ภิกษุควรหาความรู้และศึกษาวิชาการทางโลกหรือไม่

 
chatchai.k
วันที่  22 มิ.ย. 2558
หมายเลข  26675
อ่าน  1,647

ปัจจุบันมีภิกษุจำนวนมากเมื่อบวชแล้วก็ศึกษาวิชาการทางโลกเหมือนคฤหัสถ์ มีโรงเรียนและมหาวิทยาลัยสงฆ์หลายแห่งที่สอนวิชาการทางโลกแก่พระภิกษุ

ขอเรียนถามว่า ตามพระวินัยพระภิกษุสามารถเรียนวิชาการทางโลกควบคู่กับการศึกษาพระธรรมวินัยหรือไม่ครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 22 มิ.ย. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สำหรับพระภิกษุ ที่เป็นเพศบรรพชิต เป็นเพศที่สละหมดทุกอย่าง แตกต่างจากเพศคฤหัสถ์ราวฟ้ากับดิน คือ ไม่สามารถจะใช้ชีวิตดังเช่นคฤหัสถ์ได้อย่างเดิมเพราะ จุดประสงค์ของการบวช คือ การดับกิเลสจนหมดสิ้นเท่านั้น ซึ่งการจะดับกิเลสจนหมดสิ้น ก็ด้วยการอบรมเจริญปัญญา ซึ่งปัญญาจะเจริญได้ ก็ด้วยการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงเท่านั้น ปัญญาจึงเกิดจากการศึกษาพระพุทธพจน์ พระพุทธวัจนะ ไม่ใช่เกิดจากหนังสืออื่นๆ ที่ไม่ใช่พระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง เพราะฉะนั้น จึงไม่ควรอ่านหนังสือทางโลก และ แม้แต่การศึกษาวิชาการทางโลก ดังเช่น คฤหัสถ์อีก เพราะก็ไม่ต่างกับเพศคฤหัสถ์ และไม่ได้ขัดเกลากิเลส และ ย่อมเป็นที่ติเตียนของประชุมชน เมื่อเห็นพระภิกษุ ศึกษาทางโลก ดังเช่น คฤหัสถ์ และ เป็นการผิดพระวินัย ต้องอาบัติ อันจะเป็นโทษกับพระภิกษุ ครับ

เชิญคลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่ ครับ

การเรียนทางโลกของภิกษุสามเณร เรียนได้หรือเปล่า - บ้านธัมมะ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 22 มิ.ย. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

จุดประสงค์ของการบวช คือ ศึกษาพระธรรมคำสอนที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง อบรมเจริญปัญญาขัดเกลากิเลส ให้ยิ่งขึ้น ให้สมกับที่สละอาคารบ้านเรือน สละทรัพย์สมบัติ สละเครื่องติดข้องของคฤหัสถ์ออกบวช ดังนั้น การเรียนวิชาการทางโลก ไม่ใช่กิจของบรรพชิตเลย แต่เป็นกิจของคฤหัสถ์ ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
tanrat
วันที่ 23 มิ.ย. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
เมตตา
วันที่ 23 มิ.ย. 2558

...ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ...

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
athisamai
วันที่ 24 มิ.ย. 2558

รู้สึกสังเวช เพราะทำผิดปกติกันจนเป็นปกติไปแล้วครับ สงสัยจังว่า เขาไม่เรียนรู้กันเลยว่าพระบรมศาสดาสอนและสั่งไว้อย่างไร ทำผิดแล้วมีโทษอย่างไร ดูเหมือนไม่เชื่อเรื่องกรรม วิบาก อบาย สุคติ นิพพาน เหมือนว่าเห็นแต่ช่องทางที่จะได้ประโยชน์โลกีย์โดยอาศัยศาสนานี้ อาศัยบารมีของพระบรมศาสดาไปสู่เป้าหมายของตนที่ตั้งไว้ผิด

เรียนและสอนวิชาทางโลกต้องอาบัติ "ทุกกฏ" และยากที่จะไม่เกี่ยวข้องกับเงินทอง นั่นหมายถึงต้องอาบัติหนักมากระดับ "นิสสัคคิยปาจิตตีย์" น่ากลัว น่าสงสารน่าสังเวชใจจริงๆ

พระบรมศาสดาเสด็จกลับจากดาวดึงส์หลังจากสอนอภิธรรมโปรดพุทธมารดา พระองค์เปิดให้ดูแล้วเห็นแล้วทั้งสามโลกในครั้งโน้น สัตว์นรก มนุษย์ เทวดา แต่ทำไมไม่รับทราบ ไม่เรียนรู้ว่านรกมี สวรรค์มี แต่เรียนรู้เอาเฉพาะพิธีตักบาตรเทโว กับการสวดอภิธรรมพ่วงด้วยการรับเงิน ความจริงพระองค์ไม่ได้สวด (แบบไม่รู้เรื่อง) แต่เทศน์สอนปกติด้วยภาษาที่สื่อความกันได้

ผมถึงว่าสังเวชจริงๆ

ขอบพระคุณสำหรับข้อมูลด้านบนและยินดีในบุญกับทุกท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
wannee.s
วันที่ 24 มิ.ย. 2558

จุดประสงค์ของการบวชในครั้งพุทธกาล เพื่อขัดเกลากิเลสเพื่อบรรลุมรรค ผล นิพพาน ถึงความเป็นพระอรหันต์ ต่างกับสมัยนี้ไม่ได้บวชเพื่อขัดเกลากิเลสจริงๆ บางครั้งก็บวชตามประเพณี ไม่ได้เข้าใจธรรม และที่สำคัญหน้าที่ของพระภิกษุมี 2 กิจ เท่านั้น คือ

1. คันถะธุระ

2. วิปัสสนาธุระ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
j.jim
วันที่ 27 มิ.ย. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
peem
วันที่ 9 ก.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
jirat wen
วันที่ 12 ก.ค. 2558

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
kullawat
วันที่ 24 ก.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
ms.pimpaka
วันที่ 14 ส.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
Jarunee.A
วันที่ 26 ต.ค. 2566

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ