ศึกษาธรรมตามลำดับ

 
ใหญ่ราชบุรี
วันที่  24 ก.ค. 2558
หมายเลข  26816
อ่าน  1,221

ขอนอบน้อมแด่พระพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สำหรับผู้ที่เริ่มศึกษาธรรมในเว็บไซต์บ้านธัมมะ ควรเริ่มฟังเริ่มอ่านเริ่มดูวีดิโอ ของหมวดใดก่อน บ้างก็เลือกเอาตามที่สนใจ หรือตามที่มีความสงสัย บ้างก็อ่านปรมัตถธรรมสังเขปก่อน แต่อ่านไม่ตลอด คือ ข้ามส่วนที่ยากไปก่อน (ควรอ่านให้ครบถ้วนบริบูรณ์จนแตกฉานก่อน หรือไม่) บ้างก็ฟังแบบปูพรมไปเรื่อยๆ ก่อน บ้างก็ฉุกคิด เมื่อเห็น คำว่า"กบกระโดด" (ข้ามสิ่งที่ควรได้รู้ ไปรู้สูงๆ แบบวิชาการ) "สุตตะเคยยะไวยากรณฯ" (คืออะไร ก็ไม่ทราบ อธิบายด้วยค่ะ ตรงนี้ศึกษากันอย่างไร) "สุตมยปัญญา" (ฟังให้เข้าใจ หมายรวม อ่านให้เข้าใจด้วยหรือเปล่า และต้องประกอบด้วย การพิจารณา"สภาพธรรม" นาม-รูป ขณะที่เห็นได้ยินได้กลิ่นลิ้มรสรู้กระทบสัมผัสคิดนึก สีเสียงกลิ่นรสโผฏฐัพพะธัมมารมณ์ ด้วยหรือไม่ อย่างไร) "ปริยัติรอบรู้ในพระพุทธพจน์" (รวมถึง ขณะที่ ฟัง อ่าน เขียนบันทึก สนทนาธรรม + คิด + พิจารณา + สังเกต + ไตร่ตรอง + ศึกษา สภาพธรรมซึ่งก็ยังไม่รู้จัก) "มิใช่ฐานะมิใช่วิสัย" การจะพูดจะถามบางสิ่งก็อาจจะเกินฐานะเกินวิสัย หรือบ่นเพ้อ หรือพูดคำที่ไม่รู้จัก ๘ หรือไม่รู้จักคำที่พูด (จะยกเว้นให้ คนที่ยังไม่รู้จักตัวธรรม บ่นเพ้อไป ก็คิดว่า ไม่ควร ซึ่งผู้ถามแต่ละคน ควรพูดให้กระชับชัดเจน ไม่เยิ่นเย้อยืดยาว อย่างคำถามนี้ ก็บรรยายเก็บรายละเอียดเยอะเข่นกัน) หรือ "ไม่เคารพพระพุทธเจ้า เถียงพระพุทธเจ้า" ฯลฯ ทั้งนี้ล้วนเป็นด้วยความไม่รู้ ความอยากรู้ ความสงสัย ฯ

จึงขอเรียนถาม ขอ ความละเอียด ความชัดเจน ความถูกต้อง เป็นไปตามลำดับของ"ศึกษาธรรมตามลำดับ" ว่า เป็นประการใด

ขอบพระคุณที่อนุเคราะห์ให้คำอธิบายค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
ใหญ่ราชบุรี
วันที่ 24 ก.ค. 2558

ขอเพิ่มเติมค่ะ หรือว่า ตามลำดับลักษณะอาการ ของ การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป คือตามลำดับความเป็นไป หรือว่า จะลำดับ แบบไหน แนวไหน ก็ต้องตามลำดับของ แบบนั้น แนวนั้น

ขอบพระคุณค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
paderm
วันที่ 24 ก.ค. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขอเชิญอ่านคำบรรยายท่านอาจารย์สุจินต์ดังนี้ ครับ

ศึกษาตามลำดับความเข้าใจ

ก็เป็นเรื่องการรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่มีจริงมากขึ้นตามลำดับ จากขั้นที่เริ่มฟัง จากขั้นที่เข้าใจ แล้วถึงขั้นที่ประจักษ์แจ้ง เพราะว่าพระศาสนาต้องครบถ้วนทั้ง ๓ อย่าง ถ้ามีแต่เพียงการฟัง แต่ไม่มีใครสามารถที่จะประจักษ์จริงๆ อย่างนั้นได้ การฟังทั้งหมดของเราก็เป็นโมฆะ เหมือนกับฟังเรื่องซึ่งไม่สามารถที่จะพิสูจน์ได้ แต่ว่าตามความเป็นจริงสิ่งที่ได้ฟังเป็นความจริง พร้อมที่จะให้ผู้ที่ได้อบรมเจริญปัญญาสามารถประจักษ์ได้จริงๆ ก็ต้องมีการศึกษาตามลำดับ ตั้งแต่ขั้นฟัง สุตมยปัญญา ขั้นคิดพิจารณาไตร่ตรองสิ่งที่ได้ฟังแล้ว จินตามยปัญญา และภาวนามยปัญญา คือ การอบรมเจริญปัญญาที่สามารถที่จะรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังมีจริงในขณะนี้ได้ ซึ่งก็ต้องยากขึ้นตามลำดับ ใช่ไหมคะ ทั้งๆ ที่สิ่งที่มีจริง ยากที่จะรู้ เพราะว่าเกิดแล้วดับแล้วเร็วมากแต่ก็มีสิ่งที่เกิดอีกปรากฏอีก ให้เข้าใจได้อีกไม่มีวันจบ สิ่งที่จะปรากฏให้ศึกษามีอยู่ทุกขณะ แม้ไม่มีหนังสือเลย เพียงขั้นฟัง ก็สามารถที่จะค่อยๆ พิจารณาเข้าใจได้

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
tanrat
วันที่ 25 ก.ค. 2558

สะสมมาต่างๆ นาๆ เป็นแต่ละหนึ่ง ต้องไม่ทำอะไรให้ผิดปกติ ใครจะรู้หากแต่ละท่านสะสมมา มากน้อยต่างกัน แม้ในพุทธกาล บางท่านแม้ได้ฟังเพียงคำเดียว ก็รู้แจ้งได้ทันที แต่กาลสมัยที่พระศาสนาพ้นมาถึง 2558 ปี ก็ยาก นี่ก็เป็นธรรมดา

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
khampan.a
วันที่ 25 ก.ค. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระธรรมเป็นเรื่องที่เข้าใจยาก ที่สำคัญ ต้องอาศัยกาลเวลาที่ยาวนานในการอบรมเจริญปัญญา ไม่ใช่เพียงแค่ชาติสองชาติเท่านั้น แต่นานทีเดียว จะต้องมีความอดทน มีความจริงใจ มีความเพียรที่จะฟังที่จะศึกษา ค่อยๆ สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปทีละเล็กทีละน้อย มั่นคงในความจริงว่า สิ่งที่ควรจะศึกษาให้เข้าใจ คือ สิ่งที่มีจริงๆ ในขณะนี้ ความจริงเป็นอย่างไร ก็เป็นจริงอย่างนั้น ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
Patchanon
วันที่ 26 ก.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
chatchai.k
วันที่ 23 ต.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
Jarunee.A
วันที่ 24 ก.ย. 2566

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
nattawan
วันที่ 25 ก.ค. 2567

ยินดีในกุศลจิตค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ