ถ้าไม่ละ โลภ จะเห็นทุกข์หรือ

โลภ เป็นสิ่งที่ควรละ แต่ในชีวิตประจำวัน หลังเห็น ได้ยิน.. โลภเกิดแล้ว ปิดบังทุกข์ วันหนึ่งๆ มีแต่โลภ ถ้าไม่ใช่กุศล จะละ โลภ ได้ด้วยปัญญาที่รู้สิ่งที่กำลังปรากฏขณะนี้ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย และทางใจที่คิด เพราะเหตุไม่รู้ตามความเป็นจริงจึงติดข้อง สิ่งที่มีขณะนี้ (ขันธ์ ๕) ควรรู้ยิ่ง ไม่ใช่ไปทำอย่างอื่นด้วยโลภ เพราะฉะนั้น จะละ โลภ ก็ละด้วยการอบรมเจริญปัญญารู้สิ่งที่มีขณะนี้ รู้ลักษณะของรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะตามความเป็นจริงจึงจะละโลภะได้

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพอย่างยิ่งค่ะ..