ตอนนี้คนหลงผิด เพราะเข้าใจคำสอนของศาสนาผิดไปแล้วรึเปล่าครับ

 
backerssky
วันที่  26 เม.ย. 2559
หมายเลข  27716
อ่าน  1,078

เนื่องจากตอนนี้ผมเห็นคนตีความ ผิดเยอะมาก

//www.bebestnews.com/14340

มีแต่คนชื่นชม สาธุกันเยอะมาก ด้วยความที่ว่าผมไม่ค่อยได้ศึกษาจนแตกฉานในเรื่องนี้ ขอความเห็นของผู้มีปัญญาด้วยครับ

ผมพูดตรงๆ เรื่องนี้ผมต้องการเอาชนะ ด้วยเพราะเรื่องแบบนี้สำคัญใน การสอนลูกผม


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 26 เม.ย. 2559

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

เรื่อง พระภิกษุดูแลมารดา ควรพิจารณาถูกต้องตามความเป็นจริง

พระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติสิกขาบทไว้ มีความละเอียด คือ ละเอียดลงไปถึงใจที่เป็นสภาพธรรม ที่เป็นนามธรรม ที่ไม่สามารถเห็นด้วยตาเปล่า แต่เห็นด้วยตาปัญญา จึงมีความละเอียดลึกซึ้ง แม้แต่พระภิกษุ การจับต้องกายหญิง หากจับด้วยอำนาจความยินดีพอใจ ติดข้อง กําหนัด ย่อมต้องอาบัติสังฆาทิเสส ถ้าพระภิกษุมีความยินดี เอาไม้เท้าไปถูกเสื้อของผู้หญิง หรือกระเป๋า เป็นอาบัติทุกกฏ ถ้าพระภิกษุมีความยินดีเอาไม้เท้าไปถูกเนื้อของผู้หญิง เป็นอาบัติถุลลัจจัย ถ้าพระภิกษุมีความยินดีเอามือไปจับเนื้อตัวผู้หญิง เป็นอาบัติสังฆาทิเสส ถ้าเสพเมถุนเป็นอาบัติปาราชิก

เพราะฉะนั้น หากไม่มีความยินดี กำหนัด ที่จงใจ จะไปจับมือมาตุคาม (ผู้หญิง) ก็ไม่ต้องอาบัติ เพราะ ไม่มีจิตยินดี จงใจจับต้อง ครับ

การถูกต้องกายหญิงที่เป็นมารดา พี่สาว น้องสาว ไม่เป็นอาบัติสังฆาทิเสส แต่เป็นอาบัติทุกกฏ เพราะการจับต้องกายหญิงด้วยความรักอาศัยเรือน คือ ด้วยความรักในฐานะของมารดา หรือ ด้วยความรักฉันน้องสาว-พี่สาว

ดังนั้น พระภิกษุไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะถูกต้องกายหญิงด้วยเจตนา ที่จะสัมผัส ควรเป็นหน้าที่ของคฤหัสถ์ หรือ แจ้งกับคฤหัสถ์ท่านอื่นมาดูแล จึงจะถูกต้องตามพระธรรมวินัย ครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
backerssky
วันที่ 27 เม.ย. 2559

ขอบคุณครับ

แต่ ในข้อความ เพราะฉะนั้น หากไม่มีความยินดี กำหนัด ที่จงใจ จะไปจับมือมาตุคาม (ผู้หญิง) ก็ไม่ต้องอาบัติ เพราะ ไม่มีจิตยินดี จงใจจับต้อง ครับ

เนื่องด้วย การตีความของความหมาย คำว่า ไม่มีจิตยินดี อันนี้ ใช้ได้กับพระอริยะ ใช่หรือไม่ครับ

ขอรบกวนด้วยครับ อยู่ใน ธรรม หมวดใดครับ ผมจะได้นำไปบอกคนใกล้ตัว

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
khampan.a
วันที่ 27 เม.ย. 2559

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

-ที่ว่าไม่มีความจงใจที่จะไปจับมาตุคามนั้น มุ่งหมายถึงขณะที่ไปถูกตัวมาตุคามโดยไม่เจตนา อาจจะกระทำอะไรต่างๆ มีเจตนาที่จะทำอย่างอื่น แต่กายของพระภิกษุไปถูกตัวมาตุคาม เช่น ขณะรับบิณฑบาต เปิดฝาบาตรเพื่อรับอาหารแต่ขณะนั้นมือของพระภิกษุกลับไปถูกมือของมาตุคามอย่างนี้ ไม่เป็นอาบัติ นี้เป็นตัวอย่างของการไม่มีความจงใจที่จะจับต้องมาตุคาม กล่าวได้ทั่วไป ไม่ได้มุ่งเฉพาะพระอริยบุคคล เมื่อกล่าวถึงความติดข้องในกาม แล้ว พระอนาคามีบุคคล ดับได้ และที่จะดับความติดข้องในภพได้ ต้องถึงความเป็นพระอรหันต์
-พระภิกษุสามารถเลี้ยงมารดาได้ ไม่ผิดวินัยพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงอนุญาต แต่กิจบางอย่างขัดกับพระวินัย เช่น การเช็ดตัวมารดาที่ป่วยไข้ซึ่งเป็นเพศสตรี ไม่ควร เนื่องจากมีพระวินัยบัญญัติว่า พระภิกษุจะถูกต้องกายหญิงไม่ได้ แม้เป็นกายของมารดาก็ไม่ได้ เป็นอาบัติเช่นกัน แต่เป็นอาบัติเบา ดังนั้น ควรที่จะได้พิจารณาว่า ถ้าประสงค์จะประพฤติพรหมจรรย์ให้บริสุทธิ์ ควรทำความเคารพในพระวินัยอย่างยิ่ง ไม่ก้าวล่วงพระบัญญัติจึงจะเป็นผู้เจริญในพระธรรมวินัยนี้ ครับ

ขอเชิญคลิกอ่านข้อความจากพระวินัยปิฎกได้ที่นี่ครับ

อาบัติจากการแตะต้องกายหรือของเนื่องด้วยกายของสตรี [มหาวิภังค์]

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ํํญาณินทร์
วันที่ 27 เม.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ