ผมต้องปาราชิกมั้ยครับ
ผมบวชอยู่ครับ เมื่อวานผมหากาวมาติดรูปทำหนังสือสุทธิแต่ไม่มี พอดีมีคนเขามาทำงานที่วัด เขามีกาวแต่เจ้าของเขาไม่อยู่ ผมก็เลยถือวิสาสะแตะเอากาวมาติดรูปนิดนึง โดยที่ไม่ได้บอกเจ้าของ แบบนี้ต้องอาบัติมั้ยครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
การกระทำดังกล่าว ไม่เหมาะควรแก่เพศบรรพชิตอย่างแน่นอน แม้ว่าจะเป็นของที่มีราคาไม่มาก แต่ถ้าไม่เห็นโทษของอกุศลแม้เพียงเล็กน้อย ต่อไปข้างหน้าสะสมมีกำลังมากขึ้น ก็อาจจะทำให้มีการกระทำในสิ่งที่ผิดที่ร้ายแรงยิ่งขึ้นได้ ซึ่งจะประมาทกำลังของกิเลสไม่ได้เลย กรณีที่พระคุณเจ้ายกมา นั้น ไม่ถึงกับต้องอาบัติปาราชิก เพราะการที่จะถึงการต้องอาบัติปาราชิกเพราะการลักขโมยของผู้อื่น ต้องได้ราคา ๕ มาสกขึ้นไป (ราคา ๕ มาสก พิจารณาด้วยการเทียบน้ำหนักทองคำกับข้าวเปลือก ๒๐ เมล็ด คือเอาข้าวเปลือก ๒๐ เมล็ดมาชั่ง ได้น้ำหนักเท่าไหร่ น้ำหนักทองคำเท่านั้นตีเป็นเงินออกมา) การไปหยิบเอากาวของผู้อื่นมาทาที่แผ่นรูปภาพนำไปติดในใบสุทธิ มีราคาไม่ถึง ๕ มาสกอย่างแน่นอน จึงไม่ต้องอาบัติปาราชิก และที่สำคัญ จะเป็นการถือเอาโดยวิสาสะ (ความคุ้นเคยกัน) หรือไม่ ก็ต้องพิจารณาจากองค์ประกอบเหล่านี้ คือ เคยเห็นกันมา ๑ เคยคบกันมา ๑ เคยบอกอนุญาตกันไว้ ๑ ยังมีชีวิตอยู่ ๑ รู้ว่าเราถือเอาแล้ว เขาจักพอใจ ๑. ถ้าเป็นการถือเอาโดยวิสาสะ ก็ไม่มีอาบัติใดๆ เลย
เพศบรรพชิตเป็นเพศที่สูงยิ่ง จุดประสงค์ของการบวชจริงๆ เพื่อศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญาขัดเกลากิเลสของตนเองและน้อมประพฤติตามพระธรรมวินัย เว้นในสิ่งที่เป็นโทษตามที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงบัญญัติไว้ เพราะถ้าอาศัยความประมาทเพียงนิดเดียว ไปทำในสิ่งที่ผิด ต้องอาบัติ แม้จะเล็กน้อยเพียงใดก็ตาม แล้วไม่เห็นโทษ ไม่กระทำคืนให้ถูกต้องตามพระวินัย เช่น ปลงอาบัติเป็นต้น ก็จะเป็นผู้มีอาบัติติดตัว และถ้าหากมรณภาพไปในขณะที่ยังปฏิญาณตนว่าเป็นพระภิกษุอยู่ ก็เป็นผู้มีอบายภูมิเป็นที่ไปในเบื้องหน้า ไม่คุ้มอย่างแน่นอน เพราะอาบัติที่ต้องเข้าแล้วไม่กระทำคืน เป็นเครื่องกั้นการบรรลุมรรคผลนิพพาน และกั้นการไปเกิดในสุคติภูมิในชาติหน้าด้วย ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...