ปัสสัทธิ มีอันเข้าไปสงบความกระวนกระวายกายและจิต..เป็นลักษณะ

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กายปัสสัทธิเจตสิก เป็นเจตสิกที่สงบ ไม่ฟุ้งซ่าน ทำให้เจตสิกที่เกิดร่วมด้วยสงบ ไม่ฟุ้งซ่านจิตตปัสสัทธิ เป็นเจตสิกที่ทำให้จิตที่เกิดร่วมด้วยสงบ

คำบรรยายโดยท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์

ขอความในพระอภิธัมมวิภาวินีฎีกา แสดงลักษณะของความสงบของจิตวา ภาวะ คือ ความสงบ เป็นตน ของจิตนั่นเอง จะมีไดเพราะโสภณสาธารณเจตสิก ๖ คู่ เป็นตน ถาขณะใดที่กายปัสสัทธิเจตสิก และจิตตปัสสัทธิเจตสิกไมเกิด ไมมีสภาพธรรมอื่นที่จะทําใหจิตสงบได

เพราะฉะนั้น พระผูมีพระภาคหาไดตรัสไวในสมาธิ เป็นตน ไม คือไม่ได้ทรงแสดงไววา สมาธิมีลักษณะที่สงบ แตทรงแสดงไววา ภาวะ คือ ความสงบ เป็นตน ของจิตนั่นเองจะมีไดเพราะจิตตปัสสัทธิ เป็นตน เพราะฉะนั้น บางคนคิดวาจะตองเป็นสมาธิแลวจึงสงบ ในขณะนั้นลืมพิจารณาวา ในขณะที่จิตไมซัดสายไปสูอารมณตางๆ และใชคําวาสงบ ในขณะที่เป็นอกุศลนั้นไมมีโสภณธรรมเจตสิกซึ่งทําใหจิตสงบ

ขออนุโมทนา

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ปัสสัทธิ หมายถึง ความสงบระงับจากอกุศล มุ่งหมายถึงความเป็นจริงของเจตสิก ๒ ประะเภท คือ กายปัสสัทธิ และ จิตตปัสสัทธิ ซึ่งเป็นเจตสิกที่ดีงามอีก ๑ คู่ที่เกิดร่วมกับจิตที่ดีงามทุกประเภท โดยที่กายปัสสัทธิ เป็นเจตสิกที่ทำให้เจตสิกที่เกิดร่วมด้วยสงบ และจิตตปัสสัทธิ เป็นเจตสิกที่ทำให้จิตที่เกิดร่วมด้วยสงบ ซึ่งแสดงถึงความเป็นจริงของสภาพธรรมที่ดีงามทั้ง ๒ ว่า เป็นธรรมที่ตรงกันข้ามกับสภาพธรรมที่เป็นอกุศลธรรม มีอุทธัจจะ ความฟุ้งซ่าน ไม่สงบ เป็นต้น อย่างสิ้นเชิง เป็นธรรมที่เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

ขออนุโมทนาค่ะ

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

ขออนุโมทนาครับ

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ