อบายมุข
มีผู้แสดงความเห็นว่า การพนันนั้นถ้ารัฐเข้าดำเนินการและจัดระบบให้รัดกุม ก็จะเป็นทางนำรายได้เข้ารัฐได้เป็นอย่างดี หลายประเทศในโลกก็ดำเนินการจนได้ผลดีมาแล้ว
ถ้าเป็นเช่นนั้น พระพุทธพจน์ที่ว่าการพนันเป็นอบายมุขก็จะผิดไป
เรื่องนี้จะอธิบายว่าอย่างไร คนจึงจะเข้าใจได้ถูกต้อง
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ดูก่อนคฤหบดีบุตร โทษในการเล่นการพนันอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท ๖ ประการ คือ
ผู้ชนะย่อมก่อเวร ๑
ผู้แพ้ย่อมเสียดายทรัพย์ที่เสียไป ๑
ความเสื่อมทรัพย์ในปัจจุบัน ๑
ถูกมิตรอำมาตย์หมิ่นประมาท ๑
ถ้อยคำของคนเล่นการพนัน ซึ่งไปพูดที่ประชุมฟังไม่ขึ้น ๑
ไม่มีใครประสงค์จะแต่งงานด้วย เพราะเห็นว่า ชายนักเลงเล่นการพนันไม่สามารถจะเลี้ยงภรรยา ๑
คำว่า อบายมุข หมายถึง ทางแห่งความเสื่อม ทางแห่งความพินาศ
สำหรับอบายมุข 6 นั้น พระองค์ทรงแสดงถึง ความเสื่อมโภคทรัพย์ ทรัพย์สิน แต่ในความเป็นจริง พระธรรมมีนัยและอรรถลึกซึ้ง พระสูตร จึงลึกซึ้งด้วยอรรถ ไม่ใช่เพียงแค่ความเสื่อมในโภคทรัพย์เท่านั้น แม้ความเสื่อมในประโยชน์สุขในโลกนี้ เช่น เสื่อมเสียชื่อเสียง อายุ เสื่อมญาติ ฯลฯ ความเสื่อมประการต่างๆ ก็เพราะ อบายมุข 6 ประการ และที่สำคัญที่สุด ทำให้เสื่อมจากคุณธรรม เสื่อมจากคุณความดี และเสื่อมจากปัญญา ในขณะที่เจริญอบายมุข 6 ครับ
เมื่อเสื่อมจากคุณความดี สิ่งที่เจริญขึ้น คือ อกุศลกรรมธรรม และ สิ่งที่ชั่วร้ายประการต่างๆ รวมทั้ง ผลของกรรมที่ไม่ดี ก็มีโอกาสให้ผลมากขึ้น เพราะการกระทำที่ไม่ดีใน ปัจจุบันด้วย.
จะเห็นได้ว่า ไม่เกี่ยวข้องกับรายได้ที่จะได้เพิ่มขึ้นของรัฐ แต่ อบายมุข นำมาซึ่งความเสื่อมประการต่างๆ ตามที่กล่าวมา ครับ ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระพุทธพจน์ เป็นคำจริง เป็นประโยชน์เกื้อกูล เป็นประโยชน์แก่ผู้ที่ได้ฟังได้ศึกษาเป็นอย่างยิ่ง แม้อบายมุข พระองค์ก็ทรงแสดงตามความเป็นจริง เป็นทางเสื่อมแห่งโภคทรัพย์ เสื่อมจากคุณธรรม ไม่มีประโยชน์เลยแม้แต่น้อย มีแต่โทษเท่านั้น ผู้ที่หวังความเจริญในชีวิต จึงไม่เสพอบายมุข ไม่เล่นการพนัน ถ้าจะถามผู้ที่จะส่งเสริมให้มีการเล่นการพนัน ว่า "จะให้ลูกหลาน ครอบครัวของท่านเล่นหรือไม่?" ถ้าไม่ต้องการให้ลูกหลานครอบครัวของตนเองเล่น แล้วทำไมจะส่งเสริมให้คนอื่นเล่น? ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...