สารธรรมจาก สัตหีบ ๙-๑๑ มิ.ย.๒๕๕๘
ชมรมบ้านธัมมะ ณ สัตหีบ 9-11 มิ.ย.2558
@ เราไม่รู้เลยค่ะ ว่าขณะที่เข้าใจธรรม แม้เพียงเล็กน้อย มีค่ายิ่ง และ แสดงถึงการสะสมมา และอนัตตา ไม่ประมาทที่จะสะสมปัญญาต่อไป
@ ขณะที่เข้าใจว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรามากขึ้นเรื่อยๆ สำนวนของความเป็นเรา ก็น้อยลง ที่คิดจะทำ จะละ
@ ปกติ เกิดแล้ว จะทำอะไรได้คะ นอกจาก สะสมเหตุที่จะค่อยๆ เข้าใจในสิ่งที่เกิดแล้วว่าเป็นธรรมไม่ใช่เราในขณะที่เกิดแล้ว
@ อกุศลก็เกิดเป็นปกติ ขณะนี้ค่ะ ไม่ต้องไปทำอะไร เกิดแล้วทำอะไรได้ แต่ผู้สะสมความเข้าใจมา ปัญญาสามารถเกิดแทรกได้ว่าเป็นธรรม
@ ความเป็นตัวตนสะสมมาตลอด เนิ่นนาน แล้วจะให้หายไปไหนคะ ปกติเป็นยังไงก็เป็นอย่างนั้น ที่จะมีอกุศล มีตัวตนที่จะทำ ผู้มั่นคงคือ รู้ทั่ว แม้ขณะที่เป็นเราเป็นตัวตน
@ ขณะนี้ทั้งนั้นเลยค่ะ ทุกๆ ชาติเหมือนเดิมตลอด เห็น ได้ยิน ต่างกันที่เรื่องที่คิดนึก แล้วอะไรที่มีจริง นอกเสียจากธรรมเป็นไปทุกๆ ชาติ เพราะฉะนั้น น่าสงสารไหมคะ วนเวียนอยู่ด้วยความไม่รู้ว่าเป็นธรรม จนกว่า ณ กาลครั้งหนึ่งที่จะเข้าใจว่าเป็นธรรม
@ จับด้ามมีด ไงคะ แม้รอยยังไม่ปรากฎ กับด้ามมีด ความเข้าใจธรรม ที่สะสมมาน้อยมาก แล้วจะให้รู้มาก จะละกิเลสได้อย่างไร ฟังต่อไปเท่านั้น
@ เห็นไหมคะ ใครจะไปคิดว่าจะได้ฟังธรรม ในรถตู้ ไม่ต้องทำอะไรเลยค่ะ เบาสบายด้วยความเข้าใจว่าเป็นอนัตตา
@ สองคำนะคะ สำคัญมาก อนัตตา และ ละ ตั้งแต่ต้นจนจบ เริ่มฟัง ก็ละ ความที่จะทำ จะละ เพราะรู้ว่าเป็นหน้าที่ธรรม นั่นคือ อนัตตา และ คิดจะละไหมคะ ไม่เลย เพราะธรรมฝ่ายดีจะทำหน้าที่ละเอง
@ อาจหาญร่าเริง จริงๆ ค่ะ เพราะ เข้าใจว่าไม่มีเรา เบาสบายที่จะไม่ทำ อาจหาญ ร่าเริง ด้วยปัญญา ด้วยความเข้าใจถูกนั่นเอง
@ ผัสสะ ชื่อต่างๆ มีจริงใช่ไหมคะ ทุกอย่างเลย ไม่ใช่ให้จำ แต่ เพื่อเข้าใจถูกในสภาพธรรมนั้น เพราะมีจริงในขณะนี้ นั่นคือเข้าใจถูกในสิ่งนั้น ว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา
@ เกิดแล้วนี่คะ เกิดให้รู้ สิ่งที่เกิดไปแล้วรู้ได้ไหม ต่อไปก็เกิดอีก ไม่กังวล คือ ไม่ใช่ไปอยากรู้ใส่ชื่อในสิ่งที่เกิดแล้ว อบรมปัญญาจนกว่าจะรู้ในขณะที่เกิดใหม่ ว่าเป็นธรรม ไม่ใช่เรา
@ ดูสิคะ ทะเล ไงคะ ห้วงน้ำกิเลส กว้างใหญ่เหลือเกิน กว่าจะข้ามได้ ด้วยปัญญาค่ะ ที่เข้าใจถูกในขณะนี้
@ จะต่อเรือข้ามทะเลหรือคะ ต่อด้วยตัวตนที่จะทำ ที่จะพยายามหรือเปล่า เรืออะไรคะ ไม่มีทางข้ามฝั่งได้ ถ้าเริ่มจากความเป็นเรา แต่ถ้าเริ่มจากความเข้าใจถูกเบื้องต้นว่า เป็นธรรม ข้ามได้ แต่ยาวนาน
@ หนทางนี้เหมือนปล่อย ไม่ทำอะไร ที่จะละกิเลส แต่แท้ที่จริง ฟัง สนทนา อยู่ค่ะ เข้าใจ ก็ไม่พัก และ ไม่เพียร ในขณะนั้นค่ะ
@ สนทนาอย่างนี้สบายๆ ค่ะ เมื่อไหร่เมื่อนั้น ที่จะได้สนทนา และ แสดงถึงความเป็น อนัตตา ด้วย และ ความเข้าใจก็เกิดขึ้นได้ในทุกที่จริงๆ
@ อย่าคิดถึงชื่อไกลนะคะ ถ้ายังไม่รู้ความจริงเบื้องต้นในธรรม สะสมความเข้าใจ มั่นคงว่า มีแต่ธรรม ค่ะในขณะนี้
@ พระองค์ถึงแสดงว่า สัญญาที่มั่นคง ที่เป็นเหตุให้เกิดสติปัฏฐานรู้ความจริง มั่นคงอย่างไรคะ ขณะนี้เอง เข้าใจขั้นการฟังเสมอๆ ว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา
@ ยากเหลือเกินแต่ถึงได้ไหมคะ พระอริยะ อ่านประวัติท่านสิคะ ท่านก็อบรมอย่างยาวนาน และ ท่านก็ไม่รู้เหมือนพวกเรามาก่อน เพราะฉะนั้น ฟังต่อไป
@เต่าขาขาด ดูสิคะ กิเลสมากแค่ไหน ยังยินดีในอัตภาพ การเกิดอย่างนั้น ภวตัณหาจริงๆ
@ ปริเฉทอากาศ แทรกขั้นทุกกลาป กิเลสก็แทรกขั้นเกิดตลอด แล้วจะไปละตอนไหน นอกเสียจากขณะที่เข้าใจเท่านั้นไม่ต้องไปละกิเลสนะคะ ค่อยๆ เข้าใจไป
@ อย่าไปคิดถึงใจคนอื่น เพียงกายภายนอก เพราะอนัตตา ต่างจิตต่างใจ แต่ไม่ลืมที่เหมือนกัน คือ เป็นธรรมแต่ละขณะเท่านั้น
@ แม้แต่คำว่า บารมี และ อนัตตา และ ปัญญา สอดคล้องกันเสมอเพราะเป็นเรื่องของปัญญาเท่านั้น
@ คำใดที่พระองค์แสดง ขณะนี้เท่านั้นค่ะ และ ก็เป็นสิ่งที่ควรรู้ ไม่ใช่ไปรู้อย่างอื่น เพราะเป็นสิ่งที่ควรรู้ว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา
@ ผ่านไปหมดเลยค่ะ จิตเห็น และ เกิดต่อไหมคะ เกิดต่ออีก แล้วอะไรที่ควรรู้ ขณะเกิดใหม่ ขณะนี้เอง
@ หนทางข้ามทะเล โอฆะ ยากมาก เห็นไหมคะ กว้างใหญ่เหลือเกิน ฝั่งโน้นคะ ดูสิค่ะ ฝั่งดับกิเลส แต่อันตราย คือ กิเลส ที่ระหว่างเดินทางข้ามทะเล หนทางถูก คือ ไม่ว่ากิเลสอะไรเกิด ก็มั่นคง ว่าคือ ธรรม
กราบแทบเท้าบูชาพระคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ที่เคารพยิ่ง และขออนุโมทนาในกุศลจิต เป็นบุญที่สั่งสมในปางก่อนจึงได้ฟังพระธรรมที่ถูกต้องและตรง ขอฟังพระธรรมด้วยความเคารพต่อไป
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ