กรรม และ ผลของกรรม
การสนทนาธรรมเมื่อสักครู่ที่มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา ก็มีท่านผู้ฟังท่านหนึ่งได้เรียนถามไปว่า เราจะพอทราบได้หรือไม่ว่ากรรมใดจะให้ผลเมื่อใด ซึ่งท่านอาจารย์ตอบว่า เป็นเรื่องอจินไตย คือ พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้นที่จะรู้ได้ แต่กระผมก็ยังสงสัยว่ากรณีของผู้ที่เป็นพระอรหันต์สาวกจะพอมีญาณหยั่งรู้ในเรื่องกรรมและผลของกรรมได้บ้างหรือไม่ หรือจะต้องเป็นเพียงแต่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น
กรรม และ ผลของกรรม มีความละเอียดลึกซึ้ง ซึ่งพระพุทธเจ้าเท่านั้นที่จะรู้ถึงความละเอียดลึกซึ้งได้จริงๆ ส่วนพระสาวกผู้เป็นพระอรหัต์ หรือ พระอริยสาวกก็สามารถเข้าใจ รู้เรื่องของกรรมเ็นบางส่วน แต่ ถ้าเหลือวิสัยของท่านก็จะกราบทูลถาม ไม่คิดเองครับ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม ในชีวิตประจำวันย่อมเป็นไปเพื่อความเจริญขึ้นแห่งปัญญา ความเข้าใจถูกเห็นถูกในสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง แม้ในเรื่องกรรมและผลของกรรม ก็เช่นเดียวกัน ไม่พ้นไปจากธรรมเลย ไม่พ้นจากชีวิตประจำวันด้วย ผู้ที่ได้ศึกษาพระธรรมคำสอนในทางพระพุทธศาสนา ย่อมจะเป็นผู้มีความเข้าใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับบุคคลแต่ละคน หรือแม้กระทั่งเกิดกับตัวเอง ไม่ว่าดีหรือร้าย น่าปรารถนาหรือไม่น่าปรารถนาก็ตาม ล้วนแล้วแต่เป็นเพราะกรรมที่เคยได้กระทำมาแล้วทั้งสิ้น ไม่มีใครทำให้เลย ซึ่งจะเห็นได้ว่า ถ้าไม่มีเหตุคือกรรมที่ได้กระทำมาแล้ว ผลที่จะเกิดย่อมมีไม่ได้ แต่เพราะมีเหตุคือกรรมที่ได้กระทำแล้ว เมื่อได้โอกาสที่กรรมจะให้ผล ผลจึงเกิดขึ้น
พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง เป็นเครื่องเตือนที่ดี เตือนทุกแง่มุมของชีวิต จึงควรอย่างยิ่งที่ทุกคนจะได้พิจารณาว่า ชีวิตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอนแต่ความตายเป็นสิ่งแน่นอนสำหรับทุกคน ควรที่จะเห็นโทษของอกุศล ที่เป็นเหตุให้กระทำอกุศลกรรมแล้วจะเป็นเหตุให้ได้รับผลที่ไม่ดีข้างหน้า โดยไม่เพียงแค่กลัวผลของอกุศลกรรมเท่านั้น ต้องกลัวที่เหตุคืออกุศลกรรมด้วย ดังนั้นเมื่อจะสะสมกรรมที่จะทำให้เกิดผลในภายหน้า ก็พึงกระทำเฉพาะกรรมอันงาม คือ กุศลกรรมเท่านั้น ส่วนสิ่งที่ไม่ดี คือ อกุศลทั้งหลาย ซึ่งไม่เป็นประโยชน์ทั้งแก่ตนและแก่บุคคลอื่น ไม่ควรที่จะสะสมให้มีมากขึ้น เพราะเหตุว่า อกุศลกรรม เป็นที่พึ่งไม่ได้ แต่สิ่งที่จะเป็นที่พึ่งของสัตว์ทั้งหลายทั้งในโลกนี้และในโลกหน้านั้น ก็คือ กุศลความดีทั้งหลาย เท่านั้นโดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ ปัญญา ซึ่งเป็นความเข้าใจถูกเห็นถูก ในลักษณะของสภาพธรรมตามความเป็นจริง นั่นเอง ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...