พละ 5 กับ นิวรณ์ 5

 
jivabkk
วันที่  2 ก.พ. 2559
หมายเลข  27420
อ่าน  5,110

ขอสอบถามค่ะ พละ ๕ กับ นิวรณ์ ๕ มีความเกี่ยวข้องกันอย่างไรเหรอคะ พอดีดิฉันเข้าไปอ่านในเวบ wikipedia ไม่รู้ท่านใดเขียนไว้ แต่อ่านแล้วไม่เข้าใจ จึงขอรบกวนสอบถามอาจารย์ทางบ้านธัมมะอธิบายให้เข้าใจทีน่ะค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 2 ก.พ. 2559

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พละ 5 สัทธาพละ มีความไม่หวั่นไหว ในความไม่มีศรัทธา วิริยะพละ มีความไม่หวั่นไหว ในความไม่เกียจคร้าน สติพละ มีความไม่หวั่นไหว ในความไม่ประมาท สมาธิพละ มีความไม่หวั่นไหวไป เพราะความฟุ้งซ่าน ปัญญาพละ มีความไม่หวั่นไหวไป ในความไม่รู้

นิวรณ์ หมายถึง สภาพธรรมที่เป็นอกุศลธรรมที่กางกั้นไม่ให้กุศลจิตเกิดขึ้น มี ๕ ประการ คือ กามฉันทนิวรณ์ (ความติดข้องยินดีพอใจในรูป เสียง กลิ่น รส และสิ่งที่กระทบสัมผัสกาย) ๑ พยาบาทนิวรณ์ (ความโกรธ ความขุ่นเคืองใจ พยาบาทปองร้ายผู้อื่น) ๑ ถีนมิทธนิวรณ์ (ความง่วงเหงาหาวนอน ท้อแท้ท้อถอยเซื่องซึม) ๑ อุทธัจจกุกกุจจนิวรณ์ (ความฟุ้งซ่านรำคาญใจ) ๑ วิจิกิจฉานิวรณ์ (ความลังเลสงสัยในสภาพธรรม) ๑ ขณะที่จิตเป็นอกุศลนั้น เป็นนิวรณ์ เพราะเป็นสภาพธรรมที่กางกั้นไม่ให้จิตเป็นกุศล เพราะขณะใดที่จิตเป็นอกุศล กุศลจิต ก็เกิดขึ้นไม่ได้ ในชีวิตประจำวันสำหรับที่ผู้ที่ยังมีกิเลสอยู่ ก็ยากที่พ้นไปจากการถูกกลุ้มรุมด้วยนิวรณ์ประการต่างๆ แต่ก็ยังพอมีขณะที่สงบระงับนิวรณ์ได้บ้าง ก็ในขณะที่จิตเป็นกุศลนั้นเอง จนกว่าจะดับนิวรณ์แต่ละอย่างแต่ละประการด้วยอริยมรรค ตามลำดับขั้น

ที่สำคัญ คือ พละ ๕ เป็นเรื่องของการเจริญอบรมปัญญา เพราะฉะนั้น ไม่มีคำว่ามากเกินไป น้อยเกินไป แต่ถ้าเข้าใจในหนทางที่ผิด ขณะเป็นอกุศล ก็เป็นนิวรณ์ ในขณะนั้นครับ และ ไม่เป็นพละในขณะด้วยครับ

ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่ขาดไม่ได้ คือ การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญา อันเป็นรากฐานสำคัญจะนำไปสู่การระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง ว่า เป็นธรรม ไม่ใช่เรา จนกว่าจะถึงการรู้แจ้งอริยสัจจธรรม สามารถดับกิเลสได้ตามลำดับขั้น ทั้งหมดนั้น ต้องเริ่มจากการฟังพระธรรมในแนวทางที่ถูกต้องตรงตามพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงแล้วเท่านั้น จะขาดการฟังพระธรรมไม่ได้เลยทีเดียว นิวรณ์เป็นอกุศลธรรมที่จะถูกดับด้วยมรรคจิต อันเป็นผลของการอบรมเจริญวิปัสสนาภาวนา เพราะเพียงสมถภาวนา ไม่สามารถดับนิวรณ์ได้ เพียงแค่ระงับด้วยการข่มไว้ด้วยกำลังแห่งฌานเท่านั้น พระธรรมเป็นเรื่องที่ละเอียดลึกซึ้งมาก ต้องเริ่มที่การฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงให้เ้ข้าใจจริงๆ ครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 3 ก.พ. 2559

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

นิวรณ์ ๕ เป็น อกุศลธรรม ทุกขณะที่อกุศลเกิดขึ้นเป็นนิวรณ์แล้ว เพราะกางกั้นไม่ให้ความดีเกิดขึ้นเป็นไป ไม่ว่าจะด้วยความติดข้องยินดีพอใจ ด้วยความขุ่นเคืองใจ เป็นต้น ไม่พ้นไปจากชีวิตประจำวันเลย ขณะที่อกุศลเกิดขึ้นก็สะสมพอกพูนอกุศลยิ่งขึ้นไปอีก ทุกขณะที่อกุศลเกิดขึ้นนั้น จะไม่ปราศจากความฟุ้งซ่านความไม่สงบแห่งจิตเลย ไม่ปราศจากโมหะ ความไม่รู้ด้วย ทั้งหมดล้วนเป็นธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย แต่เป็นธรรมฝ่ายที่ไม่ดีเป็นอกุศลธรรมที่จะต้องค่อยๆ ขัดเกลาละคลายด้วยความเข้าใจธรรมอย่างแท้จริงเพราะผู้ที่จะดับนิวรณ์ได้หมดสิ้น ก็ต้องถึงความเป็นพระอรหันต์เลยทีเดียว

ส่วนพละ ๕ เป็นธรรมที่เป็นไปเพื่อการตรัสรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง เป็นเรื่องของการอบรมเจริญปัญญา ที่จะเป็นไปเพื่อดับอกุศล ดับนิวรณ์ได้ในที่สุด ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ํํญาณินทร์
วันที่ 3 ก.พ. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ประสาน
วันที่ 9 ก.พ. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
nong
วันที่ 10 ก.พ. 2559

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
Boonyavee
วันที่ 10 ก.พ. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
peem
วันที่ 11 ก.พ. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
สิริพรรณ
วันที่ 27 ก.ค. 2560

กราบอนุโมทนาขอบพระคุณในกุศลจิตค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
chatchai.k
วันที่ 22 ธ.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ