การสะสมเหตุถูกย่อมได้รับผลที่ถูกตามมาอย่างแน่นอน

 
ธรรมทัศนะ
วันที่  3 ก.พ. 2550
หมายเลข  2769
อ่าน  983

ส่วนใหญ่มักจะเข้าใจว่า การปฏิบัติธรรมคือต้องทำอย่างนั้นหรืออย่างนี้ เมื่อก่อนผมก็เป็นเข่นนี้เหมือนกันครับ ไปสำนักโน้นบ้าง ไปสำนักนี้บ้าง เพื่อต้องการอยากรู้ว่า สำนักนั้นๆ เขาสอนว่าอย่างไร ให้ทำอย่างไร เพราะส่วนใหญ่ที่สอนธรรมมะ ก็สอนในลักษณะอย่างนี้เกือบจะทั้งหมด จึงเกิดความยึดถือว่าถ้าจะปฏิบัติธรรมต้องทำอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจผิดการที่จะเข้าใจพระธรรมได้ดีและถูกต้องนั้น ต้องมีความอดทนมากๆ และก็ต้องใจเย็นๆ ไม่รีบร้อน ไปตามลำดับขั้น ทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดเลยที่เกิดขึ้นมาโดยไม่อาศัยเหตุปัจจัย เมื่อเหตุคือ ยังไม่เข้าใจ ผลจะให้เกิดความเข้าใจโดยไม่ได้ศึกษา ก็เป็นไปไม่ได้เลย การปฏิบัติธรรมเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ค่อยๆ ศึกษา ทำความเข้าใจไปเรื่อยๆ นะครับ การสะสมเหตุถูก ย่อมได้รับผลที่ถูกตามมาอย่างแน่นอนครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
pornchai.s
วันที่ 5 ก.พ. 2550

การปฏิบัติธรรม โดย การนั่งสมาธิ ที่เป็นความนิยมอยู่ในขณะนี้ ทั่วโลก ถ้า กระทำไปโดยเข้าใจว่าเป็น วิธีที่จะดับกิเลสได้ หรือ เข้าใจว่า ทำให้เกิดปัญญารู้แจ้งพระนิพพานก็เป็นความเห็นผิด (มิจฉาทิฎฐิ) เป็นมิจฉาสมาธิ เป็นการกระทำไปโดยความไม่รู้ เมื่อกระทำเหตุด้วย ความไม่รู้ ผล ก็คือความไม่รู้ เมื่อ เหตุคือ มิจฉาทิฏฐิ ผลของมิจฉา-ทิฏฐิ คือ การเกิดในนรก หรือ ถ้ามาเกิดมาเจอ พระพุทธเจ้า เขาเหล่า นั้น ก็จะเป็น

ฝ่ายตรงข้ามกับ พระพุทธเจ้า เช่น พรรคพวกของ ครูทั้ง 6 ที่เป็นมิจฉาทิฏฐิ ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
chatchai.k
วันที่ 28 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ