เพราะกายแตก ย่อมไม่ เข้าถึง ซึ่งบัญญัติ - วาตสูตรที่ ๑

 
ใหญ่ราชบุรี
วันที่  5 เม.ย. 2559
หมายเลข  27640
อ่าน  850

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

"เพราะ กายแตก ย่อมไม่เข้าถึง ซึ่งบัญญัติ" หมายความว่าอย่างไรคะ เข้าถึงปรมัติ ละทิ้งบัญญัติ?

ขอบพระคุณที่อนุเคราะห์ให้ความรู้ความเข้าใจค่ะ


พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๘ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๐ สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค

วาตสูตรที่ ๑

[๓๙๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือน ลมต่างชนิด พัดไป แม้ในอากาศ คือ ลมทิศตะวันออกบ้าง ลมทิศตะวันตกบ้าง ลมทิศเหนือบ้าง ลมทิศใต้บ้าง ลมมีธุลีบ้าง ลมไม่มีธุลีบ้าง ลมหนาวบ้าง ลมร้อน บ้าง ลมอ่อนบ้าง ลมแรงบ้าง ฉันใด ดูกรภิกษุทั้งหลาย เวทนาต่างชนิด ย่อมเกิดขึ้น ในกายนี้ ฉันนั้นเหมือนกันแล คือ สุขเวทนาบ้าง ทุกขเวทนาบ้าง อทุกขมสุขเวทนาบ้าง ฯ

พระผู้มีพระภาคผู้สุคตศาสดา ครั้นได้ตรัสไวยากรณภาษิตนี้จบลงแล้ว จึงได้ตรัสคาถาประพันธ์ต่อไปอีกว่า

[๓๙๖] เปรียบเหมือน ลม มากมาย หลายชนิด พัดไปในอากาศ คือ บางครั้งลมทิศตะวันออกบ้าง บางครั้งทิศตะวันตกบ้าง บางครั้งทิศเหนือบ้าง บางครั้งทิศใต้บ้าง บางครั้งมีธุลีบ้าง บางครั้งไม่มี ธุลีบ้าง บางครั้งลมหนาวบ้าง บางครั้งลมร้อนบ้าง บางครั้งลมแรงบ้าง บางครั้งลมอ่อนบ้าง ฉันใด เวทนา ย่อมเกิดขึ้น ในกายนี้ ฉันนั้นเหมือนกัน คือ สุขเวทนาบ้าง ทุกขเวทนาบ้าง อทุกขมสุขเวทนาบ้าง

เมื่อใดภิกษุ มีความเพียร รู้สึกอยู่ เข้านิโรธ เมื่อนั้น เธอผู้เป็นบัณฑิต ย่อม กำหนดรู้เวทนา ได้ทุก อย่าง ภิกษุนั้น กำหนดรู้เวทนาแล้ว เป็นผู้ไม่มีอาสวะ ตั้งอยู่ในธรรม เรียนจบพระเวทในปัจจุบัน เพราะ กายแตก ย่อมไม่เข้าถึง ซึ่งบัญญัติ ฯ

จบสูตรที่ ๒


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 5 เม.ย. 2559

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ย่อมไม่เข้าถึง ซึ่งบัญญัติ คือ ผู้ที่สิ้นกิเลส แล้วปรินิพพาน ย่อมไม่มีการเกิดขึ้นของสภาพธรรมอีกเลย จึงไม่มีการบัญญัติว่าเป็นอะไรอีกครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 5 เม.ย. 2559

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระอรหันต์ เป็นผู้ที่ห่างไกลจากกิเลสทั้งหลายทั้งปวง เป็นผู้ทำลายข้าศึก คือกิเลสได้หมดสิ้น เป็นผู้ไม่มีภพใหม่อีกต่อไป หลังจากที่ดับขันธปรินิพพานแล้ว ไม่มีการเกิดอีก จึงเป็นผู้ดับวัฏฏะได้อย่างเด็ดขาด ไม่มีการเกิดในภพใดๆ ก็จะไม่มีการเรียกว่าเป็นบุคคลนั้น บุคคลนี้ได้อีก ซึ่งจะแตกต่างจากผู้ที่ยังมีกิเลส ที่ยังมีการเกิดในภพต่างๆ อย่างสิ้นเชิง คนมีกิเลส ตายแล้วเกิดทันที มีขันธ์เกิดขึ้นเป็นไป จึงหมายเรียกว่า เป็นคนชื่อนั้นชื่อนี้ เป็นต้น ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ํํญาณินทร์
วันที่ 6 เม.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
chatchai.k
วันที่ 5 ก.พ. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ