กระทบผัสสะเดียวกันแต่เวทนาของแต่ละคนต่างกันเพราะผลของกรรมใช่หรือไม่
แม้จะกระทบผัสสะเดียวกันแต่เวทนาคือความรู้สึกต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น ถูกมีดบาดแผลเท่าๆ กัน บางคนที่มีอาการซาดิส หรือ เป็นพวกชอบความเจ็บปวดกลับรู้สึกว่าเป็นสุขเวทนา ในขณะที่คนที่ไม่ชอบความเจ็บปวดก็จะรู้สึกว่าเป็นทุกขเวทนา และแม้แต่ความเจ็บปวด แต่ละคนก็เจ็บไม่เท่ากันแม้ขนาดของแผลจะเท่ากัน ทั้งนี้เพราะแต่ละคนสะสมกรรมมาต่างกัน กรรมที่ให้ผลจึงมีความวิจิตรแตกต่างกัน แม้จะกระทบผัสสะเดียวกัน แต่เวทนาของแต่ละคนก็ต่างกัน เป็นเพราะผลของกรรมที่ได้กระทำมาในอดีตใช่หรือไม่ครับ ซึ่งแต่ละคนล้วนสะสมมาต่างกัน
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขณะที่กระทบสัมผัสสิ่งที่ไม่ดี ทุกขกายวิญญาณเกิด ไม่ว่าใคร ที่ได้รับกระทบไม่ดี ย่อมเกิด ทุกขเวทนา ร่วมกับ กายวิญญาณในขณะนั้น แม้เกิดกับพระพุทธเจ้า และ ปุถุชน ก็ย่อมเกิดทุกขเวทนา ทางกาย แต่ไม่ใช่ทุกข์ใจที่เป็นโทมนัสเวทนา ทุกข์ใจ แต่ เมื่อได้รับกระทบสัมผัสไม่ดี เกิดทุกข์ทางกายเหมือนกันแล้ว ไม่ว่าใคร ก็เกิด ความไม่ชอบใจ โทมนัสเวทนาได้ ที่เกิดกับจิตที่เป็นโทสะ หรือ เกิด โลภะ ชอบ ติดข้องในทุกขเวทนานั้นได้ ก็ตามการสะสม ของแต่ละคน ที่จะชอบหรือไม่ชอบ ครับ ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
การได้รับสิ่งทีไม่ดีไม่น่าปรารถนาไม่น่าใคร่ไม่น่าพอใจ ต้องเป็นผลของอกุศลกรรม เท่านั้น แม้การได้รับทุกขเวทนาทางกาย ก็เป็นผลของอกุศลกรรม โดยไม่มีใครทำให้เลย เหตุย่อมสมควรแก่ผล ประการที่สำคัญคือเราไม่สามารถจะรู้ได้ว่ากรรมใดจะให้ผลเมื่อใด ในชีวิตประจำวันจึงจะประมาทไม่ได้ในการสะสมความดี เพราะความดีทั้งหลายทั้งปวงนั้น ไม่ให้ผลที่เป็นทุกข์โดยประการทั้งปวง และความดีที่ประเสริฐคือความเข้าใจพระธรรม (ปัญญา) ที่จะเป็นเครื่องอุปการะเกื้อกูลให้ความดีทั้งหลายทั้งปวงเจริญขึ้น ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...