สำนึกผิดแล้วจริงๆครับ
โยมครับ ตอนนี้อาตมาได้ทำผิดสังฆาทิเสสข้อ1 ไปแต่ได้สำนึกผิดทันทีหลังจากได้กระทำลงไปแล้วเมื่อตะกี้ และได้มาบอกกล่าวกับพระพุทธรูปกับสิ่งที่ทำลงไปทั้งหมด แล้วอย่างนี้จะมีวิธีแก้อย่างอื่นที่จะต้องไม่ไปวัดอื่นมั้ยแล้ว ควรทำอย่างไรครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบนมัสการพระคุณเจ้าที่เคารพ ครับ
อาบัติสังฆาทิเสส แม้จะเป็นอาบัติหนัก แต่ก็เป็นอาบัติที่สามารถแก้ไขให้ถูกต้อง ตามพระวินัย ซึ่งการประพฤติที่จะทำให้พ้นจากอาบัติดังกล่าวได้เรียกตามพระวินัยว่า "ประพฤติวุฏฐานวิธี" หรือ การอยู่กรรม (หรือ ที่คุ้นกันในคำว่า อยู่ปริวาสกรรม) ซึ่งจะต้องอาศัยสงฆ์เป็นหลัก เมื่อต้องอาบัติสังฆาทิเสสแล้ว ไม่ควรปกปิดไว้ ต้องบอกแก่พระภิกษุด้วยกันว่า ตนเองต้องอาบัติสังฆาทิเสส เพราะถ้าปกปิดไว้กี่วัน หรือเป็นเดือน เป็นปี ก็ต้องอยู่ปริวาสตามวันที่ตนเองได้ปกปิดอาบัติไว้ อย่างไรก็ตาม ตราบใดที่ยังปฏิญาณตนว่าเป็นพระภิกษุเมื่อต้องอาบัติแล้ว ก็จะต้องกระทำคืนแก้ไขให้ถูกต้อง ตามพระวินัย เห็นโทษ พร้อมทั้งมีความจริงใจที่จะไม่ล่วงละเมิดอีก เพื่อให้ตนเองพ้นจากอาบัตินั้นๆ เพราะถ้าไม่แก้ไข ยังเป็นผู้มีอาบัติอยู่ย่อมเป็นเครื่องกั้นสวรรค์ กั้นการบรรลุ มรรค ผล นิพพาน ถ้ามรณภาพลงในขณะที่ยังมีอาบัติอยู่ ก็เป็นผู้มีอบายภูมิเป็นที่ไปในเบื้องหน้า [แต่ถ้าได้ลาสิกขา (คือ สึกไป) เป็นคฤหัสถ์ โดยที่ยังไม่ได้อยู่ปริวาสกรรม ก็ไม่มีอาบัติติดตัวอีกต่อไป เพราะไม่ได้เป็นพระภิกษุแล้ว] ก็ขอให้พระคุณเจ้าได้สอบถามกับพระอุปัชฌาย์อาจารย์ว่า มีการอยู่ปริวาสกรรมที่ไหนบ้างเพื่อจะได้ไปอยู่ปริวาสกรรม ซึ่งจะทำให้พ้นจากอาบัติดังกล่าวได้ ครับ
ชีวิตของเพศบรรพชิต เป็นชีวิตที่รักษายาก เพราะยากด้วยการสละ ความยินดีพอใจและความประพฤติในชีวิตคฤหัสถ์ซึ่งยังมีความผูกพันเกี่ยวข้องด้วยกามโดยสิ้นเชิง จึงควรสำรวมระวังรักษาข้อประพฤติปฏิบัติตามพระวินัยด้วยสติ และปัญญาที่เกิดจากความเข้าใจพระธรรม ซึ่งสำหรับการต้องอาบัติสังฆาทิเสส ก็สามารถรักษาให้พ้นไปได้โดยทำตามพระวินัยบัญญัติที่พระพุทธเจ้าแสดงไว้ โดยการอยู่กรรม แสดงโทษกับผู้อื่น เป็นต้น ซึ่งเมื่อได้แก้ไขแล้ว สิ่งที่สำคัญ คือ ไม่ใช่เพียงแก้ไขในเหตุการณ์เฉพาะหน้า แต่ควรศึกษาพระวินัยให้กระจ่างเพื่อประพฤติตาม และศึกษาพระธรรมให้มากขึ้นกว่าเดิม เพื่อประโยชน์ คือ จะได้รู้ว่าอะไรควร อะไรไม่ควร และจะได้น้อมประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมได้ดียิ่งขึ้นซึ่งก็จะเป็นประโยชน์กับตนเอง ต้องอาบัติน้อยลง และกุศลธรรมเจริญขึ้น และที่สำคัญที่สุด การรักษาพระวินัย ก็จะทำให้ละอาสวะกิเลสที่มีอยู่ได้ และก็ยังเป็นประโยชน์กับผู้อื่นด้วย คือ ทำให้ผู้ที่ทำกุศลกับพระภิกษุ ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ทำให้กุศลผลบุญของผู้ทำ มีมาก และเอื้อต่อองค์รวม คือ เป็นการรักษาพระธรรมวินัยให้ถูกต้อง ธำรงพระพุทธศาสนาให้เจริญสืบต่อไป เพราะพุทธบริษัทที่เป็นประธาน คือ พระภิกษุ ประพฤติถูกต้องเหมาะสม ครับ
ดังนั้น ไม่ควรประมาทในการศึกษาพระธรรมวินัยซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะกิจของพระภิกษุ คือ ศึกษาพระธรรมและอบรมปัญญา ส่วนอาบัติที่เกิดขึ้น ก็สามารถแก้ได้ หากไม่ใช่ปาราชิก ซึ่งก็ต้องเห็นโทษตามความเป็นจริง และสำคัญที่สุด คือ สำรวมระวังต่อไป ด้วยการศึกษาและเข้าใจในพระธรรม ครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบนมัสการพระคุณเจ้าที่เคารพครับ
เพียงสำนึกผิดยังไม่พอ จะต้องมีการกระทำคืนให้ถูกต้องตามพระธรรมวินัยด้วย เพราะถ้ายังไม่ได้กระทำคืน ก็ยังเป็นผู้มีอาบัติติดตัว และไม่ใช่เพียงเฉพาะสังฆาทิเสสเท่านั้น ยังหมายรวมถึงอาบัติประเภทอื่นๆ ด้วย เพราะตราบใดก็ตามที่ยังมีอาบัติติดตัวในขณะที่เป็นพระภิกษุอยู่ ก็เป็นผู้มีอาบัติเป็นเครื่องกั้น กั้นการไปเกิดในสุคติภูมิ นั่นหมายความว่าถ้ามรณภาพลงขณะที่เป็นพระภิกษุที่มีอาบัติติดตัวอยู่ ชาติหน้า เป็นผู้มีอบายภูมิเป็นที่ไป เท่านั้น ซึ่งจะประมาทไม่ได้เลยทีเดียว นี้คือความเป็นจริง เพราะความผิดที่เกิดขึ้นในขณะที่ดำรงเพศที่สูงยิ่งนั้น อันตรายมาก ถ้าไม่มีอัธยาศัยน้อมไปในการออกบวชเป็นบรรพชิตจริงๆ ย่อมไม่ได้รับประโยชน์ใดๆ เลย มีแต่เพิ่มโทษให้กับตนเองเท่านั้น ที่น่าพิจารณา คือ เป็นคฤหัสถ์ที่ดี ยังยาก ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
กราบนมัสการพระคุณเจ้าที่เคารพค่ะ การสำนึกผิดแล้วก็ต้องปลงอาบัติให้ถูกต้องตามพระธรรมวินัย ที่สำคัญการปลงอาบัติเพื่อให้สำรวมระวังกาย วาจา ที่จะไม่ทำผิดพระวินัยอีกถ้าไม่ปลงอาบัติก็ทำให้ไปเกิดในอบายภูมิ เช่น ภิกษุในครั้งพุทธกาลพรากของเขียวแล้วไม่ได้ปลงอาบัติก่อนตายจิตเศร้าหมองไปเกิดเป็นพญานาคค่ะ