที่เห็นก็เป็นดอกกล้วยไม้เหมือนที่เมือง ไทย และมีปราสาทของเจ้าของเกาะ (หรือของใครก็ไม่ทราบ เพราะไม่ได้ศึกษามาก่อน แต่ ของใครก็ช่าง บัดนี้มาเป็นสมบัติของตาของเราที่มองเห็นได้ ชื่นชมได้ ติดข้องได้ เกิด กิเลสได้ หรือระลึกรู้ได้ตามกำลังของความเข้าใจ) แล้วยังมีต้นไม้อายุหลายร้อยปีที่ต้องใช้ คนโอบกว่าสิบ คน (เดาเอาจากขนาด) ใต้ต้นก็ยังปลูกดอกไม้หลายๆ ชนิด สวยจริงๆ มีป่า ไผ่ ต้นซากุระออกดอกทั้งต้น และสนามหญ้าเขียวสด มีหนุ่มสาวไปนอนเล่น เราก็อยากลง ไปนอนเหมือนกัน เพราะปวดเมื่อยขาที่เดินมานานแล้ว ไม่มีอะไรได้มาเปล่าๆ เมื่ออยากเห็น ของสวยๆ งามๆ ก็ต้องแลกด้วยกำลังแข้ง เดินจนมาบรรจบกับคณะสนทนาธรรม เราพูด ภาษาไทยเสียงไม่ค่อย จึงมีคนมาเรียกไปนั่งรวมกลุ่ม ได้ดื่มน้ำแร่แสนวิเศษที่ทำให้หายหิว หายเหนื่อยทันที ขออนุโมทนาคุณแก้วตาและคุณสุกัญญาที่จัดเตรียมไว้ให้ผู้กล้าตายทั้ง 5 คนค่ะ