กรรมฐาน 40
ในบรรดากรรมฐานทั้ง 40 กอง เราควรจะเลือกกรรมฐานไหน ที่เหมาะกับเรา
ขอบพระคุณครับ
คำว่า กรรมฐาน หรือ กัมมัฏฐาน ก็มีคำสองคำรวมกัน คือ คำว่า "กัมม" ซึ่งหมายถึง การกระทำ รวมกับ "ฐาน" คือ ที่ตั้ง เมื่อแปลแล้วก็คือ ที่ตั้งแห่งการกระทำ
สมถกรรมฐาน คือ การอบรมความสงบของจิตเพื่อข่มนิวรณ์ จนจิตสงบเป็นฌานขั้นต่างๆ เมื่อฌานไม่เสื่อมย่อมเกิดในพรหมโลก
วิปัสสนากรรมฐาน คือ การอบรมเจริญปัญญา ที่รู้ความจริงของสภาพธรรมในขณะนี้ ที่ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และเป็นอนัตตา เพื่อรู้แจ้งอริยสัจจธรรมตามความเป็นจริง ดับกิเลสตามลำดับ เพื่อดับกิเลสทั้งหมดไม่ต้องเกิดอีกเลย
การเจริญสมถภาวนา มี กรรมฐาน ๔๐ ซึ่งหากเข้าใจคำว่าอนัตตา ที่บังคับบัญชาไม่ได้ แล้วแต่เหตุปัจจัย จะไม่มีการเลือกกรรมฐานใด เพราะแล้วแต่ว่า เหตุปัจจัยจะให้เกิดกรรมฐานใดก็ตามการสะสมครับ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สิ่งที่สำคัญ คือ การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ การไปทำอะไรด้วยความไม่เข้าใจ ด้วยความเห็นผิด ด้วยความเป็นตัวตน ที่จดจ้องต้องการ นั่นไม่ใช่หนทางที่จะเป็นไป เพื่อความเข้าใจสภาพธรรมตามความเป็นจริง ปฏิบัติธรรมในทางพระพุทธศาสนา เป็นเรื่องของความเข้าใจ ไม่ใช่รูปแบบ ไม่ใช่ข้อกำหนดด้วยเวลาว่า จะต้องนั่งเท่านี้ชั่วโมง เดินเท่านี้ ชั่วโมง ถ้ามีการกำหนดรูปแบบต่างๆ ขึ้นมา ทั้งหมดเป็นข้อกำหนด ที่เกิดขึ้น ด้วยความไม่รู้ทั้งนั้น ซึ่งไม่ใช่พระธรรมคำสอนที่ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง
จึงควรเริ่มต้น ด้วยความตั้งใจที่จะศึกษาธรรม เพื่อความเข้าใจอย่างถูกต้อง ตรงตามความเป็นจริง ถ้ามีความตั้งใจจริงๆ เห็นประโยชน์จริงๆ ไม่ขาดการฟัง ไม่ขาดการศึกษา ความรู้ความเข้าใจ ก็จะค่อยๆ เจริญขึ้น อย่างแน่นอน การศึกษาธรรม ก็คือ ศึกษาสิ่งที่มีจริง ที่กำลังปรากฏในขณะนี้ ซึ่งแต่ก่อนไม่เคยรู้เลย ว่า เป็นธรรม ทุกขณะเป็นธรรมจริงๆ ไม่พ้นไปจากนามธรรม กับ รูปธรรม ไม่พ้นไปจากจิต เจตสิก รูป เลย ค่อยๆ สะสมความเข้าใจ ไปทีละเล็กทีละน้อย การฟังพระธรรมบ่อยๆ เนืองๆ จะทำให้ปัญญาเจริญขึ้น ทำให้มีความมั่นคง ในเหตุ ในผล ของ ธรรม จนกว่าจะประจักษ์แจ้งได้จริงๆ ว่า ธรรม เป็น ธรรม ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตนเป็นเพียง สภาพธรรม ที่เกิดขึ้นตามเหตุ ตามปัจจัย แล้วก็ดับไป เท่านั้นเอง ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...