สารธรรมจากหาดใหญ่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๕๘

 
sutta
วันที่  24 มิ.ย. 2558
หมายเลข  26685
อ่าน  1,910

สนทนาธรรมที่หาดใหญ่ 24 มิถุนายน 2558

@ ฟังธรรมเสียเวลาไหม คะ ไม่เสียเพราะได้เข้าใจถูก รู้ กับ ไม่รู้ ยอมต่างกัน ค่ะ

@ ท่านคิดว่าจะส่งเสริมคนเล่นการพนัน ท่านจะส่งเสริมให้ครอบครัวไปเล่นไหม จะให้วงศาคณาญาติไปเล่นไหม ถ้าผู้ที่หวังดี ต้องไม่คิดอย่างคนหวังร้าย ถ้าไม่อยากให้ครอบครัวตัวเองเล่น และ ให้คนอื่นเล่น หวังดีกับคนอื่นหรือเปล่า คะ

@ หลงยึดถือว่าเป็เนรา ก็อยากได้ ติดข้อง ทั้งๆ ที่ไม่มีสาระอะไรเลย ทั้งเมื่อวานก็หมด หลับสนิทก็หมด ไม่เหลืออะไรเลย สภาพธรรมดับไปหมด ก็ไม่มีอะไรเหลือเลยจริงๆ แต่ พอตื่นก็กลับมาอีกแล้ว หลงยึดถือด้วยความคิดนึก คิดแต่เรื่องของ สิ่งที่เห็น ได้ยิน ไปหาหมอหรือยัง กินยาหรือยัง ก็วนเวียนอยู่กับความไม่รู้และจากโลกนี้ไป ก็ลืมหมด และก็ยังเกิดเมื่อมีกิเลส ก็ยังต้องเกิดร่ำไป ไม่มีที่สิ้นสุด

@ ความเจริญอยู่ที่ไหน ไม่ใช่อยู่ที่วัตถุ แต่อยู่ที่สภาพจิต เพราะฉะนั้น จะมีคำว่า อริยะ คือ ผุ้ที่เจริญ หมายถึง ผุ้ที่อบรมจิตใจที่เจริญ เพราะฉะนั้นเรากล่าวถึงประเทศชาติเจริญ คือ มีบุคคลที่มีความสามารถมากๆ แต่ ใจต่ำทราม ประเทศชาติเจริญไหม คะ

@ บางท่านก็คิดว่า ธรรมก็เป็นส่วนธรรม ไม่น่าจะมายุ่งเกี่ยวกับบ้านเมือง แต่เขาลืมว่า ถ้าไม่มีสภาพธรรม จะมีเรื่องราว จะมีปัญหาต่างๆ ได้อย่างไร เพราะฉะนั้นสำคัญที่สภาพจิต เพราะฉะนั้น จะอยู่อย่างไร ถ้าไม่เข้าใจถูก คิดจะแก้ แต่ ไม่เข้าใจปัญหา ก็แก้ไม่ได้ ดังนั้น ปัญหาทุกปัญหา อยู่ที่จิต ถ้าไม่รู้จักจิต จะแก้ปัญหาได้อย่างไร เพราะฉะนั้น ธรรมมีประโยชน์ในที่ทั้งปวง ค่ะ

@ เพราะไม่รู้ จะเจริญได้อย่างไร ถ้าจะรู้จัก รู้จักจิตของตัวเอง ไม่ใช่ไปรู้จักจิตคนอื่นๆ

@ โกรธ ดีไหม คะ เริ่มทำร้ายใครก่อนคะ ทำร้ายตัวเอง และ ก็ทำร้ายผู้อื่นต่อไปด้วย และ จะทำให้ประเทศชาติเจริญไหม ถ้าเต็มไปด้วยสิ่งเหล่านี้ เพราะฉะนั้นประเทศชาติจะเจริญ เพราะ คนแต่ละคนเป็นคนดี

@ เพียงแค่สิ่งที่มีเดี๋ยวนี้ ให้รู้ ให้เข้าใจ รอบรู้ในขั้นการฟัง ที่เป็นปริยัติ คือ เข้าใจถูกในคำว่าเป็นธรรม แม้ในใขณะนี้ว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา ซึ่งเป็นความมั่นคง เป็น สัจจญาณ

@ ถ้าเข้าใจถูก ว่าเดี๋ยวนี้มีธรรม ที่ควรรู้ จะไปที่ไหน ไปปฏิบัติทำอะไรไหม คะ ไม่ไปเลย เพราะ ธรรมมีอยู่แล้วในขณะนี้

@ คนอื่นหวังแต่เพียงใจสบาย จึงไปนั่ง ไปทำ ก็เข้าใจว่าสบายดี ก็เข้าใจว่าเป็นกุศล แต่ธรรมละเอียดกว่านั้น คือ เป็นความติดข้อง ที่สบาย และ ติดข้องในความสบายนั้น

@ ชาติจะเจริญเพราะอะไรคะ เพราะ กุศล ชาติ คือ อกุศลเกิด เจริญไม่ได้

@ที่มีกิเลสก็ทำให้เกิดกรรม เพราะมีกรรมทำให้เกิดวิบาก ขณะนี้คิดเป็นผลของกรรมหรือเปล่า คะ เพราะไม่ใช่เห็น ไม่ใช่ได้ยิน ไม่ได้กลิ่น ไม่ใช่ลิ้มรส ไม่ใช่รู้กระทบสัมผัส ความคิดดี ไม่ดี ขึ้นอยู่กับการสะสม ค่ะ

@ แล้วแต่บุญ กรรม คือ แล้วแต่กุศลกรรม หรือ อกุศลกรรมที่ทำ แม้ประเทศชาติบางประเทศล่มสลาย แต่คนในประเทศบางคนก็มีความสุข เพราะ แล้วแต่บุญกรรม

@ รู้จักละเอียดยิ่งกว่านั้น ไม่ใช่เพียงรู้จักชาติ แต่ ตต้องรู้จักโลก ถ้าไม่มีการเกิดขึ้นจะมีโลกหรือไม่ คะ เพราะฉะนั้นโลกมีเพราะมีสภาพรู้ คือ มีจิต มีโลกทางตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ รู้จักโลกไหมคะ

@ เห็นก็เห็นคนเดียว สุขก็สุขคนเดียว ทุกข์ก็ทุกข์คนเดียว กำลังเจ็บขา ใครเจ็บด้วยไหม คะ กำลังลิ้มรสอร่อย อร่อยคนเดียวหรือเปล่า ขณะที่ลิ้มรสอร่อย ใครมาร่วมอร่อยด้วยหรือเปล่า เพราะฉะนั้นอยู่ในโลกคนเดียว ถ้าไม่คิด ไม่มีคนอื่นเลย

@ เราทำกรรม ไปให้คนอื่นรับได้ไหม โทษใครไม่ได้เลย ค่ะ

@ อยากตาย ก็ไม่ตาย ไม่อยากตายก็ตายได้ นี่แสดงถึงเป็นไปตามกรรม และ อนัตตา ค่ะ

@ เราคิดว่าเงินสำคัญมากสำหรับเรา แต่เราควรคิดว่าอะไรเป็นเหตุที่จะได้มา แต่ แม้ไม่มีเงิน ก็ต้องอยู่ไปตามเหตุปัจจัย อย่างขอทานโรคเรื้อน ตายได้ไหม ก็ต้องอยู่ ตามกรรม ส่วนเด็กเกิดมาเป็นลูกเสณษฐี ตายได้ไหม ก็ตายได้ ถ้ากรรมนั้นให้ผล เพราะฉะนั้น จึงอยู่กันไป ตามบุญ ตามกรรม

@ ในพระไตรปิฎก แสดงว่า ขอทาน ยากจนมาก ต้องไปหาเศษอาหาร ตามรางน้ำ ก็อยู่ไปตามเหตุปัจจัย บางคน มี 10 ล้าน หมดเลย โกงบ้าง เพื่อนบ้าง ก็ต้องอยู่ไปตามเหตุปัจจัย ก็อยู่ไปตามบุญตามกรรม ด้วยเหตุที่ต่างกัน ชาตินี้อาจจะเกิดเป็นคนสวย สุขสบาย แล้วชาติหน้าจะไปไหน แต่ ชาตินี้ เราสามารถรู้กรรมที่ตนเองกระทำ ถ้าเป็นกรรมที่ฟังธรรมในขณะนี้ที่เข้าใจ เกิดดีแน่ แล้วก็มีสติปัญญาด้วย เพราะฉะนั้นแต่ละคน ให้ทราบว่า ว่าไม่เหมือนกันเลย ค่ะ

@ มีใครบ้างไหมคะ ที่ได้ยินคำว่า นิพพาน แล้วนิพพานคืออะไร ไม่ต้องคิดถึงนิพาน คิดจะขัดเกลาบ้างไหม ไม่ใช่ด้วยความเป็นเรา แต่ด้วยการเห็นโทษของกิเลสและรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง ค่ะ

@ กำลังโกรธอยู่ ลืมไปหรือเปล่าคะ ว่าเป็นธรรม ขณะที่ชอบ ติดข้อง เกิดแล้ว ลืมหรือเปล่าคะ ว่าเป็นธรรมหรือเปล่า เพราะฉะนั้น เป็นหนทางการอบรมที่ยาวนาน จิรกาลภาวนา ที่จะค่อยๆ เข้าใจถูกในสภาพธรรมในขณะนี้


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 24 มิ.ย. 2558

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
panasda
วันที่ 24 มิ.ย. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
shutikan
วันที่ 24 มิ.ย. 2558

วันนี้รุ้สึกจิตดีมาก กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์สุจินต์มากค่ะ. และขออนโมทนาสาธุกับทุกๆ คนที่มาวันนี้ด้วยค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
สิริพรรณ
วันที่ 24 มิ.ย. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ใหญ่ราชบุรี
วันที่ 24 มิ.ย. 2558

สาธุ อนุโมทนา และ ขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
peem
วันที่ 25 มิ.ย. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
siraya
วันที่ 25 มิ.ย. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
j.jim
วันที่ 25 มิ.ย. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
chatchai.k
วันที่ 25 มิ.ย. 2558

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
wannee.s
วันที่ 25 มิ.ย. 2558

@ เราทำกรรม ไปให้คนอื่นรับได้ไหม โทษใครไม่ได้เลย ค่ะ

อนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่ 26 มิ.ย. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
ms.pimpaka
วันที่ 27 มิ.ย. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
chaiyakit
วันที่ 28 มิ.ย. 2558

ขออนุโมทนาสาธุครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
jirat wen
วันที่ 7 ก.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
เจียมจิต
วันที่ 1 ก.ค. 2563

อนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ