เมื่อทุกสรรพสิ่งเป็นเพียงสภาพธรรม เหตุใดจึงต้องมีการดูแลรักษา
จากพระธรรมที่เราเรียนคือสิ่งที่มีจริงทั้งหมดเป็นธรรมะ เป็นแต่เพียงสภาพธรรมที่ประกอบไปด้วยสิ่งที่เป็นรูปธรรม กับ สิ่งที่เป็นนามธรรม และสภาพธรรมที่มีจริงทั้งหมดต่างก็เป็นทุกข์ทั้งนั้น ดังนั้น กระผมจึงสงสัยว่าเหตุใดเราจึงต้องมีการดูแลรักษา เช่น เมื่อร่างกายเจ็บป่วยก็ต้องไปหาหมอให้หมอรักษา คนไข้บางคนจวนจะตายอยู่แล้วแต่หมอก็ยังคงปั๊มหัวใจต่อไปเพื่อให้คนไข้นั้นมีชีวิตอยู่ต่อ และเมื่อมีชีวิตอยู่ต่อก็ต้องเป็นทุกข์ต่อ เป็นฆราวาสก็ต้องทำมาหาเลี้ยงชีพ เพื่อที่จะอยู่ต่อไป เพื่อที่จะทุกข์ต่อไป เพียงแค่เพื่อต้องการจะดำรงรักษารูปธรรมและนามธรรมต่อไป ดำรงรักษา จิต เจตสิก รูป ให้คงอยู่ต่อไป กระผมจึงสงสัยว่าทั้งหมดนั้นเราทำไปเพื่ออะไร
เมื่อเป็นแต่เพียงรูปกับนามซึ่งเกิด-ดับ ไม่มีเนื้อหาสาระอะไร เหตุใดจึงต้องดูแลรักษา แม้แต่ในบทสวดมนต์ พระพุทธองค์ท่านก็ยังสอนให้เราดูแลตนเองให้พ้นจากทุกข์โศกโรคภัยต่างๆ กระผมจึงขอความกรุณาท่านอาจารย์ช่วยให้ความกระจ่างแก่ผมในเรื่องนี้
ชีวิตปกติของปุถุชน ก็รักตน รักสุข เมื่อเป็นทุกข์กาย ก็ต้อง มีความต้องการ โลภะ ที่อยากจะหายทุกข์ เป็นธรรมดาที่จะไปหาหมอ รักษา แม้จะห้าม ไม่ห้าม ก็เพราะความรักตัว มีกิเลสก็ไปหาหมออยู่ดี ครับ ส่วนแม้ผู้ไม่มีกิเลสแล้ว ก็รักษาขันธ์ เพื่อมีชีวิตเป็นประโยชน์กับผู้อื่น ที่ทำให้ผู้อื่นได้เข้าใจพระธรรม ได้มีโอกาสเจริญกุศล กับ ท่าน เพราะฉะนั้นก็เป็นปกติ ที่จะต้องบำรุงขันธ์ แม้ป่วย หรือ ไม่ป่วยก็ตาม ครับ
ขออนุโมทนา
กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์เป็นอย่างสูงครับ กระผมพอเข้าใจแล้วว่า ที่เรามีชีวิตอยู่ต่อไปนั้นไม่ใช่เพื่อตนเอง แต่เพื่อได้มีโอกาสกระทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น และที่สำคัญที่สุด กระผมเชื่อว่าเราเกิดมาเพื่อช่วงเวลาที่มีค่าที่สุดคือ การได้ยินได้ฟังพระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงแสดง
สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เพื่อให้ชีวิตเป็นไปเพื่อประโยชน์ในการสะสมความดีและฟังพระธรรมให้เข้าใจ เพราะตามความเป็นจริงแล้ว ชีวิต เป็นอยู่ต่อไป นานเท่าใด ก็ยิ่งจะเป็นโอกาสให้ได้เจริญกุศล ได้ฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญา มากเท่านั้น ที่จะมีความเข้าใจอย่างนี้ได้ ก็จะต้องเป็นผู้ที่ได้เห็นประโยชน์ของกุศล และ การอบรมเจริญปัญญา เพราะที่พึ่งที่แท้จริงไม่ใช่อกุศลธรรม แต่ต้องเป็นกุศลธรรมเท่านั้น ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขอบพระคุณท่านเจ้าของกระทู้ และท่านอาจารย์วิทยากรที่กรุณาให้ความกระจ่าง เป็นเรื่องในชีวิตประจำวันจริงๆ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
การมีชีวิตอยู่แม้เพียงวันเดียวแล้วมีปัญญาประเสริฐกว่าการมีชีวิตอยู่ไปวันๆ แล้วไม่มีความเข้าใจธรรมค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
อบรมปัญญาให้เข้าใจความจริง จะเป็นประโยชน์ทั้งชาตินี้ และชาติต่อๆ ไป กุศลที่ทำได้เสมอๆ คือ การฟังพระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง มีคุณค่ามหาศาลสำหรับชีวิตที่ต้องเดินทางต่อไป อีกแสนไกล และกันดาร
ขอเชิญศึกษาพระธรรม...
รวมลิงก์เมนูต่างๆ ในเว็บไซต์