ถั่วเขียว ถั่วงอก
มีกลุ่มธรรมะในเฟซบุ๊คกลุ่มหนึ่ง
มีคนนึงถามว่า ทำไมปลูกถั่วเขียว จึงได้ถั่วงอกครับอาจารย์
ผมจึงตอบไปว่า จริงๆ แล้ว ถั่วเขียว ก็ไม่มี ถั่วงอกก็ไม่มี มีแต่รูปที่ปรากฏทางตา ปรากฏเป็นสีสันวรรณะ แล้วความจำได้หมายรู้ในเสียงและภาษา ที่เกิดจากการปรุงแต่งทางใจ ก็จำได้หมายรู้ไว้ว่า เป็นถั่วเขียวหรือถั่วงอกตามการเห็น เป็นจักขุวิญญาณ เห็น เป็นโสตะวิญญาณ ได้ยิน เป็นมโนวิญญาณ จำได้หมายรู้ในสิ่งที่เห็น เป็นกลิ่น เป็นรส ก็ได้ ถ้าเอามาดมหรือกิน แล้วปรากฏเป็นอ่อนหรือแข็ง เป็นธาตุดิน ตอนที่เอามือไปจับ ;) แล้วคนที่ถามก็ตอบว่า ขอบคุณมากครับ กระจ่างแล้ว :)
ผมตอบถูกมั๊ยครับ :)จากคำถามที่ผู้ถามได้กล่าวเรื่อง ปลูกถั่วเขียว ทำไมได้ถั่วงอก ผู้ถามกำลังแสดงในเรื่อง ที่ทำสิ่งหนึ่ง ทำไมได้อีกสิ่งหนึ่ง เหมือนไม่ตรงตามเหตุ แต่แท้ที่จริงแล้ว คำอุปมาบางอย่างก็ไม่สามารถไปเปลี่ยนเรื่อง กระทำเหตุใด ย่อมได้เหตุนั้น อย่างเช่น หว่านพืชเช่นไร ย่อมได้ผลเช่นนั้น ที่แสดงเรื่องกรรมและผลของกรรม ส่วนคำกล่าวที่ผู้ถามได้สนทนาตอบไป เป็นการแสดงถึง ความจริงของสภาพธรรมที่ไม่มีอะไร มีแต่ธรรมแต่ละอย่างก็เป็นการอธิบาย ตามนัยสัจจะ ปรมัตถสัจจะครับ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ควรอย่างยิ่งที่จะได้ฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุกคำเป็นไปเพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกในสิ่งที่มีจริงตามความเป็นจริงโดยตลอด ทุกขณะไม่พ้นจากธรรม ค่อยๆ ฟังค่อยๆ ศึกษาก็จะค่อยๆ มีความเข้าใจถูกเห็นถูกไปทีละเล็กทีละน้อย ไม่ว่าจะได้เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส รู้สิ่งที่กระทบสัมผัส คิดนึก กุศล อกุศล ล้วนเป็นธรรมทั้งหมด ถ้าไม่ได้ฟังพระธรรมไม่มีทางที่จะเข้าใจถูกเห็นถูกตามความเป็นจริงได้เลย เมื่อเหตุสมควรแก่ผล อาศัยการฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมฟังในสิ่งที่มีจริงบ่อยๆ เนืองๆ ก็สามารถเข้าใจตรงตามความเป็นจริงของสภาพธรรมนั้นๆ ได้อย่างถูกต้องไม่คลาดเคลื่อน ตรงตามพระธรรมที่ได้ยินได้ฟังทุกประการ ว่าเป็นธรรม ไม่ใช่เรา ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...