พระภิกษุเล่นน้ำ ... เพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนา

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น



บุคคลผู้ที่สละอาคารบ้านเรือน สละทรัพย์สมบัติ สละวงศาคณาญาติมุ่งสู่เพศที่สูงยิ่ง อันเป็นเพศที่ขัดเกลากิเลสอย่างยิ่ง แสดงว่าจะต้องเป็นผู้มีความจริงใจ ที่จะขัดเกลากิเลสในเพศที่ยิ่งกว่าคฤหัสถ์ แต่ถ้าไม่เห็นประโยชน์ของพระธรรม ไม่ศึกษาพระธรรมวินัยให้เข้าใจ ไม่น้อมประพฤติตามสิกขาบท ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้ เที่ยวย่ำยีสิกขาบท ด้วยความไม่ละอาย ด้วยความไม่เกรงกลัว ย่อมเป็นโทษแก่ผู้นั้น ไม่นำมาซึ่งความเลื่อมใส เป็นที่น่าติเตียน และที่สำคัญ เป็นผู้ไม่มีความเคารพยำเกรงต่อพระรัตนตรัย เป็นผู้ลืมสัจจะ ว่า ความเป็นบรรพชิต จะต้องรักษาอย่างดี จะต้องน้อมประพฤติตามพระธรรมวินัยขัดเกลากิเลสของตนเองเป็นสำคัญ ซึ่งถ้ารักษาไม่ดี ประพฤติย่อหย่อน ก้าวล่วงสิกขาบทต่างๆ แม้จะเล็กน้อย โดยไม่ได้แก้ไขให้เป็นไปตามพระวินัย ก็เป็นเครื่องกั้นการไปสู่สวรรค์ กั้นการบรรลุมรรคผลนิพพาน ถ้ามรณภาพลง (ตายลง) ในขณะที่เป็นผู้มีอาบัติอยู่ ในชาติถัดไปก็เป็นผู้มีอบายภูมิ เป็นที่ไปในเบื้องหน้าเท่านั้น

ผู้ที่เป็นพุทธบริษัท ที่เข้าใจความจริง เมื่อพบเห็นการกระทำที่ไม่ดีของผู้ที่ปฏิญาณตนว่าเป็นพระภิกษุ แต่ไม่ได้น้อมประพฤติตามพระธรรมวินัย ก็เพ่งโทษ เพราะรู้ความจริงว่า การกระทำอย่างนั้นๆ ผิด ไม่ใช่สิ่งที่บรรพชิตควรทำ อย่างในกรณีพระภิกษุเล่นน้ำ เป็นสิ่งที่ผิด ไม่เหมาะควรแก่เพศบรรพชิต ไม่งาม โดยประการทั้งปวง เป็นโทษแก่ผู้ที่ก้าวล่วง

ติเตียน กล่าวให้ได้สำนึก ว่า เป็นพระภิกษุในพระธรรมวินัย แล้วกระทำอย่างนี้ได้อย่างไร เพราะการกระทำอย่างนั้นๆ ไม่ใช่การกระทำที่ถูกต้อง ไม่ได้เป็นไปเพื่อความเจริญขึ้นของกุศลธรรม มีแต่ทำให้อกุศลเกิดพอกพูนมากยิ่งขึ้น

โพนทะนา กระจายข่าวให้ได้รู้ ในทุกที่ ทุกสถาน ว่า การกระทำอย่างนั้น ไม่ถูกต้อง ผิดพระวินัย เพื่อจะเข้าใจเข้าใจอย่างถูกต้องโดยทั่วกัน เกื้อกูลให้ผู้อื่นได้เข้าใจอย่างถูกต้อง เป็นการช่วยกันรักษาพระธรรมวินัยด้วยความเข้าใจถูกเห็นถูก ความผิดไม่มีอย่างแน่นอนกับการกล่าวให้ได้เข้าใจถูกเห็นถูกตามพระธรรมวินัย ครับ

ขอเชิญคลิกศึกษาพระวันัยในสิกขาบทนี้ได้ที่นี่ครับ

พระภิกษุเล่นน้ำ เป็นอาบัติปาจิตตีย์

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...