ธรรมที่เป็นไปเพื่อความเบื่อหน่าย สละ ละ คลาย

 
hetingsong
วันที่  12 พ.ค. 2559
หมายเลข  27783
อ่าน  1,011

ธรรมของพระพุทธองค์มีลักษณะเป็นไปเพื่อให้เกิดความเบื่อหน่าย สละ ละ คลายจากธรรมทั้งหลาย

การสละ ละ คลาย ในขั้นต้น จากสิ่งของ เงินทอง วัตถุกามต่างๆ คือทาน

สละ ละ คลาย ขั้นกลาง จากเวทนา สัญญา สังขารขันธ์ คือศีล

สละ ละ คลาย ขั้นสูง จากความยึดถือตัวตนว่าเป็นอัตตา คือภาวนา

ทั้งหมดนี้สามารถละคลายได้ตามลำดับขั้นตามความเพิ่มพูนขึ้นของปัญญา (ความเห็นถูก)

ความเข้าใจต่อธรรมดังกล่าวข้างต้น ถูกต้องหรือไม่ ขอผู้รู้ช่วยชี้แนะด้วยครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 14 พ.ค. 2559

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สละละคลายกิเลส ด้วยปัญญาความเข้าใจถูก ในขั้นการฟัง คือ ค่อยๆ รู้ขึ้น ทาน ยังไม่สามารถละความติดข้องในสิ่งต่างๆ ได้จริง เพียงชั่วขณะ การละกิเลสอันดับแรก คือ ละความเห็นผิดว่าเป็นเราเป็นสัตว์ บุคคล ไม่ใช่การละ เวทนา สัญญา สังขาร แต่ ละกิเลสเป็นไปตามลำดับด้วยปัญญาความเข้าใจถูกเริ่มจากการเข้าใจขั้นการฟังว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา จนปัญญาเกิดรู้ความจริงก็ค่อยๆ ละความไม่รู้และความเห็นผิด จนละกิเลสไปตามลำดับครับ ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 14 พ.ค. 2559

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระพุทธศาสนา เป็นคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่ละคำที่พระองค์ตรัสนั้น เป็นไปเพื่อปัญญา ความเข้าใจถูกเห็นถูกโดยตลอด ปัญญานี้เอง ขัดเกลาละคลายความไม่รู้ ความเห็นผิดและกิเลสทั้งหลาย
จุดประสงค์ของการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม ก็เพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูก ขัดเกลาละคลายความไม่รู้และกิเลสทั้งหลาย ซึ่งไม่ใช่ด้วยความหวังความต้องการ หรือ ด้วยความเป็นตัวตนที่ไปทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด แต่เป็นกิจของปัญญาที่ทำกิจหน้าที่ จนกว่าจะถึงความสมบูรณ์พร้อมในที่สุด ถ้าไม่มีปัญญา ก็ไม่สามารถละความไม่รู้และกิเลสทั้งหลายได้ ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
hetingsong
วันที่ 14 พ.ค. 2559

ขอบพระคุณในความกรุณาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
peem
วันที่ 14 พ.ค. 2559

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ํํญาณินทร์
วันที่ 14 พ.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
wannee.s
วันที่ 18 พ.ค. 2559

หนทางเดียวที่จะสละกิเลส สละความยึดมั่นถือมั่นในตัวตน ก็ต้องอบรมเจริญสติปัฏฐานค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ