ความเป็นมาของเว็บไซต์บ้านธัมมะ
ความเป็นมาของเว็บไซต์บ้านธัมมะ
www.dhammahome.com
จุดเริ่มต้น
เมื่ออาจารย์ฉัตรชัย กิติพรชัย ได้เริ่มฟังธรรมของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งถ่ายทอดโดย ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ และเริ่มเข้าใจความจริง เห็นประโยชน์และคุณค่าของพระธรรมที่ควรจะเผยแพร่ให้กว้างขวางออกไป ประกอบกับได้เล็งเห็นประโยชน์ของการจัดเก็บและเผยแพร่ข้อมูลผ่านเว็บไซต์ซึ่งเป็นการสื่อสารที่เข้าถึงได้ตลอด 24 ชั่วโมงจากทุกพื้นที่ทั่วโลก และด้วยเหตุที่เว็บไซต์ต่างๆ นั้นเป็นแหล่งค้นหาข้อมูลที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในแต่ละวันมีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมากและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตลอดเวลา หากมีเว็บไซต์สำหรับเผยแพร่ความเห็นถูกแล้วย่อมทำให้เกิดประโยชน์อย่างยิ่งกับผู้เข้าชม หลังจากที่ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา (มศพ.) แล้ว จึงได้เริ่มเผยแพร่พระธรรมทางเว็บไซต์ภายใต้ชื่อ www.dhammahome.com ตั้งแต่ วันที่ 9 มีนาคม 2547 เป็นต้นมา
ในระยะแรกเครื่อง server ที่ใช้สำหรับการเผยแพร่เว็บไซต์ตั้งอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เว็บไซต์ที่เผยแพร่ในครั้งแรกมีลักษณะเรียบง่าย ประกอบด้วยเมนูประชาสัมพันธ์ ฟังธรรม หนังสือ ซีดี-เทปธัมมะ และข้อมูลเกี่ยวกับ มศพ.
เว็บไซต์มีระบบจัดการให้เข้าไปเพิ่ม-แก้ไขข้อมูลได้ง่าย โดยผู้ดูแลไม่จำเป็นต้องเชี่ยวชาญด้านเว็บไซต์ แต่เนื่องจากมีพื้นที่จำกัด จึงทำให้บรรจุไฟล์ฟังธรรมได้ประมาณ 20 ไฟล์เท่านั้น เป็นไฟล์ชนิด wma 8kbps โดยหมุนเวียนลบไฟล์เก่าออก แล้วเพิ่มไฟล์ใหม่เข้าไป ซึ่งไม่สะดวกและก่อให้เกิดปัญหาเมื่อต้องการติดตามฟังไฟล์แรกๆ จึงได้ยกเลิกการลบไฟล์ออกจากเว็บไซต์และเพิ่มพื้นที่ขึ้นเป็น 100, 200, 500 เม็กกะไบต์ และ 1 กิกกะไบต์ตามลำดับ เพื่อให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น จึงมีการประชาสัมพันธ์โดยนำชื่อเว็บไซต์ไปฝากยังเว็บไซต์ชื่อดังต่างๆ ในปีแรกนี้มีผู้เข้าชมประมาณ 10 คนต่อวัน
ปี พ.ศ. 2548
ปีต่อมาเว็บไซต์เริ่มมีข้อมูลมากขึ้น จึงได้ขยายพื้นที่เป็นการใช้เครื่อง server ทั้งเครื่องเพื่อเก็บข้อมูลโดยการสนับสนุนจาก มศพ. และคณะผู้ศึกษาพระธรรมในประเทศอเมริกา
เว็บไซต์มีการพัฒนาไปตามความต้องการของผู้เข้าชม ได้เริ่มมีทีมงานเพื่อการพัฒนาเว็บไซต์ขึ้น หน้าที่ส่วนใหญ่ของทีมงานในระยะแรกเป็นการปรับปรุงคุณภาพเสียงไฟล์ฟังธรรม เมื่อมีทีมงานจึงมีไฟล์ฟังธรรมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมากกว่า 2,000 ไฟล์ มีการจัดแบ่งไฟล์ฟังธรรมเป็นกลุ่มย่อย 16 กลุ่ม ให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น และเริ่มให้มีการดาวน์โหลดไฟล์ pdf ของหนังสือธัมมะ
เริ่มมีระบบสมาชิกและเปิดให้บริการกระดานสนทนา ซึ่งในยุคแรกจะเป็นการส่งคำถาม-คำตอบโดยตรงระหว่างสมาชิกเว็บไซต์ และ วิทยากรของ มศพ. เท่านั้น เมื่อมีกระดานสนทนาทำให้เว็บไซต์เริ่มเข้าสู่หลักการของเว็บ 2.0 ที่ผู้เข้าชมสามารถสร้างเนื้อหาขึ้นเองได้ ทำให้ข้อมูลมีความหลากหลายมากขึ้น ต่างจากเว็บ 1.0 ที่ผู้เข้าชมทำได้เพียงเปิดดูข้อมูลเท่านั้น
มีการเพิ่มเมนูปัญหาธัมมะ ปกิณณกธรรม และเมนูธรรมเตือนใจ เป็นบทความและไฟล์ฟังธรรมสั้นๆ ที่น่าสนใจ แต่ปัจจุบันได้ยกเลิกทั้ง 3 เมนูนี้แล้ว นำข้อความไปรวมกับกระดานสนทนา และนำไฟล์เสียงไปไว้ในเมนูฟังธรรมเพื่อความสะดวกในการค้นหาข้อมูล ในช่วงแรกของการเปิดเว็บไซต์มีการส่งแผ่นซีดีสำหรับทดลองฟังให้กับผู้เข้าชมด้วย
ปี พ.ศ. 2549
มีการย้ายข้อมูลใน server จากประเทศสหรัฐอเมริกามายังประเทศไทย ช่วยให้ผู้ชมส่วนใหญ่ซึ่งอยู่ภายในประเทศเข้าถึงเว็บไซต์ได้เร็วขึ้น รองรับภาษาไทยได้ดีขึ้น มีช่างเทคนิคให้คำแนะนำปรึกษาปัญหาต่างๆ รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงระบบต่างๆ ทำได้สะดวกยิ่งขึ้น
เริ่มเผยแพร่พระไตรปิฎกและอรรธกถาไทยฉบับมหามกุฎราชวิทยาลัย 91 เล่ม ผ่านเว็บไซต์ โดยคัดลอกต้นฉบับมาจาก CD พระไตรปิฎกและอรรธกถาไทยฉบับมหามกุฎราชวิทยาลัย นำเสนอในรูปไฟล์ pdf เพื่อมิให้เกิดการตัดคำ การขึ้นบรรทัดใหม่ หรือการเว้นวรรคที่คลาดเคลื่อนไปจากต้นฉบับ อันจะนำมาซึ่งความรู้ความเข้าใจพระพุทธศาสนาของผู้ศึกษาพระธรรม ตรงตามหลักฐานที่ปรากฏในพระไตรปิฎก และที่พระอรรถกถาจารย์อธิบายไว้
เริ่มมีกระดานสนทนาที่ตอบโต้ได้ทำให้มีผู้ส่งคำถามเข้ามาเป็นประจำทุกวัน แม้ว่าเมนูกระดานสนทนาจะเริ่มเป็นที่นิยมแต่เมนูฟังธรรมก็ยังมีผู้เข้าชมสูงที่สุด ในปีนี้เริ่มมีการเพิ่มคุณภาพไฟล์เป็น wma 20 Kbps ตัดเสียงรบกวนเพิ่มความคมชัดยิ่งขึ้น เพื่อให้ใช้กับเครื่องเล่นไฟล์เสียงแบบพกพาได้
ปี พ.ศ. 2550
ต่อมาเมื่อมีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลมากขึ้น เว็บไซต์จึงได้เพิ่มไฟล์รายละเอียดซีดีธัมมะแต่ละแผ่น ทำให้ฟังซีดีผ่านหน้าเว็บไซต์ได้ทั้งแผ่น มีการจัดทำบัญชีเรื่องพระไตรปิฎกเพิ่มเติมเพื่อให้ในเว็บไซต์มีข้อมูลลักษณะเดียวกับพระไตรปิฎกที่เป็นรูปเล่ม มีดัชนีคำค้น และระบบค้นหาข้อมูลจากบัญชีเรื่องพระไตรปิฎก ช่วยค้นคำหรือข้อความจากพระไตรปิฎก แสดงผลเป็นเล่มและหน้าที่พบข้อมูล
มีการเพิ่มส่วนคลังรูปภาพ ซึ่งจะใช้เก็บภาพกิจกรรมต่างๆ ของ มศพ. ภาพสังเวชณียสถาน มีการเปลี่ยนภาพประกอบที่หน้าแรกของเว็บไซต์ตามวันสำคัญต่างๆ กระดานสนทนาสามารถใส่ภาพเพื่อประกอบการบรรยายต่างๆ ได้และมีการโต้ตอบที่รวดเร็วยิ่งขึ้น
กระดานสนทนามีข้อมูลเพิ่มขึ้นมากจึงได้แบ่งออกเป็นกลุ่มย่อยตามลักษณะเนื้อหา และด้วยเหตุที่มีข้อมูลเพิ่มขึ้นเป็นประจำนี้เอง ทำให้ได้รับความนิยมจนเป็นเมนูที่มีจำนวนผู้เข้าชมมากที่สุดแทนที่เมนูฟังธรรม
ปี พ.ศ. 2551
หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่เป็นที่นิยมในขณะนั้นมีความละเอียดเพิ่มขึ้น จึงมีการเพิ่มพื้นที่แสดงผลในหน้าเว็บไซต์ตามไปด้วย ทำให้รองรับเนื้อหาต่างๆ ได้มากขึ้น เว็บไซต์รองรับการเข้าดูจากหลาย web browser มีการเปลี่ยนตัวอักษรพื้นฐาน มีการจัดรูปแบบข้อความต่างๆ ให้สวยงามอ่านง่ายโดยทีมงาน
เมื่อเว็บไซต์มีข้อมูลมากขึ้นเรื่อยๆ จึงต้องให้ความสำคัญกับการค้นหาข้อมูล มีระบบค้นหาข้อมูลให้เลือกใช้ได้หลายแบบ เช่น การค้นจากชื่อเรื่อง ค้นจากชื่อผู้เขียน การค้นจาก keyword ซึ่งเป็นคำสั้นๆ ที่แสดงถึงเนื้อหาหลัก ใจความสำคัญ หรือบทสรุปของแต่ละหัวข้อ การค้นโดยใช้เครื่องมือของ Google ซึ่งสามารถค้นได้แบบละเอียดเข้าไปถึงข้อความต่างๆ ในแต่ละหัวข้อ
มีการประชาสัมพันธ์เว็บไซต์ด้วยการทำสติกเกอร์ติดด้านหลังรถยนต์ และมีสมาชิกเว็บไซต์หลายท่านได้แนะนำเว็บไซต์บ้านธัมมะผ่านเว็บไซต์ของตนเอง และในปลายปีนี้เองที่ได้เริ่มมีการออกอากาศรายการบ้านธัมมะทางสถานีโทรทัศน์ สทท. ออกอากาศครั้งแรก วันที่ 3 ธันวาคม 2551
ปี พ.ศ. 2552
เริ่มเผยแพร่รายการบ้านธัมมะย้อนหลังในเมนูวีดีโอ ในระยะแรกจัดทำเป็นไฟล์วีดีโอที่มีความละเอียดไม่มากนัก โดยตัดแบ่งเป็นตอนย่อยๆ ตอนละไม่เกิน 10 นาที เนื่องจากความเร็วอินเตอร์เน็ตในขณะนั้นยังไม่มากพอที่จะนำเสนอเต็มความยาวของรายการ
เมนูฟังธรรมก็มีไฟล์เพิ่มขึ้นมากเช่นกัน มีการเปลี่ยนรูปแบบไปเป็น mp3 32kbps มีคุณภาพเสียงดีขึ้นนำไปใช้กับเครื่องเล่นได้หลากหลาย และเพื่อให้การเข้าฟังไฟล์ต่างๆ แบบต่อเนื่องสะดวกขึ้น จึงเปิดให้บริการ Playlist สำหรับสมาชิกแต่ละคน สมาชิกสามารถจัดการข้อมูลภายใน Playlist ของตนเอง เพิ่มและลบไฟล์ต่างๆ ได้ตามต้องการ และยังมี Playlist ซีดีธัมมะให้ฟังต่อเนื่องได้จากซีดีทั้งแผ่นด้วย
เว็บไซต์มีทีมงานอาสาสมัครเข้ามาช่วยปฏิบัติงานเพิ่มขึ้น แบ่งหน้าที่กันออกไปหลายส่วน เช่น ทีมงานปรับแต่งไฟล์เสียง-ไฟล์วีดีโอ ทีมงานวิทยากรตอบคำถามในกระดานสนทนา ทีมงานพิสูจน์อักษร ทีมงานถอดเทปบรรยายธรรม เป็นต้น
มีการเปิดให้บริการวิทยุออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ด้วย โดยติดตั้งเครื่องถ่ายทอดไว้ที่ มศพ. มีการถ่ายทอดตลอด 24 ชั่วโมง เป็นรายการแนวทางเจริญวิปัสสนา และพื้นฐานพระอภิธรรม ซึ่งก็มีผู้เข้าฟังอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง เช่นกัน
ปี พ.ศ. 2553
ในปีนี้เครือข่ายสังคมออนไลน์ (Social Network) กำลังเป็นที่นิยมและมีผู้ใช้งานมากขึ้นเรื่อยๆ เว็บไซต์จึงเพิ่มบริการส่งข้อมูลไปยัง Facebook และ Twitter ซึ่งเป็นเครื่อข่ายสังคมออนไลน์ที่มีผู้ใช้งานมากที่สุด เป็นการแนะนำเว็บไซต์และเผยแพร่ข้อมูลให้กว้างขวางยิ่งขึ้น
เว็บไซต์เริ่มมีขนาดใหญ่และเป็นที่รู้จักมากขึ้น ในแต่ละวันมีผู้เข้าชมไม่ต่ำกว่า 1,000 คน จากหลายประเทศทั่วโลก มีผู้เขียนข้อความเข้ามาในกระดานสนทนาเป็นประจำทุกวัน เมื่อมีข้อมูลอยู่ในระบบเป็นจำนวนมากจึงมีการพัฒนาระบบการจัดเก็บที่ดีขึ้น จัดโครงสร้างให้เป็นระเบียบ มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี และมีการสำรองข้อมูลแบบ offline เก็บไว้ที่ มศพ. เป็นประจำทุกเดือน
เว็บไซต์มีลักษณะเป็นคลังข้อมูลที่มีทั้งข้อความ เสียง วีดีโอ และภาพที่เกี่ยวข้องกับ มศพ. โดยมีการนำเสนอที่เน้นความถูกต้องของข้อมูล และความสะดวกในการเข้าถึง โดยใช้ keyword เป็นตัวเชื่อมข้อมูลต่างๆ เข้าด้วยกัน
ปี พ.ศ. 2554
มีการเปลี่ยนเครื่อง server ใหม่ เนื่องจากเครื่องเดิมนั้นหมดอายุการใช้งาน เริ่มมีการปรับโครงสร้างการแสดงผลตามมาตรฐานเว็บไซต์สมัยใหม่ของ World Wide Web Consortium (W3C) ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการปรับปรุงเว็บไซต์เพื่อให้แสดงผลได้ในหลายอุปกรณ์
เว็บไซต์มีการพัฒนาไปในแนวทาง Search Engine Optimization (SEO) ซึ่งเป็นการออกแบบการแสดงผลเนื้อหาต่างๆ ให้สอดคล้องกับการทำงานของ Search Engine เช่น Google, Yahoo, Bing เป็นต้น เป็นการประชาสัมพันธ์ให้คนรู้จัก และสนใจการศึกษาพระธรรมตามแนวพระไตรปิฎกอย่างกว้างขวาง เมื่อค้นเจอเว็บไซต์จาก Search Engine ได้ง่าย ก็ทำให้มีคนรู้จักและมีผู้เข้าชมเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
มีการเปลี่ยนโทนสีของเว็บไซต์จากโทนสีเหลืองทองเป็นโทนสีเขียวเทา ยกเลิกสีที่จัดจ้านและกราฟิกที่ไม่จำเป็น ให้หน้าเว็บไซต์ดูเรียบง่ายสบายตามากขึ้น
ในปีนี้ได้มีการก่อตั้งชมรมบ้านธัมมะ มศพ. ขึ้น มีการรับสมัครสมาชิกชมรม และส่งบาลีวันละคำ คติธรรมประจำสัปดาห์ทางอีเมล์ ผู้ชมสามารถเข้าดูรายละเอียดต่างๆ และดาวน์โหลดไฟล์ย้อนหลังได้ที่เว็บไซต์ www.dhammahomefellowship.com
ปี พ.ศ. 2555
คณะกรรมการ มศพ. มีมติให้ขยายการเผยแพร่พระธรรมผ่านเว็บไซต์ให้กว้างขวางไปยังชาวต่างชาติมากยิ่งขึ้นโดยให้มีเว็บไซต์ภาษาต่างประเทศเพิ่มขึ้นอีก 3 เว็บไซต์ ได้แก่ ภาษาจีน cn.dhammahome.com ภาษาญี่ปุ่น jp.dhammahome.com และภาษาเวียดนาม vn.dhammahome.com มีการเพิ่มข้อมูลเข้าสู่เว็บไซต์ทั้ง 3 เป็นระยะๆ มีผู้ชมชาวต่างประเทศเข้ามาอ่านข้อความเป็นประจำ โดยเว็บไซต์ภาษาเวียดนามเป็นเว็บไซต์ที่มีผู้เข้าชมสูงที่สุด
เริ่มใช้ระบบของ YouTube เผยแพร่รายการบ้านธัมมะ โดยเชื่อมโยงการแสดงผลวีดีโอในเว็บไซต์เข้ากับ YouTube ทำให้แสดงผลได้รวดเร็วมีความคมชัดสูงทั้งภาพและเสียง แสดงรายการบ้านธัมมะตอนล่าสุดไว้ที่หน้าแรกของเว็บไซต์เปิดชมได้ทันที
มีการพัฒนาระบบค้นหาข้อมูลจากพระไตรปิฎกที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถค้นได้จากทุกหัวข้อในพระไตรปิฎก ระบบนี้มีความสามารถเทียบเท่ากับระบบค้นหาข้อมูลที่อยู่ในแผ่นซีดีพระไตรปิฎกของมหามกุฎราชวิทยาลัย
ปี พ.ศ. 2556
ได้เพิ่มเครื่อง server อีก 1 เครื่องสำหรับสำรองข้อมูล เริ่มมีการการถอดคำบรรยายไฟล์ฟังธรรมต่างๆ ออกมาเป็นตัวอักษร เพื่อให้ผู้ชมสามารถอ่านและฟังไปพร้อมๆ กัน มีการจัดทำ E-book แนวทางการเจริญวิปัสสนาเผยแพร่ในเว็บไซต์ เนื้อหาที่อยู่ใน E-book นั้นจะเป็นการถอดคำบรรยายจากซีดีชุดต่างๆ ให้เปิดอ่านผ่านหน้าเว็บไซต์ทันที หรือดาวน์โหลดเก็บไว้อ่านภายหลังได้ตามต้องการ
เปิดให้บริการฟังธรรมออนไลน์ โดยนำมาใช้แทนวิทยุออนไลน์ซึ่งพบปัญหา server ผู้ให้บริการขัดข้องบ่อยครั้ง ฟังธรรมออนไลน์นี้คงข้อดีของวิทยุออนไลน์ไว้ คือ ใช้งานง่าย ฟังต่อเนื่องได้โดยไม่จำเป็นต้องสมัครสมาชิกเว็บไซต์ ไม่ต้องคลิกซ้ำบ่อยๆ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟังไปเรื่อยๆ แบบไม่ระบุหัวข้อ ในแต่ละช่วงเวลาจะมีการเปิดไฟล์ที่ไม่ซ้ำกัน และจะมีการเปลี่ยนแผ่นทุกวันอัตโนมัติ
เริ่มมีการถ่ายทอดสดสนทนาธรรมจาก มศพ. ด้วยการใช้ระบบของ YouTube Chanel แล้วนำสัญญาณภาพและเสียงเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ เมื่อถ่ายทอดสดจบแล้วจะมีการบันทึกเก็บไว้สำหรับดูย้อนหลังได้ทันที และยังมีการถ่ายทอดสดเฉพาะเสียงผ่านโปรแกรม Sam Broadcaster อีกด้วยให้เลือกรับฟังตามความต้องการ
ปี พ.ศ. 2557
เริ่มปรับโครงสร้างพื้นฐานของเว็บไซต์ให้เข้ากับหลักการ Model-View-Controller วิธีการนี้เป็นแนวทางการพัฒนาเว็บไซต์สมัยใหม่ที่นิยมใช้ เป็นไปเพื่อการพัฒนาเว็บไซต์ในระยะยาว ให้มีระบบที่เป็นมาตรฐาน ทันสมัย มีความปลอดภัยสูง สนับสนุนการทำงานเป็นทีม ไม่ผูกติดกับนักพัฒนา และพัฒนาต่อยอดได้ต่อเนื่อง
มีการปรับลดข้อมูลที่ไม่จำเป็นออกจากระบบเพื่อให้ง่ายในการสำรองข้อมูล มีการทำงานที่กระชับลดความซ้ำซ้อนของขั้นตอนต่างๆ ปรับแต่งได้ง่าย การเพิ่ม การแก้ไข การจัดเรียง การค้นหา และการลบข้อมูล ก็ทำได้สะดวกขึ้นเช่นเดียวกัน
การปรับปรุงนี้เสมือนกับเป็นการทำระบบเว็บไซต์ใหม่ ด้วยการทยอยปรับปรุงไปทีละส่วนเริ่มที่กระดานสนทนาซึ่งเป็นส่วนที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดก่อน เว็บไซต์จึงมีการทำงานแบบคู่ขนาน คือมีทั้งรูปแบบเก่าและใหม่อยู่ด้วยกัน เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับความเคยชินของผู้ชม
ปัจจุบัน
เว็บไซต์บ้านธัมมะใช้การพัฒนาด้วย Framework ซึ่งเป็นมาตรฐานสำหรับเว็บไซต์สมัยใหม่ มีโครงสร้างการพัฒนาที่ต่อยอดได้ในระยะยาว ทั้งในส่วนระบบจัดการข้อมูลเบื้องหลัง และการแสดงผลสำหรับผู้เข้าชม รองรับการจัดเก็บและเผยแพร่ข้อมูลจำนวนมาก เว็บไซต์มีระบบบริหารจัดการข้อมูลที่ใช้ง่าย มีระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่ดี ตลอดจนมีการปรับปรุงส่วนต่างๆ ให้ทันสมัยอยู่เสมอ
แนวโน้มของการใช้มือถือ-แท็บเล็ตเปิดชมเว็บไซต์มีสูงขึ้นเรื่อยๆ และคาดว่าจะสูงกว่าการใช้คอมพิวเตอร์ในอนาคต เว็บไซต์จึงพัฒนาให้มีคุณสมบัติ Responsive รองรับการเข้าชมจากหลายอุปกรณ์ในทุกขนาดหน้าจอ ทำงานร่วมกับ Search engine ได้ดี และมีการเชื่อมโยงกับเครือข่ายสังคมออนไลน์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลให้กว้างขวาง
เว็บไซต์เปิดรับข้อเสนอแนะต่างๆ จากผู้เข้าชม มีการนำเสนอที่เน้นที่ความถูกต้องของข้อมูล และความง่ายในการใช้งาน มีการพัฒนาเพิ่มเติมบริการต่างๆ อยู่เสมอ ตามความต้องการของผู้ใช้ ปัจจุบันเว็บไซต์บ้านธัมมะมีผู้เข้าชมมากกว่า 3,800 คนต่อวัน มีข้อมูลในเว็บไซต์ 35,000 รายการ มีผู้เข้าชมและดาวน์โหลดข้อมูลเหล่านี้ไปแล้วมากกว่า 34,000,000 ครั้ง
เว็บไซต์บ้านธัมมะมีการปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่องด้วยความร่วมมือของทีมงานที่มีจิตศรัทธาหลายท่าน โดยเฉพาะอาจารย์ฉัตรชัย กิติพรชัย และคุณโสภณ สิงห์แก้ว ที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจร่วมกันปรับปรุงและพัฒนามาตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน
ขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ผู้เป็นตัวอย่างในการอุทิศตนเพื่อศึกษาและเผยแพร่ความเห็นถูก และคณะกรรมการ มศพ. ที่ได้อนุญาตและให้ความอนุเคราะห์ในการจัดทำเว็บไซต์ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ของ มศพ. ที่ได้ให้ความช่วยเหลือตลอดมา เว็บไซต์บ้านธัมมะจะพัฒนาในทุกๆ ด้าน เพื่อทำหน้าที่เป็นสื่อหนึ่งที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้สนใจศึกษาพระธรรมตามแนวพระไตรปิฎกต่อไป
" พระธรรม ยิ่งเผยแพร่ ยิ่งรุ่งเรือง "
ทีมงานเว็บไซต์บ้านธัมมะ
www.dhammahome.com
สิงหาคม 2558
เป็น historical background ที่ดีมากๆ ค่ะ
ขอบพระคุณผู้จัดทำ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์สุจินต์ และทุกๆ ท่านในความกรุณาอนุเคราะห์ให้ได้เข้าถึงการศึกษาพระธรรมที่มีค่าสูงยิ่งค่ะ
ได้ประโยชน์มากๆ สามารถฟังธรรมะได้ตลอดเวลา
ขอบคุณและขออนุโมทนาครับ
ขอขอบคุณทีมงานผู้จัดทำ และปรับปรุง website ทุกท่านด้วยค่ะ ที่ช่วยให้คนพิการ (คนตาบอด อย่างดิฉันและเพื่อน) สามารถใช้งาน website ได้ง่ายขึ้นกว่าในปีก่อนๆ ค่ะ สามารถเปิดฟังธรรมะด้วยตัวเองได้แล้วค่ะ ไม่ต้องรบกวนใครให้เปิดให้
โมทนาในบุญที่ท่านทั้งหลายได้ทำ หากมีโอกาสจะเอาแรงไปช่วยเหลือมูลนิธิฯ ผมอยู่ในวงการไอทีมากว่า 30 ปี ยินดีให้ความช่วยเหลือได้บ้างครับ