มารดาผู้ให้กำเนิดลูกชายนั้นชื่อว่าเป็นผลของกุศลแรง?
เหมือนเคยรู้มาว่ามารดาที่ให้กำเนิดบุตรชายหรือมีบุตรชายมากๆ นั้นถือว่า เป็นลาภอันประเสริฐแก่ตระกูล เป็นบุญของมารดาบิดา แต่ถ้ามีลูกหญิงมากๆ นั้นเป็นผลของอกุศลกรรมอย่างอ่อน เมื่อมีลูกหญิงจึงไม่สามารถสืบตระกูลของตนได้
การเกิดเป็นมนุษย์จะเป็นเพศใดอยู่ที่ปัจจัยหลายอย่าง คือ เพราะฉันทะความพอใจในเพศนั้น ๑ เพราะกุศลกรรมที่มีกำลังอ่อน ๑ เพราะอกุศลกรรม คือ การผิดศีลข้อกาเมฯ ๑ ตามหลักฐานที่พระพุทธองค์แสดงไว้เท่าที่พบมี ๓ ประการนี้ อธิบายว่า ถ้าผู้หญิงพอใจในความเป็นหญิง ชอบเพศตรงกันข้าม ย่อมไม่พ้นความเป็นหญิงไปได้ ข้อต่อมาคือการเกิดเป็นเพศชายย่อมเกิดขึ้นด้วยผลของกุศลที่มีกำลัง การเกิดเป็นหญิงย่อมเกิดขึ้นด้วยผลของกุศลที่มีกำลังอ่อน และผู้ชายที่กระทำกรรมผิดบุตรภรรยาผู้อื่น ผลของอกุศลกรรมอย่างเบาทำให้เกิดเป็นหญิง หรือเป็นกระเทย
เชิญคลิกอ่านได้ที่ เรื่องเพศกลับ ๒ เรื่อง [มหาวิภังค์]
การเกิดเป็นทุกข์ ไม่ว่าจะเกิดเป็นหญิงหรือชาย ก็ทุกข์ทั้งนั้น การได้ลูกชาย ลูกหญิง ก็มีเหตุ มีปัจจัย พระพุทธเจ้าตรัสสอนไว้ว่า คนเราจะดีจะชั่วไม่ได้อยู่ที่ชาติกำเนิด ไม่ได้อยู่ที่การถือครองเพศ แต่อยู่ที่การทำกรรมดีหรือกรรมชั่ว เพราะคนเราจะดีหรือชั่วก็อยู่ที่การกระทำของตนเองเท่านั้น
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
การได้เกิดมาเป็นมนุษย์ จะเป็นหญิงหรือชาย ก็ตาม ถ้าหากว่ามีโอกาสที่จะได้ศึกษาพระธรรมฟังพระธรรม อบรมเจริญปัญญา พร้อมทั้งเจริญกุศลประการต่างๆ นั่น ย่อมเป็นชีวิตที่มีค่าเป็นอย่างมาก เพราะเหตุว่าไม่มีใครสามารถทราบได้ว่าจะละจากโลกนี้ไป (ตาย) เมื่อใด และเมื่อละจากโลกนี้ไปแล้ว จะไปเกิดในภพภูมิใด ถ้าหากไปเกิดในอบายภูมิ ย่อมหมดโอกาสที่จะได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม พิจารณาพระธรรม ไม่มีโอกาสที่จะอบรมเจริญปัญญาเพื่อรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริงได้ ฉะนั้นแล้ว แทนที่จะคิดถึงเรื่องอื่นก็ควรที่จะได้พิจารณาว่า ไหนๆ ก็จะต้องตายอยู่แล้ว การเป็นคนดี และ ฟังพระธรรมให้เข้าใจขึ้น ย่อมเป็นสิ่งที่สำคัญครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...