เมื่อสภาพธรรมปรากฏที่ญาจาง เวียดนาม 6

 
kanchana.c
วันที่  9 เม.ย. 2559
หมายเลข  27658
อ่าน  1,061

ธรรมรสชนะรสทั้งปวง

วันที่ 8 เม.ย. 59 สนทนาธรรมวันสุดท้ายที่ญาจาง ปิดการสนทนาธรรมอย่างเป็นทางการในภาคเช้าตอน 11 โมง มีตัวแทนกล่าวขอบคุณที่ท่านอาจารย์ ซาราห์ โจนาธาน และ Tam Bach ที่ทำให้เข้าใจคำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งไม่เคยได้ยินได้ฟังมาก่อน หลายคนฟังแล้วเกิดปีติ รวมทั้งคนแปล คือ Tiny Tam ที่แปลเสียงเครือเหมือนจะร้องไห้ Tam Bach ที่ได้สมญาว่า อาจารย์สุจินต์เวียดนามกล่าวขอบคุณชาวญาจาง โดยเฉพาะ Ms. Nga เจ้าของโรงแรมและผู้จัดการที่เอื้อเฟื้อที่พักบางส่วนให้แม่ชีพร้อมลดราคาอาหารเช้าและกลางวันที่ Mr. Son เป็นเจ้าภาพตลอดรายการ รวมทั้งสามีคุณหง่าที่ช่วยเคลียร์ตำรวจที่มาคอยตรวจสอบการประชุมทางศาสนาเหมือนทุกครั้ง

ตอนแรกคิดว่าเมืองนี้ไม่เข้มงวด เพราะไม่เห็นตำรวจเลย ก็คงเหมือนกันเกือบทุกแห่งในโลกที่ออกกฎหมาย มีผู้รักษากฎหมาย ถ้าไม่อยากวุ่นวายก็ต้องมีการเคลียร์ แม้จะไม่ได้ทำผิดกฎหมายก็ตาม และเช่นเดิมทีมงานเวียดนามมอบของที่ระลึกแก่คนไทยทุกคนที่ติดตามท่านอาจารย์ แม้จะบอกล่วงหน้าว่าไม่ต้องจัดหาอะไร แค่ความปีติที่ได้ทราบว่า มีผู้เข้าใจธรรมและสนใจต่อเนื่องก็เพียงพอแล้ว เพราะเดินทางไปท่องเที่ยวที่ต่างๆ ไม่เคยเกิดปีติตื้นตันที่ได้เห็นคนอื่นปีติอย่างนี้เลย แต่ถ้าอยากจะมอบของที่ระลึกก็ขอให้มีขนาดเล็กและนำ้หนักเบาเพราะต้องบินข้ามประเทศ แม้อย่างนั้นก็ยังได้คนละถุงใหญ่

เมื่อขึ้นไปช่วยท่านอาจารย์รับของที่ระลึกบนเวที ได้มีโอกาสเห็นและได้ยินสหายธรรมเวียดนามที่มากราบท่านอาจารย์ และขอถ่ายภาพเป็นที่ระลึกมากมาย หลายท่านเกิดปีติตื้นตันจนกลั้นน้ำตาไม่อยู่กล่าวขอบคุณคล้ายๆ กันว่า ดีเหลือเกินที่โอกาสได้ฟังความจริงซึ่งเป็นคำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ไม่เคยฟังมาก่อน ท่านอาจารย์เป็น real master และทุกคนก็ปรารถนาให้ท่านมีสุขภาพแข็งแรง มีอายุยืนยาวเพื่อเผยแพร่พระธรรมรัตนะนี้ต่อไปนานๆ

ความสุขจนปีติที่เกิดจากการมีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง ได้ลิ้มธรรมรสที่ชนะรสทั้งปวงเพียงเล็กน้อย แต่ก็สุขอย่างไม่เคยสุขอย่างนี้มาก่อน ทำให้นึกถึงท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ขณะที่ท่านยังเป็นสุทัตตะ เดินทางไปกรุงราชคฤห์เพื่อทำกิจบางอย่าง เมื่อท่านได้ยินคำว่า "พุทโธ" จากราชคฤหเศรษฐีเท่านั้นเกิดปีติซาบซ่าน ขนลุกชูชัน นอนไม่หลับ คิดถึงแต่คำว่า "พุทโธ" จนต้องเดินออกจากเรือนของท่านเศรษฐีกลางดึก และได้ฟังธรรมจากพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า บรรลุเป็นพระโสดาบัน ความสุขปีติของท่านจะมากขนาดไหน

แต่ก็ทรงแสดงไว้ว่า ปีติเป็นความรู้สึก เป็นสภาพธรรมอย่างหนึ่งที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย เกิดเพียงขณะสั้นๆ เกิดแล้วก็ดับไปแล้ว ไม่กลับมาอีก เหลือแต่ความติดข้องที่อยู่ในความคิดนึกเท่านั้น ยังไม่เข้าใจขณะที่ปีติกำลังเกิดจริงๆ ส่องให้เห็นว่า ปัญญาที่เข้าใจความจริงนั้นยังน้อยนิดเหมือนจะงอยปากยุงที่จุ่มลงในมหาสมุทร ต้องสะสมไปอีกนาน ถ้ามีศรัทธามั่นคงเหมือนบุคคลในครั้งพระทีปังกรสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงพยากรณ์สุเมธดาบสว่า จะตรัสรู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าในอีก 4 อสงไขยแสนกัปข้างหน้า บุคคลเหล่านั้นต่างพากันรื่นเริงยินดีว่า แม้ไม่ได้บรรลุธรรมในสมัยของพระพุทธเจ้าพระองค์นี้ ก็จะบรรลุในสมัยพระพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป โดยไม่ท้อถอยว่าอีกนานแสนนาน ถ้ามั่นใจว่า ทางนี้เป็นทางเดียว เป็นทางละคลายความไม่รู้ ความเป็นตัวตนทีละเล็กทีละน้อย ก็ต้องมั่นคงในการเดินอยู่แล้ว ถ้าไปทางลัด ก็ยิ่งนานขึ้นไปอีก เพราะไม่มีทางลัด มีแต่ทางเสียเวลา

ตอนบ่ายมีการสนทนาอย่างไม่เป็นทางการกับพระภิกษุที่เปิดตำราถามเรื่องปัจจัย แต่ก็ยังมีผู้ยังไม่เดินทางกลับมาร่วมฟังเหมือนเดิม เหนียวแน่นจริงๆ เราเสียอีกพอได้ยินศัพท์บาลียากๆ ในปัจจัย ก็ยอมแพ้ไม่ได้บันทึกไว้เป็นตัวหนังสือ แม้ท่านอาจารย์จะนำเข้าสู่สภาพธรรมที่กำลังปรากฏเดี๋ยวนี้ก็ตาม เสียโอกาสเข้าใจไปอีก เพราะความเหนื่อยล้า แต่ก็เกิดแล้ว เปลี่ยนแปลงไม่ได้

เมื่อจบการสนทนาธรรมจริงๆ ที่ญาจางในภาคบ่าย มีนักร้องโอเปร่าที่มีชื่อเสียงมากราบท่านอาจารย์ พร้อมกับแจ้งว่าจะแต่งเพลงธรรมเป็นภาษาอังกฤษและเวียดนามร้องให้มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา พร้อมกับร้องเพลง Life is a golden dreamให้ฟัง เสียงของเธอเพราะมาก แต่ก็ไม่ทำให้เกิดปีติเหมือนฟังธรรมเข้าใจ

ได้บันทึกการสนทนาธรรมไว้ทุกวันเพื่อให้สหายธรรมที่นั่งใกล้ได้อ่าน แต่พอถ่ายทอดสด หลายท่านได้ฟังแล้ว และบางท่านได้ถ่ายทอดลงในกระดานสนทนาด้วย อย่างน้องเบน บุญยวีร์ รัชนี ได้เล่าการสนทนาธรรมบางตอนแล้ว เลยคิดว่าควรจะกลับไปอ่านทบทวนแก้ไขเพื่อความถูกต้องก่อนนำมาเล่าสู่กันฟังจะดีกว่า

ยังไม่กลับค่ะ ยังต้องเล่าการไปสนทนาภาคภาษาอังกฤษที่ซกเล็ก White Sand Beach ต่อค่ะ กำลังจะออกเดินทางในอีก 3 ชั่วโมง ใช้เวลาเดินทางชั่วโมงครึ่ง

ลาก่อนห้องพัก 1307 ที่แสนสบายที่พักถึง 7 คืนจนคุ้นเคยเหมือนบ้าน


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
ปาริชาตะ
วันที่ 10 เม.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
thilda
วันที่ 10 เม.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wirat.k
วันที่ 11 เม.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ํํญาณินทร์
วันที่ 11 เม.ย. 2559

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
j.jim
วันที่ 12 เม.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
peem
วันที่ 13 เม.ย. 2559

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ