บันเทิงในธรรมที่บ้านน้องมล

บันเทิงในธรรมที่บ้านน้องมล ณ หนองมน

วันที่ 2 พ.ค. 59 มีโอกาสไปร่วมสนทนาธรรมที่บ้านเหมืองทอง ของคุณสมบูรณ์ ผดุงไทยธรรม อดีตนายก อบต.ตำบลเหมือง อ.เมือง ชลบุรี พี่ชายของน้องมลฑา และน้องต่อตระกูล วิเศษสุมน ที่มีจุดเริ่มต้นจากกุศลจิตของพี่น้องทั้ง 6 คน ที่น้องสาวคนเล็กคือน้องมลได้ฟังธรรมของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าที่นำมาเผยแพร่โดยท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ เข้าใจแล้ว เห็นว่าการเข้าใจความจริงที่ทรงแสดงไว้นั้นเป็นประโยชน์แก่ชีวิตอย่างยิ่ง เมื่อเข้าใจและประพฤติปฏิบัติตามความถูกต้องที่ได้ศึกษาจากพระไตรปิฎก ทำให้ผิดแปลกไปจากความเชื่อเดิมๆ ที่เคยไปทำบุญที่วัด สวดมนต์ไหว้พระ เวียนเทียนในวันสำคัญตามประเพณีที่เคยทำ แต่น้องมลกับน้องต่อกลับยึดถือประเพณีใหม่ คือ มาฟังธรรมที่มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนาบ่อยๆ ทุกวันหยุดและวันสำคัญทางศาสนา เวลาอยู่บ้านก็เปิดธรรมฟังตลอดเพื่อสะสมความเข้าใจให้เพิ่มขึ้นๆ แถมยังเอาซีดีธรรมไปฝากให้พี่ๆ ได้ฟังด้วย ทำให้พี่ๆ เป็นห่วงน้องมล เตือนให้ถอยหลังออกมา 1 ก้าว แต่น้องมลก็ยืนยันจะก้าวต่อไปและอยากจะเกื้อกูลพี่ๆ ด้วยการจัดสนทนาธรรมที่บ้านเมืองชล เพื่อให้พี่ๆ และญาติๆ ได้ฟังและซักถามให้เข้าใจสิ่งที่น้องมลได้เข้าใจแล้ว เพื่อจะได้มีพระธรรมเป็นที่พึ่งอันประเสริฐ และเมื่อพี่ๆ ได้ทราบเจตนารมณ์ของน้องมล ก็ยินดีเต็มใจมาช่วยเต็มที่ ได้ยินพี่ๆ ที่มาช่วยกันจัดสถานที่และเตรียมอาหารพูดกันในวันก่อนจัดงานว่า ที่มีวันนี้เพราะน้องมล เห็นพี่น้องรักใคร่ ช่วยเหลือเกื้อกูลกันก็ปีติอย่างยิ่ง ขออนุโมทนากับกุศลจิตของพี่น้องค่ะ

โชคดีได้มีโอกาสไปก่อนล่วงหน้า 1 คืน เพราะพาน้องนภา จันทรางศุ คนสวยใจบุญไปจัดดอกไม้ ท่านนายกจัดให้นอนพักที่บ้านของท่านเลย จึงได้เห็นบรรยากาศของบ้านเหมืองทองยามเย็น ค่ำคืน และยามเช้า อดคิดถึงความหลังตอนเด็กๆ ที่อยู่ในชนบทห่างไกลไม่ได้ กลางคืนได้ยินเสียงจักจั่นเรไรกรีดร้องระงมเป็นพักๆ ลมพัดเย็น ฟ้ามืดเห็นดาวเต็มฟ้า เดินชมบริเวณบ้านที่จะทำเป็นรีสอร์ท มีกลุ่มบ้านไม้เรือนไทยหลายกลุ่ม มีสระบัว ต้นไม้ใหญ่ ดูสวยงามสงบ และได้สนทนาธรรมกับสหายธรรมที่ตามมาช่วยน้องมลเตรียมงานที่ระเบียงบ้านกลางสระบัว สุขใจจังค่ะ

สถานที่จัดสนทนาธรรมเป็นเรือนไทยหลังใหญ่ 2 ชั้น ท่านนายกสร้างไว้เป็นที่ไหว้พระสวดมนต์ นั่งสมาธิของกลุ่มญาติและเพื่อนๆ ได้ทราบว่าท่านเป็นคนจิตใจกว้างขวาง โอบอ้อมอารี เป็นที่พึ่งของทุกคน สนุกสนาน ก็มีใครคิดจะสร้างบ้านเพื่อให้คนอื่นมาใช้บริการ มีแต่หวงแหนไม่อยากแบ่งปันกับคนอื่น

วันที่ 2 พ.ค. 59 เราตื่นแต่เช้าตั้งใจจะชมพระอาทิตย์ขึ้น แต่ก็สายเกินไป เพราะแดดแรงแล้ว ได้ยินเสียงทำอาหารที่โรงครัว ทุกคนตื่นเต้นที่จะได้ต้อนรับท่านอาจารย์และคณะ เราช่วยรับแขกในฐานะที่มาก่อน ได้เห็นสหายธรรมนั่งรถตู้ รถส่วนตัว มอเตอร์ไซค์รับจ้าง รถรับจ้าง ดูคึกคัก ประเพณีฟังธรรมให้เข้าใจนี่ดีจริงๆ น่าจะเผยแพร่ให้สืบต่อสู่อนุชนรุ่นหลังปฏิบัติตาม

เริ่มสนทนาธรรมภาคเช้าตอน 10 โมงเช้า น้องมลเล่าให้ที่ประชุมฟังถึงที่มาของการสนทนาธรรมครั้งนี้ ท่านอาจารย์เริ่มอธิบายให้เข้าใจธรรมตั้งแต่เริ่มต้น ธรรม คือ สิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏเดี๋ยวนี้ แล้วให้ผู้ฟังตอบคำถามว่า มีอะไรเป็นธรรมบ้าง ผู้ฟังใหม่ๆ ตอบไม่ได้ ต้องอธิบายเพิ่มและให้คิดเพื่อเป็นความเข้าใจของตนเอง จนทุกคนเริ่มเข้าใจ ท่านอาจารย์บอกภายหลังว่า ถ้าเขาเข้าใจว่า ธรรมคืออะไรแล้ว ศึกษาต่อไปก็จะเข้าใจชัดยิ่งขึ้นว่า ธรรมทั้งหลายไม่ใช่ตัวตนอย่างไร ถ้าเริ่มต้นด้วยคำหรูๆ เช่น ปฏิจจสมุปบาท แต่ไม่เข้าใจว่า ธรรมคืออะไร ก็ไม่สามารถเข้าใจต่อไปได้ นอกจากจะดีใจว่าได้พูดได้ฟังสิ่งที่ยากๆ โดยไม่เข้าใจอะไรเลย นอกจากได้ยินชื่อ

การสนทนาธรรมครั้งนี้มีการถ่ายทอดสด สามารถดูรายละเอียดย้อนหลังได้ มีคำถามเกี่ยวกับพระวินัยหลายข้อ เพราะหลายท่านเป็นคนวัด คือ ทำบุญด้วยการถวายเงินกับพระ โดยไม่เข้าใจว่า พระวินัยกล่าวไว้ว่าอย่างไร (ท่านที่สนใจสามารถคลิกชมบันทึกการถ่ายทอดสดในวันดังกล่าวได้ที่นี่...บันทึกการถ่ายทอดสดที่ อ.หนองมน จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ ๒ พ.ค. ๒๕๕๙)

หลังรับประทานอาหารกลางวันที่พี่น้องของน้องมลช่วยกันจัดเตรียม และสหายธรรมหลายท่านนำมาร่วมเจริญกุศล สนทนาธรรมอีกครั้งในตอนบ่ายสอง จบการสนทนาเวลา 4 โมงเย็น

หลังจบการสนทนา ท่านอดีตนายก อบต. และญาติพี่น้องมากราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ และยอมรับว่า ศึกษาธรรมมาหลายแบบ แต่แบบนี้ไม่เคยฟังมาก่อน ต่อไปก็จะศึกษาเพื่อให้เข้าใจคำสอนเพื่อจะรู้จักพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าให้มากขึ้น ขออนุโมทนากับน้องมลที่ได้เกื้อกูลพี่ๆ และทุกท่านอย่างที่ตั้งใจไว้ เพราะทุกคนเคยได้ทำบุญที่ประกอบด้วยปัญญามาด้วยกันจึงได้มีพบสิ่งที่หาได้ยากในโลก คือ การอุบัติขึ้นของพระพุทธเจ้า การได้เกิดมาเป็นมนุษย์ การมีอายุยืนยาว และการได้ฟังพระสัทธรรม

ขอนอบน้อมแด่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้นด้วยเศียรเกล้า

กราบเท้าท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ผู้อุทิศตนเพื่อศึกษาและเผยแพร่พระธรรมให้รุ่งเรืองแผ่ไพศาลต่อไป