เห็นหมายถึงเฉพาะจักขุวิญญาณ?

 
ใหญ่ราชบุรี
วันที่  28 มี.ค. 2559
หมายเลข  27607
อ่าน  1,151

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

เห็น หมายถึงเฉพาะ จักขุวิญญาณ กระบวนการ 17 ขณะ เช่น สัมปฏิจฉันนะ สันตีรณะ โวฏฐัพพนะ ชวนฯ ไม่ได้ทำหน้าที่เห็น กล่าวอย่างนี้ ถูกต้องไหมคะ 17 ขณะ เป็น กระบวนการที่จะต้องเป็นไปในการเห็น ถ้าไม่ครบ จะเป็นยังไง เห็นเพียง สิ่งที่ปรากฏทางตา หรือ เห็น เพียงสีสันวัณณะ ยังไม่รู้ว่า เป็นบัญญัติธรรมอะไร ใช่ไหมคะ จะรู้ว่าเป็นบัญญัติธรรมอะไรนี่ อยู่ขณะจิตไหน ต้องมโนทวารหรือคะ อธิบายเพิ่มเติมละเอียดๆ ก็ได้นะคะ จะได้กระจ่างชัดเจนค่ะ

ขอบพระคุณที่อนุเคราะห์ให้ความรู้ความเข้าใจค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 28 มี.ค. 2559

การเห็น เป็นสภาพธรรมที่มีจริง ที่เป็น จิต คือ จักขุวิญญาณจิต ซึ่ง เมื่อเป็นจิตแล้วจิตเป็นสภาพธรรมที่รู้อารมณ์ คือ จะต้องมีสิ่งที่จิตรู้ เพราะฉะนั้น จิตเห็นก็ต้องมีสิ่งที่ถูกเห็น เป็นอารมณ์ของจิตเห็นด้วย คือ สี สิ่งที่ปรากฏทางตา หรือ ที่เรียกว่า รูปารมณ์ เพราะฉะนั้น ความสัมพันธ์ของ จิตเห็น กับ รูปารมณ์ คือ จิตเห็น มี รูปารมณ์ให้รู้ หรือเป็นอารมณ์ จิตเห็นไม่รู้เสียง ไม่รู้กลิ่น ไม่รู้รส ไม่รู้สิ่งที่กระทบสัมผัส แต่ รู้ สี ที่เป็นรูปารมณ์ ครับ ดังนั้น จักขุวิญญาณทำหน้าที่เห็น จิตอื่น ไม่ได้ทำหน้าที่เห็น ครับ

ขณะที่เห็น ไม่ใช่เห็น สัทรูป (เสียง) เพราะจิตเห็น ไม่ได้รู้เสียง แต่ จักขุวิญญาณจิตเห็น สี หรือ วัณณรูปครับขณะที่เห็น คือ จักขุวิญญาณจิตเกิดขึ้น เห็นเพียง สี แต่ไม่รู้ว่าเป็นอะไร คือ ยังไม่รู้ว่าเป็นสัตว์ บุคคล เป็นสิ่งต่างๆ เพราะเพียงเห็นเท่านั้น

ขณะที่รู้ว่าเป็นสิ่งหนึ่ง สิ่งใด เป็นบัญญัติ ไม่ใช่ ขณะที่เห็น แต่เป็นวิถีจิตทางมโนทวาร ที่นึกคิด ครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 29 มี.ค. 2559

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

เห็น กับ จักขุวิญญาณ เป็นสภาพธรรมอย่างเดียวกัน คำไทย ใช้คำว่าเห็น ภาษาบาลี ก็เป็น จกฺขุวิญฺญาณ (จักขุวิญญาณ) ไม่ว่าจะเรียกชื่อด้วยคำอะไร ความเป็นจริงของธรรม ไม่เปลี่ยน เห็น เป็นสภาพธรรมที่มีจริงๆ เกิดขึ้นทำกิจเห็นเพียงสิ่งที่ปรากฏทางตา (สี) เท่านั้น ก่อนที่จิตเห็นจะเกิด ก็มีจิตที่เกิดก่อนจิตเห็น และหลังจากที่จิตเห็นเกิดแล้วดับไปก็มีจิตขณะอื่นเกิดสืบต่อ จิตที่เกิดขึ้นโดยอาศัยตา (จักขุปสาทะ) เป็นทาง นั้น รู้สี กล่าวคือ มีสีเป็นอารมณ์ทั้งหมด แต่รู้โดยกิจหน้าที่ที่ต่างกัน ซึ่งยังไม่รู้ว่าเป็นอะไร ไม่ได้รู้บัญญัติ เพราะการรู้ว่าเป็นอะไร เป็นบัญญัติเรื่องราวต่างๆ นั้น เป็นจิตที่เกิดขึ้นรู้อารมณ์ทางใจ ไม่ใช่ทางตา เพราะทางตารู้สีเท่านั้น ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ํํญาณินทร์
วันที่ 29 มี.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
peem
วันที่ 29 มี.ค. 2559

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
tookta.siri
วันที่ 31 มี.ค. 2559

ต้องไม่ลืมว่าจิตเกิดทีละ ๑ ขณะ จักขุวิญญาน เกิดขึ้นทำ ทัสสนกิจ คือ กิจเห็น แล้วดับ ขณะเห็นต้องมีสิ่งที่ปรากฏทางตา (สี) จะเป็นอะไรก็ คือ สิ่งที่ปรากฏได้ทางตาเท่านั้น

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
chatchai.k
วันที่ 22 ต.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ