สารธรรมจากโรงแรมสายลม หัวหิน ๘ กันยายน ๒๕๕๘
@ พุทธ ผู้รู้ ผู้ตื่นจากกิเลสทั้งหลาย ถ้าขณะนี้ไม่รู้สภาพธรรมเลย เหมือนหลับหรือเปล่า คะ และ อีกนัยหนึ่ง ถ้านอนหลับ ขณะที่ฝัน แล้วไม่ตื่นเลย จะรู้ไหมคะ ฉันใด ถ้าไม่รู้ไปเรื่อยๆ และไม่ได้ตื่นด้วยปัญญาขึ้นเลย จะรู้ไหมคะว่าหลับ เพราะฉะนั้น เมื่อไม่รู้ความจริงก็หลับมาเรื่อยๆ ไม่รู้เลยว่าหลับมาเรื่อยๆ ค่ะ
@ กำลังถูกปลุกด้วยพระธรรม แต่ยังไม่ตื่น ก็เหมือนฟังในฝัน ขณะนี้ฟัง ก็ค่อยๆ เข้าใจในขั้นการฟัง แต่ ยังไม่รู้ลักษณะของสภาพธรรม ค่ะ
@ ความปีติเบิกบานย่อมแตกต่างกันตามการสะสม ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีได้ยินคำว่า พุทโธ ปีติเบิกบาน ทั้งคืนคิดแต่จะเข้าไปเผ้า ดังนั้น ได้ยินคำที่เป็นสัจจะ ความจริง เบิกบานไหมคะ ที่ได้ยินคำว่า เป็นธรรมที่มีจริง แต่ละหนึ่งไม่ใช่เรา
@ เลือกไม่ได้เลยนะคะ ทำไมเกิดที่นี่ ทำไมมาที่นี่ ทำไมได้ฟังพระธรรม เพราะฉะนั้น ชาตินี้ เป็นชาติก่อนของชาติหน้า เพราะฉะนั้นถ้าไม่ได้ยินพระธรรมชาตินี้ ไม่เข้าใจธรรม ก็ไม่มีโอกาสจะได้สนใจ ฟังพระธรรมเลย แต่ ชาตินี้ ได้ฟัง ศึกษาพระธรรม ก็มีเหตุปัจจัยให้ชาติต่อไปสนใจ ศึกษาพระธรรม ค่ะ
@ อะไรที่จะละดับกิเลสได้ กุศลธรรม กุศลธรรมอะไร คะ คือ กุศลธรรมที่ประกอบด้วยปัญญา ที่เข้าใจถูกในสิ่งที่มีจริง นี่คือ หนทางการดับกิเลส ค่ะ
@ ฟังแล้วค่อยๆ เข้าใจว่า สวยก็เป็นธรรม ติดข้องก็เป็นธรรม ไม่ใช่ฟังแล้ว จะไปละกิเลสอะไรได้เลย เพียงแต่ ค่อยๆ เป็นความถูกต้องในขั้นการฟัง เพื่อไปสู่การรู้ความจริงของสภาพธรรมในขณะนี้ว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา ค่ะ
@ ทางสายกลาง ทางเดียว ทางแห่งปัญญาที่เริ่มจากความเข้าใจขั้นการฟัง ที่เป็นการรู้ความจริงในขณะนี้
@ ทางสายกลาง คือ ทางที่อาจหาญ ที่จะเข้าใจถูกในสภาพธรรมในขณะนี้ว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา
@ ถ้ามั่นคงนะคะ ทางสายกลาง คือ ทางแห่งปัญญาเท่านั้น ที่เข้าใจถูกในสภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้ ค่ะ
@ ทะเลสวยเป็นธรรมหรือเปล่า คะ เป็นสิ่งที่ปรากฏ เป็นธรรม ติดข้องเป็นธรรม เมื่อไหร่เข้าใจว่าเป็นธรรมเมื่อไหร่ เมื่อนั้นคุ้นเคยกับธรรม ค่ะ
@ คุ้นเคยในความเป็นธรรมก่อนนะคะ ไม่ใช่ไปคุ้นเคย หรือ จะไปละกิเลสอะไร
@ ความคุ้นเคยมีหลายระดับ คุ้นเคยในขั้นปริยัติ คือ ฟังเข้าใจในเรื่องชื่อ แต่คุ้นเคยกับชื่อ ไม่ได้คุ้นเคยกับตัวสภาพธรรม และ คุ้นเคยในขั้นการฟังในหนทางที่ถูก ก็จะรู้ว่าสิ่งที่ได้ฟัง อะไรเป็นธรรม อะไรไม่ใช่ธรรม
@ ขณะที่เข้าใจ ขณะนั้นเห็นพระคุณของพระพุทธเจ้า แต่ก็ยังไกลแสนไกล ฟ้า กับ ดิน ไกลกัน แต่ก็ฟังไป ฟังไป จนค่อยๆ เข้าใจความจริงทีละน้อย ก็สามารถดับกิเลสได้ในอนาคต ค่ะ
@ รับประทานอาหารติดข้องไหม แค่คิดนะคะ ว่าไม่ติดข้องเลย ดีไหมคะ นี่แค่คิดนะคะ ให้เห็นว่า ทุกข์ทั้งหมดมาจากติดข้อง แต่ตอนติดข้องไม่รู้ว่าไม่ดี แต่พอทุกข์เข้าใจว่าทุกข์ไม่ดี แท้ที่จริง ติดข้องไม่ดี พระอรหันต์เท่านั้นที่จะละความติดข้องได้หมด เพราะฉะนั้นต้องละเอียดนะคะว่า ไม่ใช่ตัวตนที่จะไปละความติดข้อง ต้องเป็นไปตามลำดับ ค่ะ แค่เห็น ก็ติดข้องแล้ว โดยไม่รู้เลย ทั้งวันติดข้อง มากแค่ไหน ฟังต่อไปเท่านั้น หนทางเดียว
@ ทะเลสวยเป็นธรรมหรือเปล่า คะ เป็นสิ่งที่ปรากฏ เป็นธรรม ติดข้องเป็นธรรม เมื่อไหร่เข้าใจว่าเป็นธรรมเมื่อไหร่ เมื่อนั้นคุ้นเคยกับธรรม
@ ยังไม่รู้สภาพธรรมในขณะนี้ ก็ไม่ต้องไปทำอะไร ฟังบ่อยๆ
@ ขณะนี้ได้ยินเสียงฝน เห็นถึงความเป็นอนัตตาไหม คะ ไม่ได้คิดเลยว่าจะได้ยินเสียงฝนเลย ไม่ให้ได้ยินเสียงฝนก็ได้ ได้ยินแล้วจะไม่ให้หมดไปก็ไม่ได้ อนัตตาทุกขณะ แต่ไม่ได้รู้ตามจริงอย่างนั้น
@ ถ้าอุปมาสังสารวัฏฏ์ที่ถูกกิเลสครอบงำ มากเท่าไหร่ นับประมาณไม่ได้ เพราะฉะนั้นจึงต้องอบรมปัญญา และอบรมบารมีนับชาติไม่ถ้วน
@ คนสมัยนี้ สะสมกิเลสมามาก ก็คิดว่าจะละกิเลสได้ เพียงเดิน นั่ง ขณะนั้นก็คือ หันหลังให้พระสัทธรรม
@ พระไตรปิฎก ไม่ได้มีสำหรับอ่าน แต่สำหรับให้เข้าใจ แม้แต่คำว่า ธรรม ก็คือ สภาพธรรมในขณะนี้
@ เวลาที่มีค่าที่สุด คือ การได้เข้าใจสิ่งที่มีจริง