อุเบกขาสันตีรณอกุศลวิบากจิต
เรียน อาจารย์ทั้งสองท่าน
"อุเบกขาสันตีรณอกุศลวิบากจิต" ทำให้ปฏิสนธิในอบายภูมิ ทำไมพระโสดาบันไม่มีจิตนี้หรือครับ ถึงได้ไม่เกิดในอบายภูมิอีกต่อไป ขอความกรุณาอาจารย์ช่วยกรุณาให้คำอธิบายด้วยครับ
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทเจ้าพระองค์นั้น
ปฏิสนธิจิต นั้น เป็นการกล่าวถึงจิตที่กระทำกิจนี้ ซึ่งมีทั้งหมด ๑๙ ดวง ไม่ได้มีมากกว่านี้ และไม่ได้มีต่ำกว่านี้ ตามความเป็นจริงของสภาพธรรมซึ่งใครๆ ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้และทรงแสดงความจริงนี้ อุเบกขาสันตีรณอกุศลวิบาก ๑ ดวง ทำกิจปฏิสนธิในอบายภูมิ และอุเบกขาสันตีรณกุศลวิบาก ๑ ดวง ทำกิจปฏิสนธิในกามสุคติภูมิ ที่เป็นมนุษย์ที่พิการบ้าใบ้บอดหนวกตั้งแต่กำเนิด และมหาวิบากจิต ๘ ดวง ซึ่งทำกิจปฏิสนธิในภูมิมนุษย์และในสวรรค์ ๖ ชั้น แล้วแต่ว่าจะเป็นมหาวิบากที่ประกอบด้วยปัญญาหรือว่าไม่ประกอบด้วยปัญญา
พระโสดาบัน ไม่มีการเกิด อุเบกขาสันตีรณอกุศลวิบากจิต เพราะดับเหตุที่จะทำให้เกิดในอบายภูมิ ไม่มีเหตุให้เกิดอกุสลจิตใน ชวนจิตสุดท้ายครับ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เหตุย่อมสมควรแก่ผล เพราะเหตุว่าพระโสดาบันพระโสดาบัน คือ พระอริยบุคคลขั้นแรก ผู้เข้าถึงกระแสพระนิพพานรู้แจ้งอริยสัจจธรรมดับกิเลสได้ในระดับหนึ่งกล่าวคือ ดับความเห็นผิดได้ทั้งหมด ดับความลังเลสงสัยในสภาพธรรม ดับความตระหนี่ ดับความริษยา ได้ เป็นผู้ที่แน่นอนที่จะตรัสรู้เป็นพระอรหันต์ในภายหน้า เป็นผู้มั่นคงในศีล ๕ ไม่ล่วงศีลแม้เนื่องด้วยชีวิต เป็นผู้มั่นคงในพระรัตนตรัย เป็นผู้มีคติแน่นอน คือ ปิดประตูอบายได้แล้ว ดับกิเลสอย่างหยาบที่จะเป็นเหตุให้เกิดในอบายภูมิได้แล้ว จะไม่มีการเกิดในอบายภูมิอีกเลย เมื่อไม่มีเหตุที่จะทำให้เกิดในอบายภูมิ วิบากจิตที่จะทำกิจปฏิสนธิในอบายภูมิจึงไม่มี เพราะดับเหตุที่จะทำให้มีการเกิดในอบายภูมิได้แล้วนั่นเอง ซึ่งจะแตกต่างจากปุถุชนอย่างสิ้นเชิง เพราะมีคติไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับว่ากรรมใดจะให้ผลนำเกิด ถ้าเป็นอกุศลกรรมนำเกิดก็ทำให้เกิดในอบายภูมิ ถ้ากุศลกรรมนำเกิด ก็ทำให้เกิดในสุคติภูมิ เป็นธรรมที่เกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...