พระอริยะในเพศคฤหัสถ์ เป็นสมณะหรือไม่

 
apiwit
วันที่  13 มี.ค. 2559
หมายเลข  27557
อ่าน  1,647

เมื่อกล่าวคำว่าสมณะ เรามักจะนึกถึงนักบวชหรือพระภิกษุที่นุ่งห่มผ้าเหลือง แต่พระภิกษุนั้นจะต้องเป็นผู้ที่ได้บรรลุคุณธรรม ดับกิเลสถึงความเป็นพระอริยบุคคลในขั้นต่างๆ จึงจะชื่อว่า เป็นสมณะ หากพระภิกษุรูปใดที่ยังเป็นปุถุชน อีกทั้งยังประพฤติผิดพระธรรมวินัย ก็ไม่ชื่อว่าสมณะ แต่แม้ผู้ที่เป็นเพศคฤหัสถ์หรือฆราวาสแต่ก็เป็นผู้ที่ศึกษาพระธรรมจนกระทั่งดับกิเลสเป็นพระอริยบุคคลขั้นต่างๆ อย่างนี้เราจะเรียกท่านว่าเป็นสมณะได้หรือไม่ครับ ตัวอย่างเช่น ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี และ นางวิสาขา สมควรเรียกท่านเหล่านั้นว่าเป็นสมณะหรือไม่ครับ แม้จะไม่ได้ครองผ้าเหลือง


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 13 มี.ค. 2559

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

แม้ท่านสันตติมหาอำมาตย์ ท่านเป็นคฤหัสถ์ เมื่อท่านได้ฟังธรรมได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ แต่ท่านก็ไม่ได้บวชเหมือนท่านพระพาหิยะ ท่านก็ปรินิพพานในวันนั้นเหมือนกัน เมื่อท่านปรินิพพาน ภิกษุทั้งหลายก็สนทนากันว่าจะเรียกท่านสันนติมหาอำมาตย์ว่าอย่างไร จะเรียกว่าสมณะ หรือ พราหมณ์ได้ไหม คือจะเป็นสมณะได้ไหม ในเมื่อท่านไม่ได้บวชแต่ก็บรรลุเป็นพระอรหันต์ในเพศคฤหัสถ์ พระพุทธเจ้าตรัสว่า ให้เรียกบุตรของเราว่า สมณะก็ควร เรียกว่าพราหมณ์ก็ควรเพราะท่านดับกิเลสแล้วนั่นเองครับ ซึ่งแม้บุคคลจะประดับตกแต่งเป็นเพศคฤหัสถ์ แต่ดับกิเลสแล้วก็ควรเรียกว่า สมณะ และควรเรียกว่าภิกษุได้ ดังพระคาถามที่พระพุทธเจ้าตรัสตอบภิกษุทั้งหลายในเรื่องท่านสันตติมหาอำมาตย์ว่าควรเรียกท่านว่าอย่างไร พระคาถามีว่า

[เล่มที่ 42] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ -หน้าที่ 119

" แม้ถ้าบุคคลประดับแล้ว พึงประพฤติสม่ำเสมอเป็นผู้สงบ ฝึกแล้ว เที่ยงธรรม มีปกติประพฤติประเสริฐ วางเสียซึ่งอาชญาในสัตว์ทุกจำพวก,บุคคลนั้น เป็นพราหมณ์ เป็นสมณะ เป็นภิกษุ. "

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 13 มี.ค. 2559

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สมณะคือผู้สงบจากกิเลสทั้งหลายทั้งปวง มีโลภะ โทสะ โมหะ เป็นต้น เมื่อกล่าวถึงโดยภาวะ สมณะ สูงสุด คือ สามารถดับกิเลสทั้งปวงได้อย่างหมดสิ้น เป็นพระอริยบุคคลได้ ไม่ว่าจะอยู่ในเพศใดก็ตาม, แต่ถ้ากล่าวโดยเพศแล้ว สมณะ เป็นเพศที่ไม่ใช่เพศคฤหัสถ์ เป็นเพศที่สูงกว่าคฤหัสถ์ ต้องสละอาคารบ้านเรือน ละกองแห่งโภคสมบัติทั้งหลายทั้งปวงเข้าสู่เพศที่สูงยิ่ง เป็นเพศที่แตกต่างจากคฤหัสถ์อย่างสิ้นเชิง แสดงให้เห็นถึงความพร้อมที่จะขัดเกลากิเลสในเพศของบรรพชิตด้วยความจริงใจ สูงสุดเพื่ออบรมเจริญปัญญาจนกระทั่งสามารถที่จะดับกิเลสทั้งหมดโดยเด็ดขาด บรรลุถึงความเป็นพระอรหันต์ แต่ละบุคคลมีชีวิตเป็นไปตามการสะสม ไม่ว่าจะอยู่ในเพศใดก็ตาม สำคัญที่ความเข้าใจถูกเห็นถูก เห็นประโยชน์ของการอบรมเจริญปัญญา เพราะการอบรมเจริญปัญญาไม่ได้จำกัดเฉพาะเพศหนึ่งเพศใด ขึ้นอยู่กับว่าผู้นั้นจะเห็นความสำคัญมากน้อยแค่ไหน ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
nong
วันที่ 14 มี.ค. 2559

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
peem
วันที่ 14 มี.ค. 2559

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
apiwit
วันที่ 15 มี.ค. 2559

กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
ํํญาณินทร์
วันที่ 16 มี.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
nopwong
วันที่ 22 มี.ค. 2559

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
wirat.k
วันที่ 23 มี.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
wannee.s
วันที่ 25 มี.ค. 2559

ไม่ว่าจะเป็นบรรพชิตหรือคฤหัสถ์ถ้าได้บรรลุเป็นพระโสดาบันก็เรียกว่าสมณะได้โดยคุณธรรมของท่านที่ดับกิเลสตามลำขั้น สูงสุดคือพระอรหันต์ค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ