คำว่า ทำให้ดีที่สุด

 
thilda
วันที่  3 ก.ค. 2558
หมายเลข  26721
อ่าน  2,131

เรียนถามอาจารย์ค่ะ

ในชีวิตประจำวัน คำว่า "ทำให้ดีที่สุด" ของแต่ละคนก็ต่างกัน บางคนก็ทำให้ดีที่สุดจริงๆ แต่ทำในเวลา หมดเวลาแล้วก็เลิกกัน ได้เท่าไหนก็เท่านั้น บางคนหมดเวลาแล้ว แต่ถ้างานยังไม่ดีพอ ก็ยังทำต่อพอสมควร บางคนก็ทำได้เรื่อยๆ จนดึกดื่น จนกว่างานจะดีพอ เพราะกลัวโดนตำหนิจากเจ้านายหรือลูกค้า เพราะเป็นความรับผิดชอบของตัวเอง เป็นต้น บางครั้งก็กลายเป็นเบียดเบียนตัวเอง ป่วยบ้าง เป็นต้น รบกวนเรียนถามอาจารย์ว่า จะหาจุดพอดีของคำว่า "ทำให้ดีให้ดีที่สุด" อย่างไรคะ จะสามารถนำเรื่องทางสายกลางมาใช้ได้ไหมคะ คือทำให้ดีที่สุด แต่ก็ยอมเสียเปรียบเพื่อส่วนรวมบ้าง แต่ก็ไม่ควรเบียดเบียนตัวเองมากเกินไป แม้ผลออกมาจะไม่ดี ในหน้าที่ความรับผิดชอบของเรา ก็ไม่ต้องคิดมาก เพราะเราทำดีที่สุดแล้ว และจริงๆ แล้วก็ไม่ควรจริงจังกับอะไรมากเกินไป เพราะไม่มีตัวเรา คิดแบบนี้เป็นหนทางที่ถูกไหมคะ หรือควรพิจารณาอย่างไร ขอบพระคุณและขออนุโมทนาอาจารย์ทั้งสองท่านอย่างยิ่งค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 4 ก.ค. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ทางสายกลางในพระพุทธศาสนา เป็นเรื่องของปัญญา ที่เข้าใจถูกว่าเป็นแต่เพียงธรรม ไม่ใช่เราและเป็นอนัตตา คือ ไม่สามารถบังคับบัญชาได้ เป็นไปตามการสะสม ไม่มีเราที่จะจัดการ ให้เป็นไปอย่างไร เพื่อไถ่ถอนความเป็นเรา ที่เคยจะทำ จัดการ แต่เข้าใจถูกว่าเป็นธรรม ครับ

ทางสายกลาง จึงไม่ใช่การทำอะไรให้พอดี ตรงกลาง นั่นคือด้วยความเป็นตัวตน จัดการ เพราะ จุดพอดีของแต่ละคนอยู่ที่ไหน เพราะ แท้ที่จริง จุดพอดี ที่สมควร คือ ความเข้าใจถูก ไม่ว่าจะเกิดกับใคร ครับ

ดังนั้น การทำงานของแต่ละคนก็เป็นไปตามเหตุปัจจัย วันนี้ทำน้อย พรุ่งนี้ทำเยอะ ใครจัดการ เป็นไปตามเหตุปัจจัยทั้งสิ้น ตั้งใจจะทำเยอะ แต่ทำน้อยก็ได้ เมื่อมีเหตุปัจจัยที่ป่วย หรือ ไม่อยาก ตั้งใจจะทำพอดี ก็ต้องทำน้อย หรือ ทำเยอะก็ได้ คิดได้ แต่ ถึงเวลา สภาพธรรมจะเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น เมื่อถึงเวลานั้น เบาสบายที่จะเป็นปกติ อยู่กับปัจจุบันด้วยความเข้าใจถูก ว่าเป็นแต่ธรรมเป็นไป และ เป็นอนัตตา คือ เป็นไปตามเหตุปัจจัย ไม่มีเราจะจัดการ ถึงเวลาพร้อมสภาพธรรมเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น ครับ ความพอดี ทางสายกลาง จึงเป็นเรื่องของปัญญา ที่เป็นไปในความเข้าใจถูกในสภาพธรรมที่มีในชีวิตประจำวัน ครับ ขออุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 4 ก.ค. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ไม่พ้นไปจากความเกิดขึ้นเป็นไปของธรรม ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม มีสภาพธรรมเกิดขึ้นทำกิจหน้าที่อยู่ตลอด ไม่ขาดธรรมเลย และถ้าไม่เข้าใจธรรมที่มีจริง ไม่รู้สภาพธรรมที่กำลังปรากฏในขณะนี้ ก็ไม่ใช่ทางสายกลาง เพราะฉะนั้น สำคัญที่สุดคือความเข้าใจถูกเห็นถูก แม้ว่าจะทำดีสักเท่าไหร่ (ซึ่งต้องเป็นความดีจริงๆ สภาพธรรมฝ่ายดีเกิดขึ้นทำกิจหน้าที่) ก็ไม่ใช่ดีที่สุด จนกว่าจะบรรลุถึงความเป็นพระอรหันต์ ก็เป็นเรื่องที่เบาสบายด้วยความเข้าใจถูกเห็นถูก มีกิจหน้าที่อะไรที่จะทำก็ทำเป็นปกติ แต่ก็สามารถเข้าใจถูกเห็นถูกได้ว่า เป็นธรรมที่เกิดขึ้นทำกิจหน้าที่ ไม่ใช่เรา สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือการฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมสะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกเป็นปกติในชีวิตประจำวัน ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
thilda
วันที่ 4 ก.ค. 2558

เข้าใจแล้วค่ะ

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาอย่างยิ่งค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 24 ก.ย. 2558

.ตั้งใจทำให้ดีที่สุดกับผลงานดีที่สุดในสายตาคนอื่นๆ อาจไม่ตรงกัน..ต่อให้ดีที่สุดในสายตาคนอื่นแต่อาจไม่ดีในสายตาผู้บังคับบัญชา...มาตรฐานทางโลกโดยปุถุชนไม่ใช่เครื่องวัดที่คงที่แน่นอน..มาตรฐานทางธรรมคงที่แน่นอนไม่เปลี่ยนแปลง เช่นกุศลกับอกุศล.ผลเป็นไปตามเหตุไม่เปลี่ยนแปลง.....ทำอะไรแล้วหวัง..ความสำเร็จหรือต้องการคำชม กับทำให้ดีที่สุดโดยไม่หวังอะไร..อะไรเกิดขึ้นเชื่อว่าเป็นไปตามเหตุปัจจัย เชื่อเรื่องกรรมและผลของกรรม อย่างไหนดีกว่ากันและชื่อว่าน้อมปฏิบัติตามพระธรรม..ขออนุโมทนาคะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
j.jim
วันที่ 25 ก.ย. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
thilda
วันที่ 27 ก.ย. 2558

เชื่อความคิดของตัวเองไม่ได้ แม้มาตรฐานของตัวเองก็ไม่คงที่ เพราะยังเป็นปุถุชน มีพระธรรมเป็นที่พึ่งเพื่อละการคิดเอาเอง ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
nong
วันที่ 29 ก.ย. 2558

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
Jarunee.A
วันที่ 21 ต.ค. 2566

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ