ภิกษุรับอะไรได้บ้างจากคฤหัสถ์
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขอเรียนถามเพื่อการสรุปข้อมูล ดังนี้ค่ะ
๑. ภิกษุรับอะไรได้บ้างจากคฤหัสถ์
๒. ภิกษุรับอะไรไม่ได้บ้างจากคฤหัสถ์ หากรับมาจะมีความผิดตามพระธรรมวินัยข้อใด มีบทลงโทษอย่างไร (ขออ้างอิงด้วยค่ะ) หรือมีข้อผ่อนปรนแก้ไขประการใด
ขอบพระคุณที่อนุเคราะห์คำตอบค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
๑. ก่อนอื่นก็ต้องเข้าใจว่า พระภิกษุ คือ ใคร พระภิกษุ คือ ผู้ที่เห็นโทษเห็นภัยของกิเลส สละอาคารบ้านเรือน ทรัพย์สมบัติ วงศาคณาญาติ เพื่อศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญาขัดเกลากิเลสในเพศที่สูงยิ่ง คือ เพศบรรพชิต ที่จะต้องมีชีวิตที่เหมาะควรแก่เพศของตน จะมาทำอะไร มีอะไรต่างๆ เหมือนอย่างคฤหัสถ์ ไม่ได้เลย อย่างเช่น บุคคลในสมัยพุทธกาล เมื่อได้ฟังพระธรรมแล้วเห็นประโยชน์ของการขัดเกลากิเลสเพราะท่านสะสมมาที่จะเห็นโทษของอกุศล และมีปัญญารู้ว่า กุศลย่อมดีกว่าอกุศลและรู้ว่าปัญญาเท่านั้นที่จะดับอกุศลได้ เมื่อได้ฟังพระธรรมแล้ว ผู้ที่จะอุปสมบท (บวช) เป็นพระภิกษุ ย่อมเป็นผู้ที่จริงใจที่จะขัดเกลากิเลสในเพศบรรพชิตซึ่งสูงกว่าเพศคฤหัสถ์เพราะว่าก่อนจะบวชก็มีกิเลส คฤหัสถ์ก็มีกิเลส และคนที่จะบวชก็จะต้องเห็นโทษกิเลสเป็นสิ่งที่ละยากในเพศคฤหัสถ์ และสะสมอัธยาศัยใหญ่ที่จะสละ ละทุกอย่างที่เคยติดข้อง เพื่อเข้าใกล้ความสงบจากกิเลส นี้คือจุดประสงค์ของการเป็นพระภิกษุ ไม่ใช่เพื่อจุดประสงค์อื่นใดทั้งสิ้น และที่สำคัญ พระภิกษุทุกรูปในสมัยพุทธกาล ทั้งหมดและทุกยุคทุกสมัยด้วย ต้องเคารพในพระวินัยที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้ ซึ่งจะต้องศึกษาพระธรรมวินัยให้เข้าใจ น้อมประพฤติในสิ่งที่ถูกต้อง ละเว้นในสิ่งที่ผิดที่ขัดต่อความประพฤติเป็นไปของพระภิกษุอันเป็นเพศที่สูงยิ่ง
ชีวิตของพระภิกษุ ไม่ได้ทำอาชีพการงานประกอบธุรกิจเหมือนอย่างคฤหัสถ์ หุงข้าวประกอบอาหารเหมือนอย่างคฤหัสถ์ไม่ได้ ชีวิตของพระภิกษุจึงต้องเนื่องด้วยคฤหัสถ์ คือ อาศัยศรัทธาของชาวบ้าน ดังนั้น สิ่งที่คฤหัสถ์ควรถวายแก่พระภิกษุ เช่น อาหาร น้ำดื่ม จีวร ยารักษาโรค ร่ม รองเท้า น้ำปานะ (ตามพระวินัย) เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ พระภิกษุสามารถรับจากคฤหัสถ์ได้
๒. สิ่งที่ไม่ควรถวายแก่พระภิกษุ เช่น เงิน อุปกรณ์กันหนาวอย่างคฤหัสถ์ เช่น หมวกกันหนาว เสื้อกันหนาว อาหารดิบ เป็นต้น ถ้าถวายสิ่งเหล่านี้ จะทำให้พระภิกษุต้องอาบัติ มีโทษสำหรับตัวพระภิกษุ อาจจะเป็นเหตุส่งพระภิกษุลงอบายภูมิได้ (เพราะทำให้พระภิกษุต้องอาบัติ และพระภิกษุที่ต้องอาบัติแล้ว ไม่กระทำคืน ไม่แสดงอาบัติ เป็นผู้มีอาบัติติดตัว ถ้ามรณภาพไป (คือ ตายไป) ในชาติหน้าก็เกิดในอบายภูมิ น่ากลัวอย่างมาก) ถ้าเป็นเรื่องเงิน ก็ทำให้พระภิกษุท่านต้องอาบัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ ต้องสละเงินในท่ามกลางสงฆ์ แล้วแสดงอาบัติ จึงจะพ้นจากจากอาบัติได้ กรณีที่รับอาหารดิบ เช่นพวกเนื้อดิบ ปลาดิบ แล้วฉัน ก็เป็นอาบัติทุกกฏ แต่งกายเหมือนอย่างคฤหัสถ์ เป็นอาบัติทุกกฏ ต้องแสดงอาบัติต่อหน้าพระภิกษุด้วยกัน จึงจะพ้นจากอาบัติ นั้นๆ ได้
ประเด็นที่น่าพิจารณา คือ พระภิกษุ เป็นเพศที่สละจริงๆ มีชีวิตอยู่เพื่อศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญา ขัดเกลากิเลสในเพศบรรพชิตจริงๆ เป็นผู้ที่อยู่ง่าย เลี้ยงง่าย สันโดษ คฤหัสถ์ถวายเพียงอาหารบิณฑบาต ยารักษาโรค จีวร ตลอดจนถึงสิ่งที่เหมาะควรต่างๆ ที่ไม่ขัดกับพระธรรมวินัย ก็ย่อมเป็นสิ่งที่เหมาะควรเพียงพอที่จะทำให้ชีวิตของพระภิกษุเป็นไปได้แล้ว และที่สำคัญ พระภิกษุที่น้อมประพฤติตามพระธรรมวินัย ท่านย่อมรู้ตัวดีว่า อย่างไร ควรทำ อย่างไร ไม่ควรทำ ถ้าสิ่งใดที่ไม่เป็นไปตามพระธรรมวินัย ท่านก็ย่อมจะบอกกล่าวให้คฤหัสถ์ทราบได้ อย่างเช่น ถ้าคฤหัสถ์ ถวายเงิน จะตอนบิณฑบาตหรือตอนไหนก็ตาม ต้องปฏิเสธ ต้องไม่รับ พร้อมกับแนะนำด้วยว่า บรรพชิต ไม่รับเงิน ไม่แสวงหาเงินโดยประการทั้งปวง เว้นจากการรับเงิน เป็นต้น
ทุกท่านที่เข้าใจพระธรรมวินัย จะเป็นผู้มีส่วนสำคัญในการรักษาพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ด้วยความเข้าใจของแต่ละคน ทำในสิ่งที่ถูกต้อง เว้นในสิ่งที่ผิด ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...