เป็นพระโสดาบันยากมากไหมครับ

 
apiwit
วันที่  31 ก.ค. 2558
หมายเลข  26860
อ่าน  1,124

เมื่อได้ฟังท่านอาจารย์แล้วก็รู้ว่าพระโสดาบันนั้นเพียงแค่ดับความเห็นผิด คือ รู้ว่าทุกสิ่งเป็นสภาพธรรมไม่ใช่เรา สัตว์ บุคคล แต่ถึงกระนั้นพระโสดาบันก็ยังมีอวิชชาคือความไม่รู้อยู่อีกมาก เช่น ไม่รู้ว่าสภาพธรรมทั้งหลายไม่น่ายินดีพอใจ พระโสดาบันจึงยังหลงติดข้องและก็ยังมีโลภะ โทสะ โมหะ เหมือนกับคนทั่วไป พระโสดาบันยังสามารถมีครอบครัวหรือทรัพย์สมบัติได้ ดังนั้น พระโสดาบัน กับ คนธรรมดาจึงดูแยกกันแทบไม่ออก ผมจึงมีความรู้สึกว่าถ้าการบรรลุนิพพานนั้นยากเกินไปสำหรับเราแน่นอน แต่การบรรลุเป็นโสดาบันรู้สึกจะไม่ค่อยยากเท่าไหร่ใช่ไหมครับ ผมจึงอยากให้ท่านอาจารย์ช่วยอธิบายว่าการเป็นโสดาบันนั้น นอกจากรักษาศีล 5 ข้อให้ดีพร้อมแล้ว มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งแล้วยังต้องมีความเข้าใจอะไรในธรรมอีกบ้าง เพราะการรักษาศีล 5 นั้น ผมรู้สึกว่าไม่ค่อยยากเท่าไหร่


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 31 ก.ค. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ผลของการเป็นพระโสดาบัน คือ มั่นคงในพระรัตนตรัย ไม่เปลี่ยนแปลง และ รักษาศีล 5 สมบูรณ์ นั่นคือผล ไม่ใช่เหตุ ครับ เพราะฉะนั้น ผู้ที่ไม่เข้าใจ ก็คือ จะทำผล คือ รักษาศีล 5 สมบูรณ์ มีพระรัตนตรัยมั่นคง เพื่อสรุปว่า ทำอย่างนี้ได้ เป็นพระโสดาบัน นั่นก็เท่ากับเอาผลมาเป็นเหตุ เอาเหตุมาเป็นผล เพราะฉะนั้น เหตุผล ไม่ตรงกัน ก็ไม่ต้องกล่าวถึงการจะเป็น พระโสดาบัน แม้ความเข้าใจถูกเบื้องต้นก็เข้าใจผิด ก็ไม่สามารถที่จะถึง กัลยาณปุถุชน ปุถุชนผู้มีความเห็นถูกได้เลย ครับ
เพราะฉะนั้น แม้ความเข้าใจถูก ก็ยากมากแล้วแม้เพียงขั้นการฟัง ไม่ต้องกล่าวถึงความเป็นพระโสดาบันที่ไกลแสนไกล เพราะฉะนั้น ควรที่จะเริ่มจากเหตุที่ถูกต้อง ที่จะทำให้ถึงความเป็นพระโสดาบันว่าคืออะไร นั่นคือ เริ่มจากปัญญาขั้นการฟังให้เข้าใจถูกต้องก่อนว่า ขณะนี้เป็นธรรม และ ไม่ใช่เรา และ พระสารีบุตรกว่าจะเป็นพระโสดาบัน อบรมปัญญามา หนึ่งอสงไขยแสนกัป ไม่ต้องกล่าวถึงเรา ที่ปัญญาเทียบไม่ได้เลย เพราะฉะนั้น ก็ฟัง ศึกษาพระธรรมต่อไป เบาสบาย ที่ไม่คิดถึงผล อบรมเหตุเท่านั้น ปัญหาน้อยลง เพราะเข้าใจขึ้น เมื่อเริ่มจากเหตุไปหาผล ปัญหามากขึ้น เมื่อเริ่มจากผลไปหาเหตุ เพราะเข้าใจไม่ถูกต้อง ครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
tanrat
วันที่ 1 ส.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
khampan.a
วันที่ 1 ส.ค. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สำคัญที่ปัญญา ถ้าไม่มีปัญญาไม่มีทางถึงการรู้แจ้งอริยสัจจธรรมถึงความเป็นอริยบุคคลตั้งแต่พระโสดาบันบุคคลได้เลย การรู้แจ้งอริยสัจจธรรมเป็นเรื่องยาก เป็นเรื่องที่ยาวไกล พระอริยบุคคลทั้งหลายในอดีตที่ท่านได้รู้แจ้งอริยสัจจธรรม ล้วนเป็นผู้ที่ได้สะสมปัญญา สะสมการได้ยินได้ฟังพระธรรมจากพระพุทธเจ้าพระองค์ก่อนๆ มาอย่างยาวนาน ไม่ใช่แค่ชาติเดียวหรือสองชาติ ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
Patchanon
วันที่ 1 ส.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
j.jim
วันที่ 1 ส.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
thilda
วันที่ 1 ส.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
jirat wen
วันที่ 1 ส.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
panasda
วันที่ 1 ส.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
peem
วันที่ 2 ส.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
chatchai.k
วันที่ 5 พ.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ 

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
Jarunee.A
วันที่ 19 ก.ย. 2566

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ