เด็กๆ ก็รู้ว่าโกรธดีใจ เสียใจ แต่นั่นไม่ใช่สติปัฏฐาน

 
ธรรมทัศนะ
วันที่  29 ม.ค. 2550
หมายเลข  2732
อ่าน  1,505

ที่ว่าควรมีสติทั่วพร้อมทุกอิริยาบถก็ถูกต้องครับ แต่ต้องเข้าใจว่า ใครคือผู้ที่มีสติรู้

ทั่วพร้อมทุกอิริยาบถ และประพฤติอย่างไรจึงเป็นผู้มีสติรู้ทั่วพร้อมทุกอิริยาบถ ส่วนว่าเมื่อโกรธก็ให้รู้ ดีใจก็ให้รู้ แบบนี้ก็มีแสดงในสติปัฏฐานจริง แต่ต้องเข้าใจว่ารู้ด้วยสติ-สัมปชัญญะ หรือว่ารู้ด้วยเรารู้ หรืออกุศลรู้ เพราะเด็กๆ ก็รู้ว่าโกรธ ดีใจ เสียใจก็รู้ แต่นั่นไม่ใช่การอบรมเจริญปัญญา ไม่ใช่สติปัฏฐาน เพราะไม่ใช่สติสัมปชัญญะรู้


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
medulla
วันที่ 29 ม.ค. 2550
ขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 29 ม.ค. 2550

ข้อความบางตอนจาก มหาสติปัฏฐานสูตร

พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค เล่ม ๒ ภาค ๒ - หน้าที่ 298

อิริยาบถบรรพ

พระผู้มีพระภาคเจ้า ครั้นทรงจำแนกกายานุปัสสนาโดยทางแห่ง

ลมอัสสาสะปัสสาสะอย่างนี้แล้ว บัดนี้ เพื่อจะทรงจำแนกโดยทางแห่งอิริยาบถ

จึงตรัสว่า ปุน จปร อีกอย่างหนึ่งดังนี้เป็นต้น. ในอิริยาบถนั้น พึงทราบความ

ว่า แม้สัตว์ดิรัจฉาน เช่น สุนัขบ้าน สุนัขจิ้งจอก เป็นต้น เมื่อเดินไปก็รู้ว่า

ตัวเดิน ก็จริงอยู่ แต่ในอิริยาบถนั้น มิได้ตรัสหมายเอาความรู้เช่นนั้น. เพราะ

ความรู้เช่นนั้น ละความเห็นว่าสัตว์ไม่ได้ เพิกถอนความเข้าใจว่าสัตว์ไม่ได้.

ไม่เป็นกัมมัฏฐาน หรือ สติปัฏฐานภาวนาเลย.

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
lichinda
วันที่ 4 ม.ค. 2551

พระพุทธองค์ทรงจำแนกไว้แล้วตั้งสองพันกว่าปียังมาดับความสงสัยผู้ประสงค์รู้ตามพระพุทธองค์ถึงทุกวันนี้

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
pornpaon
วันที่ 5 ม.ค. 2551

ขมวดคิ้วราวกับรู้ตัวว่ากำลังคิด ...แต่จริงๆ แล้วอาจจะไม่ได้รู้หรือพิจารณาอะไร

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
Komsan
วันที่ 5 ม.ค. 2551
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
chatchai.k
วันที่ 28 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ