อกุศลวิบากทางหู
เรียนอาจารย์ทั้งสองท่าน
อกุศลวิบากทางหู อยู่ที่ความดังของเสียงหรือบัญญัติของเสียงครับ ขอความอนุเคราะห์ด้วยครับ
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สัททรูป คือ รูปเสียง หมายถึง สิ่งที่สามารถปรากฏได้ทางหู ซึ่งมีลักษณะที่ดัง และกระทบกับโสตปสาท จะเป็นความดังค่อย ดังแรง ดังแหลม ดังทุ้มอย่างไร ก็เป็นเพียงความดังที่ปรากฏได้ทางหูในขณะปัจจุบันเท่านั้น เป็นสภาพที่ไม่รู้อารมณ์อย่างหนึ่ง ฉะนั้นความหมายที่รู้จากเสียงนั้นจึงไม่ใช่เสียง แต่เป็นบัญญัติซึ่งจิตทางมโนทวารคิดตามหลังจากที่จิตได้ยินเสียงทางหูดับไปแล้ว
ซึ่งเมื่อพูดถึงอกุศลวิบากทางหู คือ จิตได้ยิน ที่เป็นอกุศลวิบาก ก็จะต้องมีอารมณ์ คือ เสียง สัททรูป ก็จะต้องเป็นเสียงที่ดัง ซึ่ง ไม่ได้ขึ้นอยู่ว่าจะบัญญัติ ตั้งชื่อ ว่า เสียงอย่างนี้ จะเป็นเสียงที่ไม่ดี ทำให้เป็นอกุศลวิบากทางหู แต่ขึ้นอยู่กับ ตัวปรมัตถ์ คือ เสียง ที่ดังเกินไปก็เป็น เสียงที่ไม่ดี ที่เป็นอารมณ์ของจิตได้ยินที่เป็นอกุศลวิบากทางหู ครับ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ต้องมีความเข้าใจอย่างมั่นคงจริงๆ ว่า เสียง มีจริงๆ เป็นรูปธรรม เป็นสภาพธรรมที่ไม่รู้อะไร และความเป็นจริงของสภาพธรรมที่เป็นเสียง ก็มีทั้งที่เป็นอิฎฐารมณ์ คือ อารมณ์ที่น่าปรารถนาน่าใคร่น่าพอใจ กับ อนิฏฐารมณ์ คือ อารมณ์ที่ไม่น่าปรารถนาไม่น่าใคร่ไม่น่าพอใจ ถ้าถึงคราวที่อกุศลกรรมให้ผล ก็ทำให้ได้ยินเสียงที่ไม่น่าพอใจ ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น เพียงชั่วขณะเดียวที่โสตวิญญาณเกิดขึ้น โดยที่ยังไม่รู้เลยว่าเป็นเสียงอะไร นี้คือความจริง ในทางตรงกันข้ามถ้าถึงคราวที่กุศลกรรมให้ผลก็ทำให้ได้ยินเสียงที่น่าพอใจ ทั้งเสียง และ จิตได้ยินพร้อมทั้งเจตสิกธรรมที่เกิดร่วมด้วยกับจิตได้ยิน นั้น เป็นธรรม ไม่ใช่เรา ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ..
เรียนอาจารย์ทั้งสองท่าน
เสียงที่เป็นกุศลหรืออกุศลวิบากขึ้นอยู่กับ เวทนาที่เกิดร่วมด้วย หรือไม่อย่างไรครับ?
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ
เรียนความเห็นที่ 4 ครับ
เสียงเป็นรูป ไม่มีเวทนาเกิดร่วมด้วย แต่ จิตได้ยิน ที่มีเสียงเป็นอารมณ์ จิตได้ยินนั้นจะเป็นกุศลวิบาก อกุศลวิบาก ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเวทนา เพราะ ทั้งกุศลวิบาก อกุศลวิบาก ทางหู ต่างก็เป็นอุเบกขาเวทนา ครับ
ขออนุโมทนา