ไปสนทนาธรรมที่สถาบันเทคโนโลยีไทย ญี่ปุ่น วันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๕๙
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
วันพุธที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๕๙ อาจารย์สุภัสสร จินดาไทย สมาชิกชมรมบ้านธัมมะ มศพ. เลขที่ ๗๙๗ ซึ่งเป็นอาจารย์สอนภาษาอังกฤษประจำที่สถาบันเทคโนโลยีไทย ญี่ปุ่น ซึ่งท่านได้ฟังพระธรรมที่มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนามาหลายปี (และในช่วงเวลาหนึ่งท่านเคยเป็นเจ้าหน้าที่มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา ด้วย) เป็นผู้ที่เห็นประโยชน์ของพระธรรม มีความประสงค์จะให้พระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แพร่หลายมายังสถาบันการศึกษาที่ท่านได้ทำการสอนอยู่ บ้าง ได้เรียนเชิญเจ้าหน้าที่วิทยากร มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา ๒ ท่าน คือ อาจารย์วิชัย เฟื่องฟูนวกิจ สมาชิกชมรมบ้านธัมมะ มศพ. เลขที่ ๑๔ และ กระผม คำปั่น อักษรวิลัย สมาชิกชมรมบ้านธัมมะ มศพ. เลขที่ ๑๗ มาร่วมสนทนาธรรมในครั้งนี้ เท่าที่จะเป็นไปได้ตามกำลังความรู้ความเข้าใจของตน ซึ่งเป็นเรื่องที่ใหม่มากสำหรับนักศึกษาที่นี่ แม้ว่าจะมีนักศึกษาเข้าร่วมฟังร่วมสนทนาไม่กี่คน แต่ ... แต่ละท่านก็มีความสนใจ ตั้งใจ และร่วมกันสอบถาม และ แสดงความคิดเห็นเมื่อได้ยินได้ฟังแลัว เนื้อหาสาระของการสนทนาธรรม ตลอดเวลา ๑ ชั่วโมง ๔๕ นาที ก็เป็นประโยชน์เกื้อกูลต่อความเจริญขึ้นของปัญญา จากการที่มีโอกาสได้ฟังคำจริง และเป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำให้มีความสนใจในการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมต่อไป
จึงขอโอกาสประมวลสารธรรมจากการสนทนาธรรม ในครั้งนี้ เป็นข้อความ สั้นๆ เพื่อผู้ศึกษาพระธรรมร่วมกันทุกท่าน ได้อ่านและพิจารณาร่วมกัน ดังนี้
~ ขณะที่ได้ฟังพระธรรม เป็นขณะที่หาได้ยากในสังสารวัฏฏ์ ถ้าเป็นขณะอื่น กล่าวคือ ขณะที่ได้สิ่งที่น่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจในชีวิตประจำวัน นั้น ไม่ใช่สิ่งที่หาได้ยาก
~ ผู้ที่ได้ฟังพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง มีเป็นส่วนน้อย ผู้ที่ไม่ได้ฟัง มีเป็นส่วนมาก นี้คือ ความเป็นจริง แม้ในสมัยพุทธกาลเอง พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ทรงแสดงว่า ผู้ที่ได้ฟังพระธรรม มีเป็นส่วนน้อย ผู้ที่ไม่ได้ฟังพระธรรม มีเป็นส่วนมาก
~ จะรู้พระคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้อย่างไร ถ้าไม่มีการฟังพระธรรมคำสอนของพระองค์ พระคุณของพระองค์ คือ พระบริสุทธิคุณ ความบริสุทธิ์หมดจดจากสิ่งที่ไม่ดีทั้งหมด ด้วยพระปัญญาที่ทรงตรัสรู้ความจริง แล้วทรงมีพระมหากรุณาต่อสัตว์โลกให้ได้เข้าใจถูกเห็นถูกในสิ่งที่มีจริงด้วยการทรงแสดงพระธรรม ประกาศความจริงเกื้อกูลสัตว์โลกให้มีความเข้าใจถูกเห็นถูก พ้นจากความไม่รู้และกิเลสทั้งหลาย
~ การฟังพระธรรม เป็นเหตุปัจจัยที่จะทำให้ความเข้าใจถูกเห็นถูกค่อยๆ เจริญขึ้น
~ สะสมมาที่จะได้ฟังพระธรรม ก็ได้ฟัง ใครๆ ก็ยับยั้งไม่ได้
~ ไปทำอย่างอื่น ด้วยความไม่รู้ ด้วยความเป็นตัวตน ด้วยความต้องการ ไม่มีทางที่จะทำให้เกิดปัญญาความเข้าใจถูกเห็นถูก ได้เลย
~ พระธรรม ไม่ใช่เรื่องง่าย เป็นเรื่องที่ละเอียดลึกซึ้ง บุคคลผู้ที่เป็นสาวกในครั้งพุทธกาล เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประทับอยู่ ณ ที่ใด ก็เข้าไปเฝ้าเพื่อฟังพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดง หรือ แม้เวลาที่พระองค์เสด็จไป ณ ที่ต่างๆ ก็ตามเสด็จ เพื่อฟังพระธรรม
~ จิต เป็นธรรม เจตสิกที่เกิดประกอบกับจิต เป็นธรรม รูป ซึ่งไม่ใช่สภาพรู้ ก็เป็นธรรม ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน
~ ชีวิตประจำวัน ไม่พ้นจากจิต เจตสิก และรูป เมื่อเข้าใจตามความเป็นจริงแล้ว ลึกลงที่ตัวจริงของสภาพธรรม จะมั่นคงในความเป็นจริงว่า ไม่มีเรา มีแต่ธรรมเท่านั้น
~ แม้จะมีความจริงในขณะนี้ แต่ผู้ไม่ได้ฟังพระธรรม ไม่สามารถจะเข้าใจถูกเห็น ถูกตามความเป็นจริงได้เลย
~ โทสะ กับ โลภะ เป็นสภาพธรรมที่แตกต่างกัน ไม่เกิดพร้อมกันด้วย
~ ความไม่รู้ ปิดบังไม่ให้เข้าใจสภาพธรรมในขณะนี้ตามความเป็นจริง
~ สิ่งใดที่เป็นประโยชน์ ก็ควรประพฤติสิ่งนั้น
~ ความติดข้อง เป็นอกุศล มีหลายระดับ ตั้งแต่ติดข้องเป็นปกติธรรมดา จนถึงมีกำลังกล้าจนถึงลักขโมยของของผู้อื่น เป็นต้น
~ คนที่โกรธบ่อยๆ โกรธง่าย มากไปด้วยความโกรธ เพราะสะสมความโกรธมา จึงเป็นผู้มีอุปนิสัยมักโกรธ
~ คิดดี ก็มี คิด ไม่ดี ก็มี ตามการสะสมของแต่ละบุคคล
~ บุคคลที่ไม่ได้ฟังพระธรรม ไม่มีทางจะเห็นคุณของพระธรรมได้เลย
~ วัตถุสิ่งของ ทรัพย์สมบัติทั้งหลายไม่ติดตามไปในภพหน้าได้ แม้แต่รูปร่างกาย ก็ตามไปไม่ได้ มีแต่สิ่งที่สะสมไว้ ทั้งดีและไม่ดีเท่านั้น ที่จะสมสืบต่อไป
~ ความเข้าใจถูกเห็นถูก จะทำให้ขัดเกลาความไม่รู้และความติดข้อง
~ ทำดี กับ ทำชั่ว ย่อมให้ผลที่ต่างกัน
~ ไม่ว่าจะเป็นยุคใดสมัยใด ความเป็นจริงของธรรม ไม่เคยเปลี่ยน เห็น เป็นเห็น ได้ยิน เป็น ได้ยิน
~ เกิดแล้วตาย ตายแล้วเกิด เพราะยังมีเหตุที่ทำให้มีการเกิด คือ กิเลส ทั้ง หลาย มีความไม่รู้และความติดข้อง เป็นต้น
~ มีเหตุปัจจัยให้เห็น ก็ได้เห็น มีเหตุปัจจัยให้ได้ยินก็ได้ยิน ใครๆ ก็ไม่สามารถบังคับบัญชาได้
~ เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ดับขันธปรินิพพานแล้ว ไปเกิด ณ ที่ใด? เมื่อดับกิเลสซึ่งเป็นเหตุที่จะทำให้มีการเกิดได้แล้ว ก็ไม่มีการเกิดอีกในสังสารวัฏฏ์ เหมือนไฟที่หมดเชื้อ ไม่มีทางที่จะมีไฟเกิดขึ้นได้อีก
~ พอได้ยินได้ฟังว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ปรินิพพานแล้ว ไปเกิดในสวรรค์ ชั้นนั้น ชั้นนี้ คิดอย่างไร? ในเมื่อไม่เป็นความจริง ก็ไม่เชื่อ ไม่คล้อยตามความเห็นนั้น เพราะเมื่อปรินิพพานแล้ว ไม่มีการเกิดอีก
~ ถ้าเป็นผู้เห็นประโยชน์ของพระธรรม ก็สะสมความเข้าใจถูกต่อไป ไม่ขาดการฟัง และการสนทนาธรรม ทั้งหมดเป็นเหตุปัจจัยที่จะทำให้ความเข้าใจถูกเห็นถูกเจริญขึ้น
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
กราบอนุโมทนาในความเกื้อกูลธรรมของอาจารย์วิชัย เฟื่องฟูนวกิจ
ตลอดจนถึงทีมงานอาสาสมัครบันทึกวีดีโอการสนทนาธรรมทุกๆ ท่าน
ขออนุโมทนาในกุศลศรัทธาของ อาจารย์สุภัสสร จินดาไทย
และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่าน ครับ
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของผู้จัด วิทยากร ทีมงาน และผู้ร่วมสนทนาธรรมครับ
ขอขอบพระคุณอาจารย์วิชัย และ อาจารย์คำปั่น มากๆ ครับ ที่เผยแพร่ พระธรรมของ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ให้อ่านเข้าใจง่าย
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบเท้าบูชาคุณท่านอ.สุจินต์ บริหารวนเขตต์
อนุโมทนาในกุศลจิตของท่านอ.วิชัย และอ.คำปั่น ที่เสียสละเวลาไปสนทนาธรรมและเผยแพร่พระธรรมคำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าให้ผู้สนใจฟังพระธรรมครับ
ผู้ฟังจะมากหรือน้อย สำคัญที่ความเข้าใจน้อ อ. เข้าใจเพิ่มมาแม้หนึ่งคนก็คือเพิ่ม และเป็นปัจจัยที่จะให้บุคคลนั้นเห็นประโยชน์และคุณค่าของพระรัตนตรัย
ขออนุโมทนา
~ คิดดี ก็มี คิด ไม่ดี ก็มี ตามการสะสมของแต่ละบุคคล
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
แม้เพียงท่านเดียวที่ถึงเวลาที่จะเห็นธรรมเข้าใจความจริง พระพุทธองค์ก็ไปโปรด ทั้งที่ต้องเดินทางไกลแสนไกล
กราบอนุโมทนา ในกุศลจิต ท่านวิทยากร และผู้เกั่ยวข้องทุกท่านค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบเท้าบูชาคุณอย่างสูงยิ่งต่อท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของอาจารย์คำปั่น และอาจารย์วิชัยที่สละ
เวลาไปแสดงธรรม และสนทนาธรรมให้อาจารย์ เจ้าหน้าที่ และนักศึกษาที่สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่นได้มีโอกาสได้ฟังธรรมะที่หาได้ยากยิ่งในสังสารวัฏฏ์ เพื่อสะสมอบรมความเข้าใจในพระธรรมคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าต่อไป
นอกจากนั้นขออนุโมทนาในกุศลจิตของเจ้าหน้าที่ และทีมงานบันทึกเทปของมูลนิธิฯที่สละเวลามาร่วมเจริญกุศลในครั้งนี้ค่ะ