สิ่งที่ฝึกตามในเน็ต แต่ก็ยังไม่สามารถที่จะเข้าถึงที่สุดได้
คือผมลองทำตามวิธีในอินเตอร์เน็ตแต่ก็ยังไม่สามารถที่จะเข้าถึงที่สุดได้ ผมจะต้องทำยังไงครับ โปรดชี้แนะผมด้วยครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงตรัสรู้หนทางที่จะนำไปสู่การดับกิเลส หนทางที่จะไม่ต้องติดอยู่ในสังสารวัฏฏ์ คือหนทางแห่งมรรคเพื่อดับกิเลสเป็นสมุจเฉท (หมดสิ้น) ไม่เกิดอีก คือ พระนิพพาน
ปัจจุบัน พุทธศาสนิกชนส่วนใหญ่ได้รับประโยชน์จากพระพุทธศาสนา เพียงแค่ขั้นทาน ศีล สมาธิ เท่านั้น แต่ประโยชน์สูงสุดอยู่ที่ ปัญญา
ปัญญา คือ ความรู้ ความเข้าใจธรรมะ ที่ถูกต้องตามความเป็นจริง พุทธศาสนิกชนชื่อว่าเป็นสาวก ของ พระอหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า คำว่า สาวก หมายถึง ผู้ฟัง ในสมัยพุทธกาล พระภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกาที่ได้ฟังพระธรรมจากพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วรู้แจ้งธรรมตาม เพราะได้สะสมปัญญามาแล้วในอดีตชาติ เพราะฉะนั้นปัญญาย่อมมาจากการฟังพระธรรม การอ่าน การเขียน การสนทนาธรรม การบรรยายธรรม เรียกว่าขั้น ปริยัติ
พระพุทธศาสนา คือ คำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า มี ๓ ขั้น
๑. ขั้นปริยัติ ศึกษาพระธรรมวินัย
๒. ขั้นปฏิบัติ เจริญธรรมเพื่อบรรลุธรรมที่ดับกิเลส ดับทุกข์
๓. ขั้นปฏิเวธ รู้แจ้งธรรมที่ดับกิเลส ดับทุกข์
พุทธศาสนิกชนส่วนใหญ่ไม่ให้ความสำคัญ กับ ปริยัติ มากเพียงพอที่จะเข้าใจพระธรรมได้อย่างถูกต้อง คิดว่า รู้แล้ว เข้าใจแล้ว หรือ เชื่อตามๆ กันมา ปฏิบัติตามๆ กันมา โดยที่ไม่คิด พิจารณาตรวจสอบกับพระธรรมวินัย และเหตุผล ทำให้เข้าใจผิดพอเข้าใจผิด ก็ปฏิบัติผิด พอปฏิบัติผิด ก็ไม่มีทางที่จะรู้แจ้งธรรมได้ มรรคมีองค์ 8 (หนทางดับทุกข์) เริ่มต้นด้วย สัมมาทิฏฐิ คือ ความเห็นถูก คือถูกตั้งแต่ต้นคือ ปริยัติก่อน ฉะนั้นการศึกษาพระธรรมนั้นจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
ศึกษาพระธรรมจากไหน
พระไตรปิฎกคือพระธรรมคำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้จดจำสืบต่อกันมาโดย มุขปาฐะ คือการทรงจำ จากพระอรหันตสาวก ผู้กระทำสังคายนาพระธรรมวินัยเป็น ๓ ปิฎก การทรงจำได้กระทำสืบต่อกันมาตราบจนกระทั่งได้จารึกเป็นตัวอักษร
๑. พระวินัยปิฎก เกี่ยวกับระเบียบข้อประพฤติปฏิบัติของพระภิกษุ
๒. พระสุตตันตปิฎก เกี่ยวกับหลักธรรมที่ทรงเทศนาแก่บุคคลต่างๆ ณ สถานที่ต่างๆ
๓. พระอภิธรรมปิฎก เกี่ยวกับสภาพธรรมพร้อมทั้งเหตุและผลของธรรมทั้งปวง
ธรรมของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า แท้ๆ นั้น ต้องเป็นจริง ถูกต้องและพิสูจน์ได้ ตั้งแต่ขั้นต้นจนถึงที่สุด ธรรมะที่ทรงแสดงต้องเป็นจริง ไม่ขัดแย้งกัน และเป็นเหตุเป็นผลกันตลอด ฉะนั้น เมื่อเราได้ศึกษาพระไตรปิฎกแล้ว เราก็สามารถพิสูจน์ด้วยตัวเองว่าเป็นอย่างนั้นหรือไม่ ถ้าเราศึกษาเข้าใจพระธรรมแล้ว เราจะสามารถแยกแยะได้ว่าในปัจจุบัน สิ่งใดเป็นคำสอนที่ถูกต้อง และคำสอนใดไม่ตรงตามพระธรรมวินัยที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง
ดังนั้น จะฝึกจากเน็ท หรือ จะฟังพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง ซึ่งสอนให้เข้าใจถูกในขั้นการฟัง ไม่ใช่ไปปฏิบัติโดยไม่มีความรู้ความเข้าใจขั้นการฟังอย่างมั่นคง เพราะฉะนั้น ขอให้เริ่มจากการฟังให้เข้าใจ ไม่ใช่ไปปฏิบัติ โดยไม่ได้ศึกษาพระธรรมตามที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงในพระไตรปิฎกซึ่ง ท่านอาจารย์สุจินต์ ได้ อธิบายข้อความในพระไตรปิฎก ให้เข้าใจถูก ซึ่งหาฟังได้จากเวปนี้ ในหมวดต่างๆ ครับ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
การที่ปัญญาจะเจริญขึ้น มากขึ้นได้ ก็ต้องมาจากการฟัง การศึกษาไปตามลำดับ เข้าใจในสิ่งที่กำลังฟัง กำลังศึกษา ค่อยๆ สะสมไปทีละเล็กทีละน้อย ปัญญาเป็นพืชที่โตช้ามาก ต้องอาศัยศรัทธาเห็นประโยชน์ของความเข้าใจพระธรรม ไม่ขาดการฟังพระธรรม ไม่ใช่การไปทำอะไรด้วยความไม่รู้ หรือ ด้วยความต้องการ ครับ
..ขออนุโมทนาในกุศลจิตทุกๆ ท่านครับ...