การบรรลุพระอรหันต์
ผู้ที่บรรลุพระอรหันต์นั้น รู้ตนเองได้อย่างไรว่าหลุดพ้นและบรรลุพระอรหันต์
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระอรหันต์ เป็นผู้ที่ห่างไกลจากกิเลสทั้งหลายทั้งปวง เป็นผู้ทำลายข้าศึก คือกิเลสได้หมดสิ้น เป็นผู้ไม่มีภพใหม่อีกต่อไป หลังจากที่ดับขันธปรินิพพานแล้ว ไม่มีการเกิดอีก จึงเป็นผู้ดับวัฏฏะได้อย่างเด็ดขาด การบรรลุถึงความเป็นพระอริยบุคคลขั้นต่างๆ เริ่มตั้งแต่พระโสดาบันบุคคล ถึง ความเป็นพระอรหันต์นั้น ต้องเป็นผู้ที่สะสมอบรมเจริญปัญญา สะสมการสดับตรับฟังพระธรรมจากพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ มาเป็นระยะเวลาที่ยาวนานและต้องเป็นผู้ดำเนินตามทางที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงไว้ คือ การอบรมเจริญอริยมรรค ถ้าไม่มีปัญญาแล้วก็ไม่สามารถบรรลุถึงความเป็นพระอริยบุคคลได้เลย
พระอริยบุคคล ย่อมไม่มีความสงสัยในคุณธรรมของตนเองที่ได้บรรลุแล้ว เพราะปัจจเวกขณญาณของท่านย่อมพิจารณาทั้งมรรค ผล กิเลสที่ละแล้ว กิเลสที่ยังเหลือท่านจึงไม่สงสัย สรุปคือ ลักษณะของการบรรลุธรรมย่อมมีอย่างนี้ คือ ละกิเลสได้ด้วยปัญญา ถ้าไม่ใช่ปัญญาจะกล่าวว่าเป็นการบรรลุธรรมไม่ได้
เมื่อมัคควิถีจิตดับไปแล้ว ภวังคจิตก็เกิดสืบต่อ และหลังจากนั้นมโนทวารวิถีจิตก็เกิดขึ้น พิจารณาสภาพธรรมที่เพิ่งประจักษ์แจ้ง ที่ละวาระ คือพิจารณามัคคจิต วาระ ๑ พิจารณาผลจิต วาระ ๑ พิจารณากิเลสที่ละได้แล้ววาระ ๑ พิจารณากิเลสที่ยังเหลือ วาระ ๑ พิจารณานิพพาน วาระ ๑
สำหรับผู้ที่บรรลุอรหัตตมรรคและอรหัตตผลนั้น ไม่มีการพิจารณากิเลสที่ยังเหลือ เพราะอรหัตตมัคคจิตดับกิเลสทุกประเภทหมดเป็นสมุจเฉท ไม่มีกิเลสใดๆ เหลือเลย
ดังนั้น เพราะปัญญาระดับสูง จึงรู้ถึงการที่ตนได้บรรลุเป็นพระอรหันต์แล้ว ครับ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ประโยชน์ คือ ความเข้าใจถูกว่า บุคคลผู้จะดับกิเลสได้อย่างหมดสิ้น ไม่มีเหลือ คือ พระอรหันต์ การดับกิเลส ดับได้ตามลำดับขั้น การเป็นพระอริยบุคคลทุกขั้น เป็นได้ด้วยปัญญาและต้องดำเนินตามหนทางที่เป็นไปเพื่อความบริสุทธิ์หมดจดแห่งสัตว์ทั้งหลาย คือ อริยมรรค มีองค์ ๘ ที่เริ่มด้วย ความเห็นที่ถูกต้อง เพราะถ้าไม่มีปัญญา ไม่ดำเนินตามหนทางที่ถูกต้องแล้ว ไม่สามารถเป็นพระอริยบุคคลได้เลย อย่าว่าแต่ถึงพระอรหันต์เลย พระโสดาบันก็ยังบรรลุไม่ได้เพราะไม่มีปัญญา และที่สำคัญจึงต้องมีปัญญาเข้าใจถูกเห็นถูก พร้อมทั้งเข้าใจด้วยว่าการเป็นพระอริยะเป็นได้ด้วยอะไร เพราะอะไรๆ ก็ไม่สามารถหลอกปัญญาได้ ปัญญาทำกิจของปัญญา เมื่อปัญญาในระดับขั้นที่เป็นโลกุตตระเกิด ก็ทำกิจดับกิเลส สูงสุดคือปัญญาที่เกิดพร้อมอรหัตตมรรค ดับกิเลสได้หมดสิ้น ซึ่งก็คือ ธรรมที่เกิดทำกิจของธรรม ไม่มีสัตว์บุคคลตัวตน ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
เรียน ความคิดเห็นที่ 6 ครับ
ปัญญา เป็นความเข้าใจถูกเห็นถูก เป็นสภาพธรรมที่ดีงาม สภาพธรรมที่ดีงามเท่านั้นที่จะดับกิเลสได้ เพราะอวิชชา ความไม่รู้ เป็นอกุศล อกุศลจะไปดับกิเลสไม่ได้ ตราบใดก็ตามที่ยังมีอวิชชา อกุศลธรรมทั้งหลายก็จะตามมาอีกมากมายเพราะความไม่รู้ แต่เมื่อปัญญาเกิด ปัญญาก็ทำกิจของปัญญา สะสมไป เมื่อปัญญาเจริญคมกล้าจนถึงในระดับที่เป็นโลกุตตระ ก็สามารถดับกิเลสได้ตามลำดับขั้น แต่กว่าจะไปถึงปัญญาขั้นที่เป็นโลกุตตระได้ ก็ต้องมาจากรากฐานที่สำคัญ คือ การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม ค่อยๆ สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกเป็นปกติในชีวิตประจำวัน และจะต้องอาศัยกาลเวลาที่ยาวนานในการสะสมความเข้าใจ ไม่ใช่แค่ชาติสองชาติ ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...