สรุปธรรมบ้านธัมมะ
สรุปธรรมท้ายรายการบ้านธัมมะ วันที่ ๖ เม.ย., ๑๑ และ ๑๘ พ.ค. ๒๕๕๙
# ศึกษาธรรมแล้วอย่าเพิ่งไปไหนไกล ต้องกลับมาที่สภาพธรรมที่กำลังปรากฏขณะนี้ด้วยความเข้าใจที่ถูกต้อง เริ่มเห็นความว่างเปล่าจากสาระ ความเป็นสัตว์บุคคล ตัวตน เพราะเหตุว่าเพียงเกิดขึ้นและดับไปไม่เหลือเลย
# การดำรงอยู่ของพระพุทธศาสนาขึ้นอยู่กับความเข้าใจธรรม และการประพฤติปฏิบัติตามธรรมของชาวพุทธ หากบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญให้ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ แต่ชาวพุทธไม่ได้เป็นชาวพุทธจริงๆ นั่นคือการหลอกตัวเอง สิ่งสำคัญที่สุดอยู่ที่ความตรงและความจริงใจของชาวพุทธ ที่มีความประพฤติที่แท้จริงทั้งทางกาย ทางวาจาและทางใจ ที่เห็นความสำคัญของการศึกษาและน้อมประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมอย่างถูกต้องตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
# ความรู้เริ่มเมื่อฟัง ฟังเพื่อละคลายความไม่รู้ เพื่อละคลายความติดข้อง และเพื่อชำระจิตที่ยึดมั่นว่าเป็นเรานั้น ค่อยๆ รู้ว่าเป็นธรรมมากขึ้น เมื่อสิ่งที่ปรากฏเกิดขึ้นและเต็มไปด้วยความไม้รู้ และจะเข้าใจสิ่งที่กำลังปรากฏต่อไปได้อย่างไร
# ถ้าไม่มีความเข้าใจแม้เพียงเล็กน้อยเดี๋ยวนี้ แล้วจะมีความเข้าใจต่อๆ ไปได้อย่างไร
# แค่เห็นเกิดขึ้นแล้วไม่รู้ความจริงว่าเห็นเป็นธรรมะ โรคเกิดแล้ว และสะสมโรคนี้ไปทุกวันทุกขณะโดยไม่รู้ตัวเลย สะสมมากขึ้นจนกระทั่งโรคนั้นล่วงออกมาเป็นทุจริตต่างๆ ทางกาย ทางวาจา ถึงจะรู้ตัวว่าเป็นโรคที่จะต้องรักษาด้วยความเข้าใจธรรมะ
# พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นนายแพทย์ผู้ฉลาดที่สุด เพราะทรงรู้จักโรค ทรงรู้จักยารักษาโรคและทรงรู้จักวิธีการรักษาโรค คือ กิเลสทั้งหลายให้หายขาดได้โดยสิ้นเชิงเมื่อถึงความเป็นพระอรหันต์ เมื่อเป็นพระอรหันต์แล้วก็ไม่มีโรคทางใจ เมื่อปรินิพพานแล้วก็ไม่มีการเกิดอีก โรคทางกายก็ไม่มี สามารถรักษาทั้งโรคกายและโรคใจได้โดยสิ้นเชิง เพราะฉะนั้น หนทางเดียวที่จะค่อยๆ พ้นไปจากโรคได้ตามลำดับ คือ การเข้าใจความจริงของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏในขณะนี้นั่นเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่งในสังสารวัฏฏ์
# ยาที่สามารถรักษาโรคกิเลสได้ทุกโรค คือ ธรรมโอสถ หรือพระธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และการที่จะเข้าใจธรรมะได้ก็ต่อเมื่อได้ยินได้ฟังคำของพระองค์บ่อยๆ เนืองๆ
อนุโมทนาในคุณความดีและกราบบูชาคุณท่านอ. สุจินต์ บริหารวนเขตต์
อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ