โลภะติดข้องทุกอย่าง ยกเว้นโลกุตตรธรรม

 
natural
วันที่  24 มิ.ย. 2558
หมายเลข  26687
อ่าน  1,721

จากข้อความ โลภะติดข้องทุกอย่าง ยกเว้นโลกุตตรธรรม รบกวนเรียนถามว่า ทุกอย่างยกเว้นโลกุตตรธรรม หมายความว่าอย่างไร และปัญญาเจตสิกเป็นสภาพธรรมที่รู้ว่าทุกอย่างคืออะไร โลกุตตรธรรมเป็นอย่างไรใช่หรือไม่คะ แสดงว่าถ้าปัญญาไม่เกิด ความรู้สึกว่าติดข้องเป็นเพียงการคิด เพราะไม่ทราบได้ด้วยปัญญาว่าสภาพติดข้องจริงๆ เป็นอย่างไรใช่หรือไม่ ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 24 มิ.ย. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

โลภะ หรือ กามตัณหา เป็นสภาพธรรมที่ติดข้อง ซึ่ง สามารถติดข้องได้ทุกอย่างยกเว้น เพียง โลกุตตรธรรม 9 คือ มรรคจิต 4 ผลจิต 4 และ นิพพาน แต่สภาพธรรมอย่างอื่น โลภะก็สามารถติดข้องได้ ที่ไม่สามารถติดข้องโลกุตตรธรรม เพราะ โลภะ ไม่สามารถถึงและเห็นโลกุตตรธรรมได้ ครับ

ปัญญาเป็นสภาพธรรมที่รู้ คือ เจตสิก ที่รู้อารมณ์ และ รู้ อีกนัยหนึ่ง คือ รู้ตามความเป็นจริง รู้ด้วยความเห็นถูก ในสภาพธรรมทุกอย่างที่เกิดขึ้น เช่น รู้ว่าเป็นแต่เพียงธรรมไม่ใช่เรา ครับ

ความคิดว่าติดข้อง เช่น คิดว่าทานอาหารอร่อยเป็นโลภะ ติดข้อง แต่ เป็นเพียงคิด ไม่ได้รู้ตัวลักษณะของโลภะจริงๆ ที่เกิดขึ้นและก็ดับไปแล้วด้วย ครับ จึงรู้ติดข้องเพียงคิด เพียงชื่อเท่านั้น ซึ่งต้องเป็นปัญญาที่รู้ตามความเป็นจริงในขณะที่สภาพธรรมนั้นเกิด ที่เป็นปัญญาระดับสติปัฏฐาน ที่รู้ตรงลักษณะ ไม่ใช่ รู้ในสิ่งที่ดับไปแล้วและคิดตาม ครับ ขออนุโมทนา

เชิญอ่านคำสนทนาของท่านอาจารย์สุจินต์ ดังนี้ ครับ

ส. คำถามง่ายๆ ถามคุณพิชัยว่า กุศลเป็นเรื่องละหรือเรื่องติด กุศลทุกชนิดเลย

พิชัย กุศลหรือครับ

ส. กุศลเป็นเรื่องละหรือเรื่องติด เป็นความติดหรือเป็นการละ ไม่ว่าจะเป็นกุศลขั้นไหนก็ตาม

พิชัย ติดครับ

ส. กุศลนะคะ ถ้าติดเป็นโลภะ เพราะฉะนั้น ถ้าเป็นสภาพที่ดีงามเป็นกุศล จะไม่ใช่การติด

พิชัย อย่างสมมติเราเลือกเฉพาะอารมณ์ที่เป็นกุศลอย่างเดียว

ส. โลภะเขาติดได้ทุกอย่างเลย เว้นนิพพานกับโลกุตตรธรรม

พิชัย ถ้าเป็นนิพพาน ไม่มีกุศล ไม่มีอกุศลไม่ใช่หรือครับ

ส. โลภะติดนิพพานไม่ได้ เพราะว่าโลภะไม่มีวันจะถึงนิพพานได้เลย โลภะติดโลกุตตระไม่ได้ นอกจากนั้นแล้วโลภะติดได้หมดเลย ทุกอย่าง เว้นโลกุตตรธรรม

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
tanrat
วันที่ 25 มิ.ย. 2558

ยากมากค่ะ เพียงแค่ฟังแล้วไตร่ตรองตามก็ยากจริงๆ ค่ะ จึงต้องฟังไว้ ไตร่ตรองไว้ สะสมไป กราบอนุโมทนาสาธุค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
peem
วันที่ 25 มิ.ย. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
khampan.a
วันที่ 25 มิ.ย. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ที่พอจะเข้าใจได้ คือตัณหาหรือโลภะ เป็นธรรมที่มีจริงๆ เป็นความติดข้องต้องการ เป็นธาตุรู้ สภาพรู้ เมื่อเกิดขึ้นก็ต้องมีสิ่งที่ถูกรู้ คือ มีอารมณ์ นั่นเอง ยกเว้นสภาพธรรมที่เป็นโลกุตตรธรรม ๙ (มรรคจิต ๔ ผลจิต ๔ และพระนิพพาน) เท่านั้นที่ไม่เป็นที่ตั้งของตัณหา เพราะโลกุตตรธรรมดับตัณหา นอกนั้น เป็นอารมณ์ของกิเลสตัณหาได้ทั้งหมด ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ....

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
chatchai.k
วันที่ 25 มิ.ย. 2558

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
wannee.s
วันที่ 25 มิ.ย. 2558

ถ้าปัญญาเกิด ปัญญาจะไม่ติดข้อง ปัญญาจะเห็นโทษของอกุศล ยิ่งเป็นปัญญาที่สูงระดับโลกตุตรธรรม เป็นปัญญาที่เหนือโลก มรรค 4 ประหานกิเลส ผล 4 เป็นผลที่ดับกิเลสแล้ว นิพพานเป็นสภาพที่สิ้นจากความยินดี ความพอใจ ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
thilda
วันที่ 25 มิ.ย. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
panasda
วันที่ 24 มิ.ย. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
Jarunee.A
วันที่ 23 ต.ค. 2566

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ