ไม่มีเรา เป็นธรรม ก็ไม่รู้

 
nattawan
วันที่  16 ม.ค. 2559
หมายเลข  27377
อ่าน  1,152

บางส่วนจากการสนทนาธรรมที่ราวินโฮมรีสอร์ท ต.นาหินลาด อ.ปากพลี
จ.นครนายก ๑๒-๑๔ ม.ค. ๒๕๕๙

= สถานที่ใดให้ความเข้าใจธรรม สถานที่นั้นเป็นประเทศอันสมควร

= เมื่อไหร่ที่ไม่ได้ฟังธรรม ก็ลืมธรรมที่กำลังมี

= ธรรมคือสิ่งที่มีจริงแต่ละขณะ แต่ไม่รู้ ถ้าไม่ได้ฟังธรรม ไม่มีโอกาสรู้ความจริงของธรรมได้ ถ้าไม่ได้ฟัง "มีก็เหมือนไม่มี"

= ฟังไว้ เพื่อเข้าใจขึ้น จนกว่าจะเข้าใจสิ่งที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง

= ฟังเพื่อรู้ เพื่อจะได้พ้นจากความไม่รู้

= คำสอนของพระพุทธเจ้า เป็นคำของปัญญา เป็นคำจริง

= ไม่รู้เลยว่า โลภะเมื่อไหร่ จะละได้อย่างไร

= โลภะติดหมด เว้นแต่โลกุตตรธรรม

= ยิ่งฟังธรรม ยิ่งเข้าใจ ยิ่งเห็นความลึกซึ้ง

= ทางหลงมีมาก ต้องละสมุทัยตั้งแต่ต้น ตั้งแต่ขั้นการฟัง

= ฟังไปและเข้าใจขึ้น ไม่คำนึงถึงเวลา ปัญญาทำกิจของปัญญาเอง

= กว่าปัญญาจะเกิดแทนความไม่รู้ ต้องค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป เป็นปกติในชีวิตประจำวัน

= การไม่เข้าใจในธรรม ทำให้พระธรรมอันตรธาน

= ไม่มีเรา เป็นธรรมะ ก็ไม่รู้

= โลภะมีปัจจัยก็เกิด ปัญญามีปัจจัยก็เกิด อยากจะให้ปัญญาเกิด และห้ามไม่ให้โลภะเกิดก็ไม่ได้ แต่ปัญญาที่อบรมแล้ว จะเข้าใจด้วยปัญญาของตนเองว่าเป็นธรรม ไม่ใช่เรา จนกว่าโลภะจะหมด

= โลภะทำให้อยู่ในสังสารวัฏฏ์มานานแสนนาน และจะอยู่ต่อไปไม่สิ้นสุด ถ้าไม่มีความเข้าใจถูกต้องตามความเป็นจริงว่า ละได้ด้วยการฟังธรรมซ้ำบ่อยๆ ค่อยๆ เข้าใจขึ้น ค่อยๆ ละคลายตามลำดับขั้น

= เพราะไม่รู้จึงติดข้อง ยึดถือว่าเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด ซึ่งเที่ยง เป็นเรา เป็นสัตว์ เป็นบุคคล เพราะฉะนั้น การศึกษาธรรมเป็นเรื่องละตั้งแต่ต้น รู้ว่าสภาพธรรมที่ติดข้องมีจริง อะไรก็ละไม่ได้นอกจากปัญญา

= การฟังอย่างอื่นไม่มีค่าเท่ากับการฟังพระธรรมที่ทำให้เข้าใจความจริงว่า ไม่มีเรา เป็นเพียงธรรมแต่ละหนึ่ง

= ฟังธรรมมั่นคง มีความเข้าใจขึ้น จนกว่าอัตตสัญญาจะเป็นอนัตตสัญญา

= โลภะคือนายช่างเรือน อวิชชาเป็นยอดเรือน เมื่อละโลภะได้ ก็ละอวิชชาด้วย โลภะปรากฏ แต่ไม่รู้ เมื่อรู้ ก็ละความติดข้องได้ "ถ้าไม่รู้ ก็ละโลภะไม่ได้"

= ติดอะไรกับสิ่งที่หมดไป ไม่มีให้ติดก็ติด ฉลาดหรือเปล่า ดับแล้วไม่กลับมาอีก ยังชอบไหมกับสิ่งที่ไม่เหลือ ไม่มีที่จะให้เหมือนเดิม เพราะดับหมดไม่เหลือเลย

= อ.วิชัย : ถ้ารู้ตามความเป็นจริง ก็ละความพอใจ แต่ความทรงจำยังจำไว้ว่ามี

ท่านอ. : แต่ก็รู้ว่าจำไม่ใช่เรา

= เพราะไม่รู้ว่าดับ จึงเป็นเราอยู่เรื่อยๆ แต่ปัญญาสามารถรู้ได้ว่า ขณะนั้นเกิดแล้วดับ

= ความไม่รู้เป็นปัจจัยให้เกิดการฟังได้ เพราะไม่รู้จึงฟัง เพื่อจะได้เข้าใจ

= ไม่มีใครละอกุศลได้ นอกจากปัญญาที่เกิดจากความเห็นที่ถูกต้อง

= อีกชื่อของปัญญา คือ อโลภะ อโทสะ อโมหะ

= หลงอยู่ในสังสารวัฏฏ์มานานแสนนาน และจะหลงต่อไปอีกแสนนาน เพราะไม่รู้ จะออกไม่ได้เลย ถ้าไม่ได้ฟังพระธรรม จะไม่หลงได้เมื่อเข้าใจธรรม

= พระธรรมทำให้อาจหาญ ร่าเริงในความเข้าใจถูกว่าเป็นธรรม ไม่ใช่เรา

= เพราะไม่รู้ว่าธรรมเกิดดับ จึงคิดว่าเที่ยง หลงยึดถือติดข้อง พอใจในสิ่งที่ไม่มี

= ต้องเป็นผู้ที่ระวังกับดักของโลภะ อยากมีปัญญาไหม กับดักอยู่ไหน เพียงแค่ลืมตา โลภะก็มาแล้ว จะละโลภะได้อย่างไร ถ้าไม่รู้ความจริง

= ทุกขณะที่ยินดีพอใจ ก็อยู่ในห้วงของโอฆะ จมลงไปเรื่อยๆ จมลงไปในห้วงของความติดข้องซึ่งกว้างใหญ่ ยากจะข้ามไปอีกฝั่งที่ไม่มีกิเลสได้ นอกจากมีความเข้าใจถูกเห็นถูก

= หยดพระธรรมคำสอนลงในจิต ดีกว่าหยดเทียนลงน้ำในบาตร (น้ำมนต์)

= ความเห็นผิด นำไปสู่การปฏิบัติผิดทั้งหมด

= สวดมนต์ข้ามปีกับฟังธรรมตลอดเวลา อะไรดีกว่ากัน

= เพราะรักตัว จึงหาทุกสิ่งทุกอย่างให้ตัว รดน้ำมนต์แล้วทำชั่ว มีประโยชน์ไหม

= พระธรรมยาก ลึกซึ้ง กว่าจะเข้าใจแต่ละคำ เข้าใจจริงๆ หรือแค่เข้าใจคำ ต้องเริ่มต้นเห็นคุณที่จะเข้าใจพระธรรมแต่ละคำจริงๆ อย่างถ่องแท้ ไม่ประมาท ศึกษาด้วยความเคารพ มีเหตุผลและเป็นผู้ตรง ทรงบำเพ็ญพระบารมีสี่อสงไขยแสนกัปป์ เพื่อให้สัตว์โลกเข้าใจความจริงของสิ่งที่มีจริง ให้เกิดปัญญาความเห็นถูกของตนเอง ไม่ใช่ให้ท่องจำพระไตรปิฏก ปัญญารู้อะไร จะฟังคำจริงของพระพุทธเจ้า หรือฟังคำของใคร

อนุโมทนาในคุณความดีและกราบบูชาคุณท่านอ. สุจินต์ บริหารวนเขตต์

อนุโมทนาเจ้าภาพ คุณแก้วตา เอนกพุฒิ

อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
thilda
วันที่ 17 ม.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาอย่างยิ่งค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 17 ม.ค. 2559

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลวิริยะครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ปาริชาตะ
วันที่ 17 ม.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
mon-pat
วันที่ 18 ม.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ํํญาณินทร์
วันที่ 18 ม.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
peem
วันที่ 18 ม.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
Nitchare
วันที่ 20 ม.ค. 2559

กราบ อนุโมทนา ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
นิตยา
วันที่ 21 ม.ค. 2559

กราบอนุโมทนาสาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
j.jim
วันที่ 23 ม.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
เมตตา
วันที่ 13 มี.ค. 2559

ขออนุโมทนาในกุศลวิริยะด้วยค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
chatchai.k
วันที่ 18 พ.ย. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
nattawan
วันที่ 7 ส.ค. 2567

ยินดีในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ