โมจตุกะ

 
Akaraphan
วันที่  31 มี.ค. 2559
หมายเลข  27616
อ่าน  1,950

เรียนถามท่านผู้รู้ครับ ในเรื่องของเจตสิก โมจตุกะ ที่เกิดร่วมกับอกุศลจิตทุกดวง ดังนี้ครับ

1.โมจตุกะที่เป็นเจตสิก 4 ดวง มีเวทนาเป็นอุเบกขาเหมือนโมหมูลจิตหรือไม่ครับ

2.โลภมูลจิตที่มีเวทนาเป็นโสมนัส จะมีโมจตุกะ เกิดร่วม ได้อย่างไร

3.โทสมูลจิตที่มีเวทนาเป็นโทมนัส จะมีโมจตุกะ เกิดร่วม ได้อย่างไร

ขอบพระคุณที่อนุเคราะห์ให้ความรู้ความเข้าใจด้วยครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 1 เม.ย. 2559

โมจตุกเจตสิก

โม (โมหเจตสิก) + จตุกฺก (หมวด ๔) + เจตสิก (สภาพที่เกิดกับจิต)

เจตสิกที่เป็นหมวด ๔ ของโมหะ หมายถึง อกุศลเจตสิก ๔ ดวง คือ ...

๑. โมหะ ๒. อหิริกะ ๓. อโนตตัปปะ ๔. อุทธัจจะ

อกุศลจิตทั้ง ๑๒ ดวง จะต้องมีอกุศลเจตสิก ๔ ดวงนี้เกิดร่วมด้วยแน่นอน ฉะนั้นอกุศลเจตสิกทั้ง ๔ ดวงนี้ จึงมีชื่อว่า “สัพพอกุศลสาธารณเจตสิก “ คือ เป็นสาธารณะแก่อกุศลจิตทุกดวง

โมหเจตสิก เป็นสภาพที่ไม่รู้และปิดบังความจริงของสภาพธรรม ขณะที่หลงลืมสิ่งหนึ่ง เป็นอาการของโมหเจตสิกที่ทำกิจในขณะนั้น อหิริกเจตสิก เป็นสภาพที่ไม่ละอาย ไม่รังเกียจต่อบาปอกุศลทุจริตมีอาการเหมือนสุกรที่ไม่รังเกียจต่ออาจมที่เป็นสิ่งปฏิกูล อโนตตัปปเจตสิก เป็นสภาพที่ไม่เกรงกลัวต่อบาปอกุศลทุจริต มีอาการเหมือนแมลงเม่าที่ไม่เกรงกลัวต่อไฟ จึงบินเข้าไปสู่กองไฟ อุทธัจจเจตสิก เป็นสภาพที่ฟุ้งซ่านซัดส่ายในอารมณ์ ทำจิตให้ไม่สงบมีอาการเหมือนการโยนก้อนหินลงในกองขี้เถ้า ทำให้ขึ้เถ้าฟุ้งขึ้น

1.โมจุตกะ ที่เป็นเจตสิก 4 ดวง มีเวทนาเป็นอุเบกขาเหมือนโมหมูลจิตหรือไม่ครับ

» โมจตุกะ เจตสิก 4 ประเภท เกิดกับเวทนาประเภทใดก็ได้ ไม่จำกัดเฉพาะอุเบกขาเวทนา ครับ

2.โลภมูลจิตที่มีเวทนาเป็นโสมนัส จะมีโมจุตกะ เกิดร่วม ได้อย่างไร

» มีครับ

3.โทสมูลจิตที่มีเวทนาเป็นโทมนัส จะมีโมจุตกะ เกิดร่วม ได้อย่างไร

» มีครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 1 เม.ย. 2559

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ความเป็นจริงของสภาพธรรม ที่เป็นนามธรรม กล่าวคือ จิต และเจตสิก นั้น จะเกิดร่วมกัน และเจตสิกที่เกิดขึ้นเป็นไปนั้นก็ตามควรแก่จิตขณะนั้นๆ ด้วย และที่น่าพิจารณา คือ อกุศลเจตสิกประการต่างๆ จะเกิดร่วมกับอกุศลจิตเท่านั้น เกิดร่วมกับจิตชาติอื่นไม่ได้เลย อกุศลเจตสิกที่เกิดร่วมกับอกุศลจิตแต่ละประเภทนั้น ก็ตามความเป็นไปของอกุศลจิตประเภทนั้นๆ แต่ไม่ว่าจะเป็นอกุศลจิตประเภทใด จะไม่ปราศจาก โมหะ (ความหลง ความไม่รู้) อหิริกะ (ความไม่ละอายอกุศล) อโนตตัปปะ (ความไม่เกรงกลัวต่ออกุศล) และ อุทธัจจะ (ความไม่สงบ) เลย นี้คือความเป็นจริง ซึ่งเป็นธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัยไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น อกุศลประเภทที่มีโลภะเกิดร่วมด้วย เวทนา จะเป็นอย่างหนึ่งอย่างใดใน ๒ อย่าง คือ โสมนัส หรือ อุเบกขา แต่ถ้าเป็นอกุศลประเภทที่มีโทสะเกิดร่วมด้วยแล้ว เวทนาต้องเป็นอย่างเดียวเท่านั้นคือ โทมนัสเวทนา ความรู้สึกไม่สบายใจ
ประโยชน์ของการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม ก็เพื่อความเข้าใจความจริง ตามความเป็นจริง แม้ อกุศล ที่เกิดขึ้นเป็นไป นั้น เป็นธรรมไม่ใช่เรา เมื่อแยกย่อยเป็นแต่ละขณะๆ ของชีวิตแล้ว หาความเป็นสัตว์ บุคคล ตัวตนไม่ได้เลย ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
peem
วันที่ 1 เม.ย. 2559

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
Akaraphan
วันที่ 1 เม.ย. 2559

ขอบพระคุณในการชี้แนะครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
j.jim
วันที่ 1 เม.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
phao
วันที่ 4 เม.ย. 2559

พยายามจะทำความเข้าใจแต่ก็ยากสำหรับผม ขอบคุณ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
papon
วันที่ 12 เม.ย. 2559

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ