ปัญญาคือเจตสิกหรือไม่
สติเป็นเจตสิก แล้วปัญญาใช่หรือไม่
ปัญญามีสภาพธรรมเป็นอย่างไร ครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ปัญญา เป็นสภาพธรรมที่มีจริง เป็นเจตสิก คือ อโมหเจตสิก เป็นสภาพธรรมที่เข้าใจถูก เห็นถูก ในภาษาไทยไม่มีคำว่าปัญญา แต่มีคำว่า ความเข้าใจถูกเห็นถูก ดังนั้น ปัญญา ก็คือ ความเข้าใจที่ถูกต้องตรงตามความเป็นจริง กิจหน้าที่ของปัญญา คือ เข้าใจถูก ซึ่งมีหลายระดับขั้นมาก กล่าวคือ ปัญญาขั้นการฟังพระธรรมเข้าใจ ขณะที่เข้าใจ ก็เป็นปัญญา เป็นความเข้าใจถูกเห็นถูก ปัญญาที่เชื่อกรรมและผลของกรรม เรียกว่า กัมมัสสกตาปัญญา ปัญญาระดับสมถภาวนาที่เป็นไปในการอบรมความสงบของจิต เรียกว่า ฌานปัญญา ปัญญาที่เกิดพร้อมสติระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมในขณะนี้ที่เป็นสติปัฏฐาน ก็เป็นปัญญาเช่นกัน จนกระทั่งถึงปัญญาในระดับที่เป็นโลกุตตระ สามารถดับกิเลสได้ตามลำดับ ทั้งหมดคือความเข้าใจถูกเห็นถูก การที่ปัญญาจะเจริญขึ้นได้ จะเกิดขึ้นได้ นั้น ต้องอาศัยการอบรมจากการฟัง การศึกษาพระธรรม พิจารณาไตร่ตรองในสิ่งที่ได้ยินได้ฟัง ที่สำคัญ คือไม่ขาดการฟังพระธรรม ปัญญาก็จะค่อยๆ เจริญขึ้นตามเหตุตามปัจจัย โดยที่ไม่มีใครไปบังคับหรือไปทำอะไรได้ ซึ่งจะต้องเป็นบุคคลที่เคยเห็นประโยชน์ของความเข้าใจพระธรรม สะสมเหตุที่ดีมาแล้วในอดีตจึงได้ฟัง ได้ศึกษา ได้สะสมปัญญาต่อไป แต่ถ้าเป็นบุคคลผู้ไม่มีศรัทธา ไม่เห็นประโยชน์แล้ว แม้จะมีเสียงพระธรรมอยู่ใกล้ๆ ก็ไม่ฟัง ครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เมื่อกล่าวถึงคำอะไร ก็ต้องมีความเข้าใจในคำนั้นๆ ให้ชัดเจนจริงๆ ก่อนอื่นก็ต้องกล่าวถึง สติ กับ ปัญญา ต่างก็เป็นสภาพธรรมที่มีจริง เป็นธรรมที่เกิดขึ้นเป็นไป เป็นนามธรรม ไม่ใช่รูปธรรม สติ เป็นสภาพธรรมที่ระลึกเป็นไปในกุศล เกิดร่วมกับจิตที่ดีงามทุกประเภทไม่มีเว้น ส่วนปัญญา เป็นความเข้าใจถูกเห็นถูก, สติเกิดโดยไม่มีปัญญาเกิดร่วมด้วยก็ได้ แต่ทุกครั้งที่ปัญญาเกิดจะไม่ปราศจากสติ ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...