ทำไมนั่งสมาธิจนเกิดญานจึงเกิดอภิญญา

 
เจริญในธรรม
วันที่  4 เม.ย. 2559
หมายเลข  27637
อ่าน  2,071

แล้วอภิญญา และการมีฤทธิ์ เช่นตาทิพย์ หูทิพย์ เกิดมาได้อย่างไร


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 4 เม.ย. 2559

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

เมื่อกล่าวถึงคำอะไรก็ต้องมีความเข้าใจคำนั้นๆ ด้วย คือ คำว่า อภิญญา โดยศัพท์ อภิญญา หมายถึง ความรู้อย่างยิ่งยวด ความรู้ที่ยิ่ง ซึ่งเป็นผลจากการอบรมสมถภาวนาและ วิปัสสนาภาวนา ตามควรแก่อภิญญา นั้นๆ เวลาศึกษาพระธรรมอ่านข้อความจากพระไตรปิฎก จะพบทั้งอภิญญา ๕ และ อภิญญา ๖ ซึ่งมีความแตกต่างดังนี้

-อภิญญา ๕ เป็นโลกิยะอย่างเดียว ส่วนอภิญญา ๖ มีทั้งโลกิยะและโลกุตตระ ดังข้อความจาก

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค เล่ม ๗ ภาค ๒หน้าที่๖๘๒ ว่า

บทว่า ฉนฺนํ อภิญฺญานํ (อภิญญา ๖) คือ อิทธิวิธะ (แสดงฤทธิ์ได้) ๑ ทิพยโสตะ (หูทิพย์) ๑ เจโตปริยญาณ (รู้จักกำหนดใจผู้อื่น) ๑ ปุพเพนิวาสญาณ (ระลึกชาติได้) ๑ทิพยจักขุ (ตาทิพย์) ๑ อาสวักขยญาณ (รู้จักทำอาสวะให้สิ้น) ๑

การได้อภิญญา มาจากการอบรมสมถภาวนา กับ วิปัสสนาภาวนาการได้อภิญญาที่เป็นโลกิยะนั้น เป็นผลของการอบรมเจริญสมถภาวนา ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมาก แต่ก็ไม่ได้เป็นไปเพื่อการดับกิเลส แม้ก่อนสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้ายังไม่อุบัติ ก็มีฤาษีที่เจริญสมถภาวนา จนได้อภิญญา ๕ แต่ก็ไม่สามารถดับกิเลส ก็ยังต้องเวียนว่ายตายเกิดอีก ยังไม่พ้นจากทุกข์

เมื่อพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นในโลก ทรงแสดงหนทางหลุดพ้นจากทุกข์ คือ การเจริญวิปัสสนา ทำให้สาวกทั้งหลายได้เข้าใจและดำเนินตามหนทางดังกล่าวนี้ ก็สามารถรู้แจ้งอริยสัจจธรรมดับกิเลสได้ตามลำดับขั้น ถึงความเป็นผู้สามารถดับกิเลสตามลำดับขั้น จนกระทั่งสูงสุด คือ บรรลุเป็นพระอรหันต์ ดับกิเลสทั้งปวงได้อย่างหมดสิ้น แม้บางท่านจะไม่ได้ฌานด้วยก็ตาม แสดงให้เห็นว่า ประโยชน์สูงสุด ที่ควรได้ คือ การดับกิเลสที่เป็นสาระสูงสุดของชีวิต ซึ่งการจะไปถึงตรงนั้นได้ ก็ต้องเริ่มสะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกตั้งแต่ต้น มีการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปทีละเล็กทีละน้อยและที่สำคัญ ที่จะได้อภิญญา ๖ ก็ต้องเป็นผู้อบรมทั้งสมถภาวนาและวิปัสสนาภาวนา

ดังนั้น การจะได้อภิญญา ต้องมีปัญญาที่เจริญสมถภาวนา แต่ไม่ใช่ นั่งสมาธิ แต่ไม่มีปัญญา ไม่รู้อะไร ได้แต่นิ่ง จะกล่าวว่าเป็น สมถภาวนาไม่ได้ครับ เพราะฉะนั้น จึงไม่สามารถกล่าวได้เลยว่า การนั่งสมาธิ คือ การเจริญสมถภาวนา ครับ ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
nopwong
วันที่ 5 เม.ย. 2559

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wirat.k
วันที่ 5 เม.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
khampan.a
วันที่ 5 เม.ย. 2559

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เหตุกับผลย่อมตรงกัน ถ้าอบรมเจริญอย่างถูกต้อง เป็นสมถภาวนา มีความชำนาญคล่องแคล่ว ผลเช่นนั้นจึงจะเกิดขึ้นได้ แต่ถ้าไปทำอะไรด้วยความไม่รู้ ด้วยความเป็นตัวตนด้วยความหวังความต้องการ ซึ่งเป็นอกุศลแล้ว ไม่ถึงทางที่จะทำให้ถึงความสงบได้เลย เป็นอกุศลตั้งแต่ต้นแล้วจะถึงความสงบได้อย่างไร
เรื่องการได้ฌานเป็นเรื่องที่ไกลตัวมาก สิ่งที่มีจริงในขณะนี้เป็นสิ่งที่ควรศึกษาให้เข้าใจ ด้วยการไม่ขาดการฟังพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ..

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ํํญาณินทร์
วันที่ 6 เม.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ