สนทนาธรรมกับชาวต่างชาติ วันที่ 28 ต.ต. 58

 
มศพ.
วันที่  29 ต.ค. 2558
หมายเลข  27159
อ่าน  1,067

-ฟังธรรมด้วยความไม่คาดหวังแต่เพื่อเข้าใจความจริงที่ทรงแสดงเท่านั้น -ความเข้าใจจะเกิดขึ้นนอกเหนือความคาดหวัง

-ตัวตนมักจะคาดหวัง อยากรู้นั้นรู้นี้

–ทำความดีและเข้าใจความจริงจากการฟังธรรมเป็นธรรมดาปกติ

-ทุกคนมีโลภะและโมหะมากมาย ไม่มีทางที่จะละได้ง่ายๆ

–ปัญญานำมาสู่ความดีทั้งหลายตามธรรมดา

-ทุกคำของพระพุทธองค์เป็นปัจจัยแห่งการเข้าใจความจริง

–ทุกคำของพระพุทธองค์มาจากการที่ทรงตรัสรู้

-มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งเมื่อเข้าใจพระธรรม

-ความเจ็บปวดเป็นเวทนา ไม่ใช่ของใคร

-ที่ว่าความเจ็บปวดเป็นเครื่องเตือนสติ จริงๆ แล้วสิ่งที่ปรากฏขณะนี้เป็นเครื่องเตือนสติได้เสมอหากมีปัญญา

-ที่กำลังเจ็บปวดอยู่แล้วพยายามพิจารณาให้เป็นธรรมะ เป็นการพิจารณาด้วยความเป็นเราหรือเปล่า?

-เมื่อมีความจงใจ เมื่อนั้นย่อมเป็นเรา

-จะจัดการกับความเจ็บปวด นั้นคือโลภะ

-ทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดด้วยโมหะย่อมไม่ดีไปกว่าโมหะที่มีอยู่แน่

-เรื่องราวต่างๆ ย่อมแตกต่างไปจากความจริงที่ปรากฏมาก

-การศึกษาพระธรรมอาจทำให้อุปนิสัยเปลี่ยนไปในทางที่ดี แต่อย่าลืมว่าพระธรรมมีความลึกซึ้งกว่านั้นมาก และเพื่อให้เข้าใจความจริง มากกว่าการเปลี่ยนอุปนิสัย

-เมื่อพูดถึงศีล ต้องเข้าใจให้ถ่องแท้ก่อนว่าศีลคืออะไร?

-ศีลนั้นมาจากจิตที่เป็นกุศลหรืออกุศลเมื่อเข้าใจได้เช่นนี้ย่อมไม่สับสนเมื่อพูดถึงศีล

-ศีลอาจมีได้ทั้งศีลที่ประกอบด้วยปัญญาและไม่ประกอบด้วยปัญญา

-ปาติโมกขสังวรศีล เป็นศีลของผู้เห็นภัยของการครองเรือน หากไม่อาจรักษาศีลนี้ได้ ย่อมไม่สมควรบวช

-ทั้งหมดทั้งปวงย่อมต้องกลับมาในขณะนี้ว่าเป็นกุศลศีลหรืออกุศลศีล

-เมื่อเข้าใจความเป็นอนัตตาได้มากขึ้น ย่อมเข้าใจพระธรรมแต่ละคำที่ทรงแสดงได้มากขึ้น ต่างไปจากการศึกษาด้วยความเป็นเรา

-หากไม่มีความเข้าใจขั้นปริยัติ ไม่มีทางถึงปฏิบัติด้วย

-เมื่อนึกถึงกรรม แต่ไม่มีพื้นฐานของความเป็นอนัตตา ย่อมไม่อาจเข้าใจเรื่องกรรมได้กระจ่างชัดแน่

-ถ้าไม่มีกรรม ย่อมไม่มีขณะนี้ที่เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส กระทบสัมผัส และคิดนึก

-ปัญญาเป็นปัจจัยแห่งสติ

-หากยังไม่เข้าใจความจริงขณะนี้ ไม่ต้องกล่าวถึงมรรค๘เลย

-ไม่มีใครทำอะไรใครเลย นอกจาก กรรมและวิบาก

-ทุกคำที่ทรงแสดงย่อมสอดคล้องกันทั้งหมด

-คำทุกคำของพระพุทธองค์เป็นปัจจัยแก่สติ

-เป็นเพื่อนกับคนไม่ดีได้ด้วยเมตตา แต่ไม่ทำตามในสิ่งที่ไม่ดีของคนนั้น

-มานะก็เป็นธรรมะไม่ใช่เรา

-อะไรตรงข้ามกับกิเลส? กุศลและปัญญา

ภาพ : ฟองจันทร์ วอลช

เนื้อหา : จักรกฤษณ์ เจนเจษฎา

สถานที่ แก่งกระจานคันทรีคลับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 29 ต.ค. 2558

กราบอนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
chatchai.k
วันที่ 29 ต.ค. 2558

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่ 29 ต.ค. 2558

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
thilda
วันที่ 29 ต.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ปาริชาตะ
วันที่ 29 ต.ค. 2558

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
pulit
วันที่ 29 ต.ค. 2558

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
สิริพรรณ
วันที่ 29 ต.ค. 2558

กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
h_peijen
วันที่ 29 ต.ค. 2558

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
j.jim
วันที่ 30 ต.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
apiwit
วันที่ 2 พ.ย. 2558

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
orawan.c
วันที่ 7 พ.ย. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
ํํญาณินทร์
วันที่ 26 ก.พ. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
Jarunee.A
วันที่ 7 ส.ค. 2566

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ