ความหมายของปราศไป สั่งสมสันดาน และวัฏฏะ
ขอเรียนถามว่าปราศไป หมายถึง วิบากจิตและกิริยาจิต ส่วนสั่งสมสันดาน หมายถึง กุศลจิตและอกุศลจิตในชวนวิถี ใช่หรือไม่คะ วัฏฏะ หมายความว่าอย่างไร เช่น พระอรหันต์ไม่มีวัฏฏะแล้ว เพราะดับกิเลสได้หมดแล้วใช่หรือไม่คะ
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
-ปราศไปแล้ว มุ่งหมายถึงสภาพธรรมที่เป็นนามธรรม คือ จิต (และเจตสิกธรรมที่เกิดร่วมด้วย) เมื่อดับไปแล้ว ไม่เหลือแล้ว เป็นปัจจัยให้จิตขณะต่อไปเกิดสืบต่อ ดังนั้น ความปราศไปแล้ว มุ่งหมายถึงจิตทุกขณะ ไม่ได้หมายถึงเพียงวิบากจิตกับกิริยาจิตเท่านั้น ซึ่งจิตแต่ละขณะ เมื่อเกิดแล้วดับไป เป็นปัจจัยให้จิตขณะต่อไปเกิดสืบต่อ
-ตามความเป็นจริงแล้ว จิต เป็นสภาพธรรมที่สะสมสันดาน หมายถึง สะสมสิ่งที่ดี และ ไม่ดี ซึ่งสิ่งที่ดีและไม่ดี นั้น กล่าวหมายถึงขณะที่เป็นกุศลจิต กับ อกุศลจิต จึงจะสะสม เมื่อสิ่งที่ไม่ดีเกิดขึ้นก็สะสมสิ่งที่ไม่ดี เมื่อ กุศลจิตเกิดขึ้น ก็สะสมสิ่งที่ดี เป็นสภาพธรรมที่เมื่อเกิดแล้วดับไป ก็สะสมสืบต่อไปในจิตขณะต่อไป ดังนั้น การสะสมสันดาน นั้น มุ่งหมายถึงขณะที่เป็นกุศลจิตกับอกุศลจิต ถ้าเป็นขณะอื่นแล้วไม่ได้สะสมสันดาน ขณะที่เป็นวิบาก ขณะที่เป็นกิริยา ไม่ได้สะสมสันดาน
-วัฏฏะ หมายถึง ความวนเวียนไปด้วยอำนาจกรรม (กุศลกรรม อกุศลกรรม) กิเลส และ วิบาก กล่าวโดยประมวลแล้ว เป็นการเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏฏ์, พระอรหันต์ดับกิเลสหมดสิ้นแล้ว ไม่มีกรรมที่เป็นบุญ ที่เป็นบาป ไม่มีกิเลส เพราะดับได้หมดสิ้นแล้ว เมื่อดับขันธปรินิพพาน ก็ไม่มีการเกิดอีกในสังสารวัฏฏ์ จึงกล่าวได้ว่า พระอรหันต์ดับวัฏฏะได้แล้ว เพราะไม่มีการเกิดอีก และ ตราบใดที่ท่านยังไม่ปรินิพพาน ก็ยังมีสภาพธรรมที่เป็นจิต เจตสิก และรูป เกิดขึ้นเป็นไป แต่ไม่เป็นไปกับด้วยกิเลสใดๆ เลย จนกว่าจะถึงกาละที่ท่านปรินิพพาน ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...