อยากเปลี่ยนตัวเองคะ

 
Stamp
วันที่  9 เม.ย. 2559
หมายเลข  27666
อ่าน  914

แต่ก่อนหนูเคยมีปัญหาครอบครัวแตกแยก เคยซึมเศร้าอยู่หลายปี แต่ก็ดีขึ้นมากคะ จากคนที่ร่าเริง สดใส มันทำให้เรากลายเป็นคนคิดลบ และไม่รู้สึกรักใครเลย ใจแคบ เบื่อชีวิตมาก เคยกลับบ้านไปเจอพ่อ เจอย่า แต่ก็รู้สึกเฉยๆ ไม่รู้สึกรัก ผูกพันเหมือนแต่ก่อนเลย ไม่ค่อยคุยกันเหมือนก่อน เจอกันก็ทะเลาะกันตลอด และหนูก็กลายเป็นคนไม่ชอบเข้าสังคม ไม่พูดคุยกับใคร ไม่มีเพื่อนเลยสักคน มีแต่คนไม่ชอบหนู ทุกข์มากๆ หนูเรียนเก่งนะ ทำงานดีตลอด แต่เรียนไม่มีความสุขเลยเพราะไม่มีเพื่อน ที่บ้านก็ไม่มีใครรักเลย

อยากเป็นคนใจกว้าง มีมนุษย์สัมพันธ์ดี อยากมีใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นได้ จะเปลี่ยนยังไงดีคะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 9 เม.ย. 2559

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

เป็นปกติของปุถุชน ที่จะต้องเป็นไปอย่างนั้น ที่จะเกิดกิเลส คิด ไม่ดีเป็นปกติ คนที่คิดดีเป็นปกติ ที่ยังเป็นปุถุชน หาไม่มี ครับ เพราะสะสมกิเลสมามาก สำหรับทุกคนที่ยังมีกิเลส และเป็นปุถุชน เพราะฉะนั้น หนทางที่ถูก คือ ไม่ต้องไปทำอะไร ให้คิดดีขึ้น หนทาง คือ ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมต่อไป ปัญญาจะค่อยๆ เจริญขึ้น ซึ่งใช้เวลาอบรมอย่างยาวนาน ดั่งเช่นพระอริยเจ้าทั้งหลาย ก่อนท่านจะบรรลุธรรม ท่านก็มีความคิดที่ไม่ดี มีอกุศลมากมาย แต่ท่านก็อบรมปัญญาอย่างยาวนาน นับชาติไม่ถ้วน จนในที่สุด ก็สามารถบรรลุธรรม ละกิเลสได้ ครับ เพราะฉะนั้น หนทางเดียว คือ ฟังต่อไป หนทางที่จะไม่ให้อกุศลเกิด ไม่เกิดความคิดไม่ดีอีกอย่างรวดเร็ว เป็นหนทางที่เป็นทางเห็นผิดครับ ดังนั้น ค่อยๆ เปลี่ยน ด้วยคววามเข้าใจพระธรรม ครับ ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 10 เม.ย. 2559

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

เมื่อได้เกิดมาในแต่ละภพ ในแต่ละชาติ เป็นผลสืบเนื่องมาจาก ยังมีกิเลสอยู่ ยังดับกิเลสอะไรๆ ไม่ได้ ย่อมมีทั้งสุข ทั้งทุกข์ เกิดขึ้นเป็นไป ตามเหตุ ตามปัจจัย และก็เป็นที่น่าพิจารณาว่า เมื่อเป็นทุกข์ มีความเดือดร้อน เจอปัญหาประการต่างๆ แล้วทำอะไร? สามารถ จําแนก เป็น ๒ ประเภทใหญ่ๆ คือ มีทุกข์แล้ว มีปัญหาแล้ว ไม่กระทำกุศลไม่ได้มีความสนใจ ที่จะฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญา เพื่อเข้าใจสภาพธรรมตามความเป็นจริง แต่เป็นผู้ประมาท และเพิ่มพูนอกุศลให้มีมากขึ้น ในชีวิตประจำวัน
ส่วนอีกประเภทหนึ่ง คือ มีทุกข์แล้ว มีปัญหาแล้ว กระทำกุศล สะสมที่พึ่ง ให้กับตนเอง เป็นผู้ไม่ประมาทในชีวิต บุคคลประเภทนี้ แม้ว่าจะมีความทุกข์ ความเดือดร้อนสักเท่าใด แต่ก็มีความมั่นคง ที่จะกระทำกุศลต่อไป หนทางที่จะเป็นไปเพื่อ ละคลายขัดเกลากิเลส ในชีวิตประจำวัน มีทางเดียวเท่านั้น คือ การอบรมเจริญปัญญา

ควรที่จะได้คิดถึงประโยชน์ของการมีชีวิต คือ เพื่ออบรมเจริญปัญญา จากที่ไม่เคย เข้าใจความจริงจากที่เต็มไปด้วยความมืด คือ อวิชชา ก็จะค่อยๆ เข้าใจขึ้น สะสมความเข้าใจถูก เห็นถูก ในสภาพธรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่มีจริง ยิ่งขึ้น เมื่อมีปัญญาเจริญขึ้นก็จะทำให้เป็นผู้มีชีวิตที่ดำเนินไป ด้วยปัญญา ตามที่ตนมี เปลี่ยนจาก ที่เคยอยู่ด้วยกิเลส ประการต่างๆ มากมาย มีโลภะ โทสะ โมหะ เป็นต้น เป็นผู้อยู่ด้วยปัญญา และกุศลที่เพิ่มขึ้น ชีวิตเป็นสุข ขึ้นด้วยปัญญา ปัญหาจะค่อยๆ น้อยลง เมื่อปัญญาเจริญขึ้น เพราะแท้ที่จริงแล้ว กิเลสเป็นต้นเหตุของทุกข์ เป็นต้นเหตุของปัญหาทั้งปวง ปัญหามาจากจิต ซึ่งเป็นไปกับด้วยกิเลสทั้งนั้น ปัญหาไม่ได้มาจากกุศลจิตเลย
กล่าวโดยสรุปแล้ว ปัญหาชีวิตโดยมาก เกิดจากกิเลสที่เคยสะสมมา อย่างเนิ่นนานในสังสารวัฏฏ์ เพราะยังดับกิเลสไม่ได้ ปัญหาของชีวิต ก็คงมีอยู่เรื่อยๆ จากเรื่องหนึ่งก็ไปอีกเรื่องหนึ่ง ทำให้เห็นถึง ความน่ากลัวของสังสารวัฏฏ์ ว่า เต็มไปด้วยทุกข์จริงๆ หนทางเดียวที่จะเป็นไปเพื่อความพ้นจากทุกข์ได้ ก็คือ การอบรมเจริญปัญญา ครับ.
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ํํญาณินทร์
วันที่ 10 เม.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
peem
วันที่ 10 เม.ย. 2559

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
hetingsong
วันที่ 12 เม.ย. 2559

มีปัญหานี้เหมือนกันครับ

ผมแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวนะครับ น้องมาปรึกษาแสดงว่าเห็นว่าสภาพที่เกิดเป็นทุกข์ ต้องการหาทางพ้นทุกข์ ผมก็เช่นเดียวกันครับ เข้ากับใครไม่ได้จนเป็นทุกข์มากๆ จึงหาที่พึ่งของใจ ได้ฟังธรรมจากมูลนิธิฯ จึงทำให้ความทุกข์คลายด้วยความเข้าใจ มีความเปลี่ยนแปลงคือมีปฏิสัมพันธ์ต่อสิ่งรอบข้างดีขึ้น คือจะมองอะไรอย่างเข้าใจมากขึ้น แล้วเราจะมีอาการเหมือนกับที่เขาบอกกันว่า รู้แล้ว ตื่นแล้ว และก็เบิกบานครับ ทุกวันนี้รู้สึกขอบคุณมูลนิธิฯมากที่เผยแผ่พระธรรมที่ตรง และจริง ทำให้พ้นทุกข์ได้จริงๆ ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
wannee.s
วันที่ 13 เม.ย. 2559

มีแต่พระธรรมเท่านั้นที่จะเปลี่ยนเราได้ เพราะปัญญาทำให้เรารู้ว่าอะไรไม่ดี อะไรดี อะไรควรเจริญ อะไรควรละ เพราะฉะนั้น การมีชีวิตอยู่ด้วยปัญญาประเสริฐที่สุด คือการทำดีศึกษาพระธรรมต่อไปค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
thilda
วันที่ 16 เม.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
Pugwaree
วันที่ 3 ต.ค. 2559

ขออนุญาตเป็นกำลังใจให้นะคะ หนูก็เป็นอีกคนนึงที่ประสบปัญหาคล้ายกับพี่มากๆ ขอให้พี่สู้ๆ ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
worrasak
วันที่ 4 ต.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ