เผยแพร่พระธรรมที่ศรีลังกา (7) จบสนทนาที่ BBC

 
sutta
วันที่  9 ต.ค. 2558
หมายเลข  27072
อ่าน  1,012

บ่าย 9 ตุลาคม 2558

จบสนทนาที่ Buddhist culture centre เคารพท่านอาจารย์ แต่ไม่เคารพธรรม

หลังจบสนทนาตอนเช้า ก็พูดเรื่องอานาปานสติ เรื่องภวังคจิต ก็ฟังสบายๆ เพราะ ไม่ได้ใส่สิ่งของเข้าไปในท้องเยอะเลยไม่ง่วง ฟังสบายๆ รู้นิดไม่รู้มากเป็นปกติ ครับ กลางวันไปทานที่ห้องอาหารชื่อ Global Tower ริมทะเล อาหารบุฟเฟต์ เยอะแยะมากมาย ละลานตา ทั้งๆ ที่สิ่งอื่นๆ เห็น สิ่งที่ปรากฎทางตาเหมือนกัน แต่ที่กล่าวว่าละลานตา เพราะ สัญญาจำในบัญญัติว่าเป็นอาหารประเภทนั้นประเภทนี้ ละลานตาด้วยโลภะ ด้วยคิดนึก ตามไปในสมมติไม่รู้เลยว่าเป็นธรรม แล้วไงต่อครับ ก็เป็นไปตามธรรม คือ จิตก็น้อมไป คิด คิดนึกไปในสิ่งที่เห็น กายก็ไหวไปตามจิตที่คิด อาศัยรูป คือ ธาตุ ลม เป็นต้น และ รูปอื่นๆ ประชุมรวมกัน ทำให้เคลื่อนไหว เดินไปหาสิ่งที่ชอบ อธิบายแบบวิชาการเกินไป ก็แค่รู้ตามทฤษฎี แต่ไม่รู้ว่าเป็นธรรม ตามเคยครับ ซึ่งขณะที่สหายธรรมทั้งหลาย มุ่งหน้าไป ตามจิต ทางห้องอาหารบอกว่า อีก สิบนาที รับประทานนะครับ สีหน้าเปลี่ยนกันทุกคน คุณโจนาธานบอกว่า เขาตรงเวลาดีนะครับ ต้องรอให้เที่ยงตรงก่อน ครับ รอก็รอ แต่ อาหารก็มาบางอย่างแล้ว หลายอย่าง ทำไมไม่ให้กินหละ ความอยากก็มีกำลัง คิดไปนั่น บ่นในใจ

อกุศลก็คงไม่ได้เกิดตลอด ตามเหตุปัจจัย นึกถึงตัวเองเวลาหิวจัด นึกถึงคนอื่นบ้างก็ดี เลยเข้าไปกราบเรียนท่านอาจารย์สุจินต์ ทานสลัดก่อนไหมครับ พร้อมแล้ว ท่านอาจารย์ ตกลงได้ค่ะ ก็เลย ถือจานให้ท่านอาจารย์ ถามท่านว่าจะเอาผักชนิดไหน ตักให้ท่าน ท่านก็บอกว่าอย่างละนิด แตงกวาด้วย ค่ะ พอแล้วค่ะ แค่นี้ก็พอแล้วอย่างละนิด ละหน่อย!!! ช่างต่างจากปริมาณของการทานของเราจริงๆ ไม่พอจริงๆ โลภะ โลภะถ้าเป็นสิ่งที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้ คงเก็บไม่หมด ครับ กุศลก็เกิดบูชาคุณท่านอาจารย์ตามโอกาส

นัดเวลากันเริ่มสนทนา 13.00 น. กลับไปสนทนาธรรมที่ Buddhist culture centre แต่ ... เพลินไปไหมครับ ลุกเข้าลุกออก วนกันไป ตักไปตักมา หลายๆ คน แถวๆ นั้น สุดท้ายก็มาเริ่มสนทนา 13.30 น.ก็อนัตตา ตามเหตุปัจจัยเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น เพราะคิดจะให้เป็นไปตามนั้น ก็ลืมว่าอนัตตา ไม่ใช่เรา มีแต่ธรรมเป็นไป

บทสรุปของการเดินไปเดินมา ตักไปตักมา ธรรมเริ่ม ไม่เกินสิบนาที กระผมเคารพท่านอาจารย์ เพราะสัปปะหงก แต่ไม่เคารพธรรม เพราะ ไม่ตั้งใจฟัง ทำไงได้ เกิดแล้วปกติ ปกติ คือ เกิดแล้ว เป็นธรรม แม้ความง่วงในขณะนั้น

ขณะภวังคจิตเกิดยาว หลับไปไม่รู้เรื่อง วิถีจิตเกิดทางหู สะดุ้งโหยง เสียงไร ดังกว่าเดิมของผู้ถาม อ้อ การสนทนาเข้มข้น มาแล้ว เรื่อง สมาธิ ท่านอาจารย์แนะนำด้วยเมตตา เกื้อกูล สหายธรรมชาวเวียดนามก็เกื้อกูล สนทนากับ คุณฟง ชาวเวียดนามที่ศึกษาที่ศรีลังกา เรื่องสมาธิ

คุณฟงก็ได้สนทนากับสหายธรรม สอบถามว่า พระพุทธเจ้าไม่ได้ทรงห้ามอะไร ถ้าจะไปป่า ไปปฏิบัติ ไปนั่งสมาธิ และปกติของเขาก็เป็นอย่างนั้น ซึ่งท่านอาจารย์ก็ถามด้วยประโยคหนึ่งที่น่าพิจารณาว่า แล้ว ความจริงคืออะไร และ รู้อะไร เพราะ ปกติทำอย่างน้้น แต่ทำด้วยความไม่รู้ ก็ไม่มีทางที่จะรู้ความจริงได้เลย

ท่านอาจารยแนะนำให้เริ่มจากการฟังให้เข้าใจ

ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ ปัญญาเป็นไปตามลำดับ ซึ่งหนทางที่ถูกคือการระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมในขณะนี้

คุณฟง สอบถามสนทนาว่า ปัจจุบันมีพระอรหันต์มากมาย ก็เอ่ยชื่อ ก็มีการสอบถามสนทนากันว่าแล้วรู้ได้อย่างไรว่าใครเป็นพระอรหันต์ คุณฟงก็กล่าวว่าก็เพราะคนแวดล้อม มีคนนับถือมากก็เป็นเครดิตอย่างหนึ่ง และคนแวดล้อมก็รู้ ท่านอาจารย์จึงกล่าว่า ถ้าเช่นนั้นคนแวดล้อมก็มีปัญญามากเป็นพระอรหันต์ด้วยเช่นกัน เพราะต้องมีปัญญาเท่ากันหรือมากกว่าจึงจะรู้ได้

อย่างไรก็ดี ท่านอาจารย์ก็ได้กล่าวกับกระผมและคุณป๋องว่า การที่เขาได้มีโอกาสได้ฟังแม้จะเพียงเล็กน้อยก็มีประโยชน์มากอย่างน้อยก็ได้คิด สุดท้ายก็แล้วแต่การสะสมและอนัตตา

วันนี้สนทนาธรรม วันสุดท้าย ณ Buddhist culture centre Colombo แต่ การสนทนาธรรมในการเดินทางทริปนี้ที่มีสาระดีๆ อันเป็นไปเพื่อการเกิดขึ้นของปัญญาและกุศลร่วมกัน ยังไม่จบ พรุ่งนี้คณะเราเดินทางไกลไป NUWAERIYA อันเป็นสถานที่ที่เป็นภูเขาล้อมรอบ อากาศเย็นและสวยงาม เหมาะกับการสนทนาอย่างยิ่ง ติดตามกันครับในตอนต่อไป ธรรมสวัสดี ลาด้วยภาพ ณ กาลครั้งหนึ่งที่ Buddhist culture centre Colombo ในการสนทนาธรรมรวมกันในสิ่งที่ประเสริฐ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่ 9 ต.ค. 2558

กราบเท้าท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลวิริยะ และ ขออนุโมทนาในกุศลศรัทธาของทุกท่านที่ร่วมสนทนาธรรมในครั้งนี้ ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
panasda
วันที่ 9 ต.ค. 2558

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
khampan.a
วันที่ 9 ต.ค. 2558

กราบอนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
สิริพรรณ
วันที่ 9 ต.ค. 2558

กราบบูชาพระคุณท่านอ.สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพอย่างสูง

ขอบพระคุณ ในการถ่ายทอดการสาระด้วยความตรงต่อสภาพธรรม ซึ่งเป็นเรื่องปกติทั่วไปในชีวิตประจำวัน การศึกษาพระธรรมต้องเป็นผู้ละเอียดจริงๆ

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
jirat wen
วันที่ 9 ต.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
thilda
วันที่ 9 ต.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
ประสาน
วันที่ 10 ต.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
j.jim
วันที่ 10 ต.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
อนุโมทนา
วันที่ 10 ต.ค. 2558

ขออนุโมทนา ที่ส่งข้อความธรรมอันเป็นชีวิตจริงประจำวันแต่ละขณะ ถึงแม้ตามหลักวิชาการทุกอย่างเป็นธรรม แต่..เรา..ยังเป็น..เรา

..ข้อความตรงที่อาจารย์สนทนากับคุณฟง เรื่อง ขณะนี้ไม่มีพระอรหันต์ ทำให้รู้สึกว่า ผู้ที่ได้ฟังธัมมะบรรยายจากท่านอาจารย์หรือได้อ่านหนังสือท่านก็ดี ถือว่าโชคดี โอกาสดี อยู่ในประเทศอันสมควร คบบัณฑิต ฯ อาจารย์เป็นบัณฑิต ยุค 2500 ไม่มีพระอรหันต์ ใครเรียกใครว่าเป็นอริยะ แสดงว่าผู้นั้นเป็นอริยะด้วย ผู้ที่ฟังอาจารย์รู้กันมานานแล้วแต่คุณฟงอยู่ศรีลังกาจึงยังไม่รู้ ขอกราบอนุโมทนาทุกๆ กุศลจิตด้วยความเคารพยิ่ง

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
napachant
วันที่ 10 ต.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
rrebs10576
วันที่ 11 ต.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
siraya
วันที่ 12 ต.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
orawan.c
วันที่ 12 ต.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
peem
วันที่ 14 ต.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
apiwit
วันที่ 1 พ.ย. 2558

กราบอนุโมทนาท่านอาจารย์สุจินต์ และ คณะวิทยากร ผู้เผยแพร่ธรรม และ ขออนุโมทนากับผู้ที่มีส่วนร่วมในการไปเจริญกุศลครั้งนี้

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
Jarunee.A
วันที่ 6 ส.ค. 2566

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ